ในที่สุด AIS หรือ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ควักเงินก้อนโต 3.2 หมื่นล้านบาท เข้าซื้อกิจการในกลุ่มจัสมินฯ ของ นายพิชญ์ โพธารามิก ผู้บุกเบิกและปั้นอินเตอร์เน็ตบรอดแบนด์ 3BB ผงาดเป็นเบอร์หนึ่ง โดยมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมอบหมายให้บริษัทย่อย คือ บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด ("AWN") เข้าซื้อกิจการในกลุ่มบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ดังนี้
มาแล้ว "AIS" เทคโอเวอร์ "3BB" ซื้อหุ้น-หน่วยลงทุน จากกลุ่ม JAS 3.2 หมื่นล้าน
"JAS"ทิ้งธุรกิจบรอดแบนด์ ขาย 3BB พ่วงใยแก้วนำแสงให้ AIS มูลค่า 32,420 ล้าน
กระแสการซื้อ-ขายหุ้น ในกลุ่มสื่อสารระหว่าง JAS กับ AIS นั้นมีมาต่อเนื่อง แต่สุดท้ายมาสรุปที่ JAS ตัดสินใจขายธุรกิจ 3BB พ่วงใยแก้วนำแสง ซึ่งทั้งสองโครงการ “พิชญ์ โพธารามิก” เป็นผู้บุกเบิกอินเตอร์เน็ตรายแรกก็ว่าได้ จนมีผู้ใช้บริการ 3.6 ล้านราย
เหตุผลที่ JAS ขายหุ้นทั้งหมดในครั้งนี้เพราะ JAS ขาดอาวุธสำคัญ คือ โมบาย แม้เข้าร่วมประมูลคลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิรตซ์ได้ แต่สุดท้ายหาพันธมิตรเข้ามาร่วมทุนไม่สำเร็จ โดนสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ ยึดเงินค้ำประกัน 644 ล้านบาท หลังไม่สามารถหาเงินมาชำระค่าใบอนุญาตงวดแรก 8,040 ล้านบาทได้
AIS ผงาดมือถือ-บอรดแบนด์
หันมาฝาก AIS การเข้ามาซื้อหุ้น 3BB พลิกเกมสู้ “TRUE-DTAC” ที่ตัดสินใจควบรวมธุรกิจมือถือ ส่งผลให้ AIS ต้องหาทางต่อยอดธุรกิจ โดยเฉพาะอินเตอร์เน็ตบรอดแบนด์ที่ยังเป็นรอง “ทรูออนไลน์” ทางเดียวที่ทำได้ คือ การเข้าไปซื้อหุ้น 3BB ได้ทั้งฐานลูกค้า และ ที่สำคัญสายไฟเบอร์ใยแก้วนำแสงบริหารจัดการโดยกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอรเน็ต จัสมิน หรือ JASIF ได้ลงทุนสายไฟเบอร์ใยแก้วนำแสงทั่วประเทศมีระยะทาง จํานวน 1,680,500 คอร์กิโลเมตร อีกด้วย
นายสารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF ผู้ถือหุ้นใหญ่ ของ INTUCH หรือ บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า หลังจากนี้จะขออนุญาติในการเข้าทำธุรกรรมจาก กสทช.ก่อน ถึงจะลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นและหน่วยลงทุนคาดว่าธุรกรรมจะเสร็จสมบูรณ์ภายในไตรมาส 1 ปี 2566 การเข้าไปซื้อหุ้นครั้งนี้ส่งผลให้ AIS ได้จำนวนลูกค้า 3BB และ สายไฟเบอร์ใยแก้วนำแสง ต่อยอดธุรกิจแบบครบวงจร อีกด้วย