ดีเดย์ 1 ส.ค.นี้ จากโรงหนังลิโด้ สู่ “ลิโด้ คอนเนค”โลกแห่งงานศิลปะ

26 ก.ค. 2562 | 09:30 น.
อัปเดตล่าสุด :01 ส.ค. 2562 | 01:56 น.

        “โรงภาพยนตร์ลิโด้” ที่ทุกคนรู้จัก กำเนิดขึ้นในย่านชื่อดังกลางเมืองหลวงอย่างสยามสแควร์ เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2511 หรือเมื่อประมาณ 50 ปีที่แล้ว ที่มีจำนวนความจุเก้าอี้ถึง 1,000 ที่นั่ง ถือเป็นอีกโรงภาพยนตร์ใหญ่           ณ เวลานั้น เปิดฉายรอบปฐมทัศน์ด้วยเรื่อง ศึกเซบาสเตียน” (Guns for San Sebastian) นับเป็นโรงภาพยนตร์ลำดับสองในโรงภาพยนตร์เครือเอเพ็กซ์  ต่อมาเมื่อสัญญาหมดลงลิโดก็ถูกปิดตัวไปเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2561 กลายเป็นตำนานโรงภาพยนตร์ที่เรายังไม่มีวันลืม

ดีเดย์ 1 ส.ค.นี้ จากโรงหนังลิโด้ สู่ “ลิโด้ คอนเนค”โลกแห่งงานศิลปะ

        หลังจากที่โรงภาพยนตร์แห่งความทรงจำอย่าง ลิโด้ โบกมือลาพวกเราไปในช่วงกลางปี 2561 ที่ผ่านมานั้น กลิ่นของวันสุดท้ายแห่งการจากลาก็เริ่มซาลง การกลับมาของลิโดที่มีชื่อใหม่แบบสุดแนวด้วยการเติมไม้โทเข้าไปจึงได้ชื่อว่า "ลิโด้ "การกลับมาครั้งนี้ ลิโด้ คอนเนค”  แห่งใหม่จะถูกรีโนเวทให้กลายเป็นพื้นที่สร้างสรรค์ที่เต็มไปด้วยผลงานและกิจกรรมมากมายในด้านศิลปะทุกแขนง

          ไม่ว่าจะเป็นดนตรี งานออกแบบ การแสดง และพื้นที่เวิร์คช็อปต่างๆ มากมาย แถมตัวอาคารเองได้ถูกออกแบบให้โมเดิร์นสวยงามมากขึ้น

ดีเดย์ 1 ส.ค.นี้ จากโรงหนังลิโด้ สู่ “ลิโด้ คอนเนค”โลกแห่งงานศิลปะ

          ลิโด้ คอนเนค คือ เรื่องราวที่เราจะสื่อสารเล่าเรื่องให้คนทั่วไปได้เห็นและอยากกลับมาหาลิโด้อีกครั้ง ต้องการเปิดกว้างให้ผู้คนทั่วไปได้เข้าถึงมากขึ้น และเป็นพื้นที่ของโอกาสที่จะเปิดโอกาสให้ทุกคนมาช่วยกันร้อยเรียงสร้างสรรค์ผลงานศิลปะทุกแขนง ร่วมสร้างความเปลี่ยนแปลงในสังคมผ่านศิลปะแขนงต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ศิลปะการแสดง ดนตรี จิตรกรรม หรือ วรรณกรรม และ อื่น อีกมากมาย เพื่อที่จะให้ศิลปะทุกรูปแบบเป็นสิ่งที่เข้าถึงง่ายสำหรับทุกเพศและทุกวัย อีกทั้งยังเป็นพื้นที่แห่งโอกาสสำหรับสังคมที่จะปลดปล่อย ความสามารถให้โลกได้เห็นและเติบโตไปกับศิลปินรุ่นใหม่

ดีเดย์ 1 ส.ค.นี้ จากโรงหนังลิโด้ สู่ “ลิโด้ คอนเนค”โลกแห่งงานศิลปะ

          ในการกลับมาครั้งนี้ ลิโด้ ยังคงรอคอยให้ทุกคนกลับมาฝากเรื่องราวบทใหม่ และพบกับประสบการณ์ที่หลากหลายมากขึ้น จะไม่ใช่แค่ภาพยนตร์ แต่เป็นทั้งดนตรี งานศิลปะ และงานการแสดงอื่นๆอีกมายมาก พร้อมให้ทุกคนมาเก็บเกี่ยวความหมาย จุดประกายพร้อมกันในวันที่ 1 สิงหาคมนี้