วันนี้ (23 มีนาคม 2564) นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานเปิดโครงการ "ฝูงบินท่องเที่ยวไทย Amazing ยิ่งกว่าเดิม" โดยจับมือ 6 สายการบินและพันธมิตร จัดแพ็กเกจเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ
กระตุ้นให้เกิดการเดินทางหลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั้ง 6 สายการบินประกอบไปด้วย นกแอร์ ไทยแอร์เอเชีย ไทยไลอ้อนแอร์ ไทยสมายส์ ไทยเวียตเจ็ท บางกอกแอร์เวย์ส
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า "ฝูงบินท่องเที่ยวไทย" เป็นโครงการที่แสดงถึงความร่วมมือร่วมใจกันทั้งภาครัฐและเอกชน ในภาวะที่ต้องเร่งให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะชะลอการเดินทางหลังการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
ทั้งผู้ที่อยู่ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและอยู่วงนอกอุตสาหกรรมท่องเที่ยว สามารถกระตุ้นให้ประชาชนสนใจ ผนวกกับมีความเชื่อมั่นในการเดินทาง และทำให้เกิดการเดินทางในทุกภูมิภาคในระยะเวลาอันใกล้
พร้อมต้องขอขอบคุณ บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)หรือทอท. และกรมควบคุมโรค ซึ่งดูแลมาตรการทางสาธารณสุข ตลอดระยะเวลาการจัดกิจกรรมในครั้งนี้
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า การเดินทางด้วยเครื่องบิน (Air Travel) ถือว่าเป็นกลไกสำคัญในการเดินทางท่องเที่ยว และมีความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยทางสุขอนามัย อีกทั้งยังสามารถลดระยะเวลาในการเดินทาง ส่งผลให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางได้ใกลขึ้น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวกลุ่มวัยทำงานและคนรุ่นใหม่ซึ่งมักจะมีวันลาที่จำกัด
ททท. จึงได้จัดโครงการฯ ขึ้นภายใต้ความร่วมมือจากสมาคมสายการบินประเทศไทย และพันธมิตร 6 สายการบินได้แก่ นกแอร์ ไทยแอร์เอเชีย ไทยไลอ้อนแอร์ ไทยสมายส์ ไทยเวียตเจ็ทและบางกอกแอร์เวย์ส ร่วมกันมอบส่วนลดหรือสิทธิพิศษให้แก่นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม 2564 เป็นต้นไป
ตามโปรโมชั่นของแต่ละสายการบิน เพื่อช่วยกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวไปยังภูมิภาคต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาทิ
ทั้งนี้ ททท. คาดหวังว่า โครงการนี้จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยส่งเสริมการขาย เพื่อสร้างรายได้ให้ภาคส่วนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยสามารถกลับมามีกำไรอย่างยั่งยืน รวมถึงการมุ่งเน้นการเพิ่มมูลค่าสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยว ไม่เน้นจำนวนและปริมาณ เพื่อก้าวสู่การท่องเที่ยวมูลค่าสูง (High Value Tourism) ต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: