น.ส.วาสิตา นุยจันทึก ครูที่ปรึกษาโครงการ ร้านกาแฟเด็กน้อย เปิดเผยว่า กลุ่มนักเรียน "โรงเรียนบ้านห้วยหัน" ตำบลวังชมภู อำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ ได้มีการฝึกอบรมใน "โครงการร้านกาแฟเด็กน้อย สู่อาชีพยั่งยืน" ฝึกอาชีพการทำกาแฟ เครื่องดื่ม น้ำผลไม้ ซึ่งบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ สนับสนุน ในฐานะหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง มูลนิธิสานอนาคตการศึกษาไทย CONNEXT ED ที่มีเป้าหมายยกระดับคุณภาพการศึกษาของไทย สร้างเด็กดีและเด็กเก่ง
"ร้านกาแฟเด็กน้อย สู่อาชีพยั่งยืน" ตั้งอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวของชุมชนบ้านห้วยหัน-ไทรงาม จากการที่โรงเรียนได้รับเลือกให้เข้าโครงการหมู่บ้าน D-HOPE โดยหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่ ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ของจังหวัดชัยภูมิ โรงเรียนเป็นจุดรับนักท่องเที่ยว ด้วยทำเลที่ตั้งของโรงเรียนใกล้ชิดเส้นทางธรรมชาติ มีน้ำตกแก่งดาดาด ผ่านด้านหลังโรงเรียน
ในพื้นที่บริเวณโรงเรียนมีพิพิธภัณฑ์ชุมชนรอยเท้าไดโนเสาร์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลกมากกว่า 210 ล้านปี การวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์สินค้าชาวบ้าน ของดีประจำชุมชน เช่น ผ้าขาวม้าทอมือ หลามปลาแม่น้ำชี ฯลฯ ซึ่งนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมเยือนที่นี่ จะได้รับการต้อนรับจากยุวมัคคุเทศก์น้อย พาเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆ สัมผัสธรรมชาติที่สวยงาม และยังได้อุดหนุนร้านกาแฟของเด็กๆ อีกด้วย ที่สำคัญ คือ ร้านกาแฟที่นี่ ใช้กระบอกไม้ไผ่ที่ซื้อจากชาวบ้านเป็นภาชนะ ถือเป็นการช่วยสร้างรายได้ให้กับชุมชนอีกด้วย
รร.บ้านห้วยหัน เป็นโรงเรียนขยายโอกาสที่เปิดการสอนตั้งแต่ชั้นอนุบาล 1 ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 3 ตั้งอยู่ในชุมชนที่ประกอบอาชีพเกษตรและรับจ้างทั่วไป ซึ่งโรงเรียนส่งเสริมให้นักเรียนมีทักษะด้านการประกอบอาชีพ ทักษะในการค้าขาย ด้วยการนำนักเรียนเข้าอบรมการทำกาแฟและน้ำผลไม้ เพื่อให้นักเรียนนำความรู้ไปประกอบอาชีพได้ สร้างรายได้ให้แก่ตัวเอง โรงเรียน และชุมชน นักเรียนได้ใช้เวลาว่างเกิดประโยชน์ นอกจากนักเรียนเรียนรู้วิธีทำกาแฟแล้ว ได้เรียนรู้การบันทึกรายรับ-รายจ่าย คำนวณผลกำไรและขาดทุนที่เกิดจากการดำเนินโครงการ สู่การเป็นนักธุรกิจน้อยและประกอบอาชีพที่ยั่งยืนต่อไปในอนาคต
กิจกรรม "ร้านกาแฟเด็กน้อย" เน้นส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ฝึกทักษะอาชีพจากการลงมือปฏิบัติจริง ซึ่งปัจจุบัน การเปิดร้านกาแฟกำลังได้รับความนิยม และมีผู้ที่ชื่นชอบดื่มกาแฟจำนวนมาก มีการปลูกเมล็ดกาแฟพันธุ์ดีในประเทศ และในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ “สัมผัสรสชาติเมล็ดกาแฟเข้มข้น Arabica ผสมผสานกับ Robusta ที่มีกลิ่นหอมชวนดื่ม” เมื่อนำมาใส่ในแก้วไม้ไผ่ ก็ยิ่งทำให้มีรสชาติกลมกล่อมลงตัว ไม่เหมือนใคร ส่งเสริมทักษะการมีอาชีพให้กับนักเรียน
สิ่งสำคัญเพื่อเป็นการส่งเสริมการสร้างรายได้ระหว่างการศึกษาอย่างยั่งยืนให้แก่นักเรียน โดยใช้เวลาในช่วงพักกลางวัน และหลังเลิกเรียนให้นักเรียนทำกิจกรรมที่เกิดประโยชน์ มีความสามัคคี ร่วมมือทำงานเป็นทีม เมื่อลูกค้าซื้อเครื่องดื่มที่ใส่แก้วกระบอกไม้ไผ่จากทางร้าน ถ่ายรูปเช็คอินลงเพจ “กาแฟเด็กน้อย By Huayhun School” จะได้รับส่วนลดทันทีแก้วละ 5 บาท มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์โปรโมชั่นที่ดึงดูดลูกค้าเพิ่มทักษะในการวางกลยุทธ์การขายสินค้า ทำให้นักเรียนได้เรียนรู้ฝึกการคำนวณงบประมาณต้นทุน-กำไร รายได้จากการขาย ฝึกให้นักเรียนมีจิตใจในการให้บริการ(Service mind) ยิ้มแย้มแจ่มใสมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี และกิจกรรมการเขียนเพ้นท์แก้วบนกระบอกไม่ไผ่เอกลักษณ์เฉพาะตัว มีการใช้แก้วไม้ไผ่ซึ่งเป็นวัสดุธรรมชาติโดยมีปลูกไว้ในชุมชน เพื่อเป็นการส่งเสริมรายได้ให้กับชาวบ้าน ส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน และช่วยลดขยะพลาสติกรักษาสิ่งแวดล้อมได้อีกด้วย
นายหารศึก ภาระหันต์ ผู้อำนวยการชำนาญการพิเศษ รร. บ้านห้วยหัน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต 1 กล่าวว่า การศึกษา คือ การลงทุน ทำให้นักเรียนที่เข้าร่วมโครงการกาแฟเด็กน้อย สู่อาชีพยั่งยืน จะต้องลงทุนในการพัฒนาพฤติกรรมที่แสดงถึง ความขยัน การประหยัด ความซื่อสัตย์ ความมีวินัย ความสุภาพ ความสะอาด ความสามัคคี ความมีน้ำใจ แต่สิ่งที่ไม่ต้องลงทุน คือ ทุนในการเปิดร้านกาแฟเด็กน้อย ซึ่งซีพีเอฟเป็นผู้ลงทุนให้ ซึ่งโรงเรียนคาดหวังว่าโครงการกาแฟเด็กน้อย สู่อาชีพยั่งยืน จะเป็นธุรกิจเล็กๆ ในโรงเรียนที่จะส่งเสริมให้นักเรียนมีทางเลือก และมีเป้าหมายหลังจากที่จบการศึกษาจากโรงเรียนแห่งนี้แล้ว สามารถนำประสบการณ์ไปต่อยอด หรือเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้น หรือหากไม่ได้ศีกษาต่อก็สามารถนำไปประกอบอาชีพ เป็นรายได้เลี้ยงตนเองและครอบครัว ต้องขอขอบคุณ ซีพีเอฟและSchool Partner (SP) ของซีพีเอฟ ช่วยประสานงาน ให้คำแนะนำ และเป็นที่ปรึกษา ทำงานร่วมกัน
"โครงการร้านกาแฟเด็กน้อย สู่อาชีพยั่งยืน” เป็นโครงการสร้างอาชีพที่ซีพีเอฟให้การสนับสนุนโรงเรียนบ้านห้วยหัน ภายใต้การขับเคลื่อนการทำงานของมูลนิธิสานอนาคตการศึกษา CONNEXT ED ซึ่งมีทั้งโครงการที่ส่งเสริมศักยภาพของนักเรียน ด้านวิชาการ ด้านอาชีพ การทำเกษตรอินทรีย์รักษ์สิ่งแวดล้อม โครงการตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เป็นต้น โดยปัจจุบัน มีโรงเรียนภายใต้การดูแลของซีพีเอฟ 301 โรงเรียน ในพื้นที่ 4 จังหวัด คือ นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสระบุรี ผ่านการดำเนินงานของ School Partner ของซีพีเอฟ 65 คน ภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ 5 ด้านหลัก คือ