นางสาวไหมฟ้ารดา (Maifarada) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วิสดอม วี กรุ๊ป จำกัด (WISDOM V GROUP CO., LTD) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้พัฒนาแพลทฟอร์มสำหรับการศึกษา “Mataverst of Education” ที่มีทั้งทักษะวิชาการ (Hard Skill and Academic), ทักษะการทำงาน (Working Skill), ทักษะชีวิตต่างๆ (Soft Skill) เพื่อเป็นแหล่งรวมการศึกษายุคใหม่ของประเทศไทย เบื้องต้นมีวิทยากรเข้าร่วมแล้ว 10,000 คน
การจัดหลักสูตรเรียนออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์ม “Metaverse of Education” มีการเตรียมตัวมาประมาณ 2-3 ปีแล้ว ทั้งการลงมือศึกษาและทำวิจัยร่วมด้วย เพื่อหาจุดเด่น จุดด้อย ให้ได้หลักสูตรเรียนออนไลน์ที่ดีที่สุด เนื่องจากการเรียนในห้องเรียนปกติกับการเรียนทางออนไลน์มีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงทั้งวิทยากร ผู้เรียน สถานที่ และช่วงระยะเวลาของการเข้าห้องเรียน การพัฒนาหลักสูตรเรียนออนไลน์จึงต้องแตกต่าง โดยการนำหลักจิตวิทยาการเรียนรู้เข้ามาผนวกในหลักสูตรด้วย คือมีการให้ความสำคัญกับแรงบันดาลใจ (Inspiration) ศาสตร์และศิลปะเข้าไป เพื่อดึงความสนใจของผู้เรียนให้อยู่กับเนื้อหาที่วิทยากรกำลังสอนทางออนไลน์ รวมทั้งแต่ละหลักสูตรยังต้องอิงกับการเรียนรู้ของต่างประเทศที่ประสบความสำเร็จไม่ว่าจะเป็นการศึกษาของประเทศสหรัฐอเมริกา, ยุโรป, ญี่ปุ่น, สิงคโปร์, เกาหลีและอื่นๆ มาประยุกต์ใช้
จากการทำวิจัยก่อนที่จะมีการพัฒนาหลักสูตรสู่ Metaverse พบว่าถ้านำคอนเทนต์การเรียนรู้แบบเดิมๆ ที่ใช้ในห้องเรียนปกติ มาเรียนในห้องเรียนออนไลน์พบว่าผู้เรียนจะไม่ประสบความสำเร็จในการเรียนรู้ เพราะเป็นการเรียนรู้คนละบรรยากาศ สถานที่/เวลาแตกต่างกัน ซึ่งการเรียนออนไลน์นั้น ผู้เรียนจะมีระยะเวลาโฟกัสกับเนื้อหาเพียงแค่ 10-15 นาทีแรก เท่านั้น
การจัดหลักสูตรการเรียนออนไลน์บนแพลตฟอร์ม “Mataverse” จึงไม่เหมือนกับคลิปวิดีโอทั่ว ๆ ไป ที่สอนกันทางช่องยูทูปหรือทางสื่อ Social Facebook แต่จะเน้นประสบการณ์การเรียนรู้แบบจำลองเชิงเรียนจริง โดยหลักสูตรที่สอนออนไลน์บนแพลตฟอร์มจะมีการแบ่งช่วงเวลาของการเรียนไว้ 5 ช่วง หลักๆ ด้วยกัน คือ ในช่วงเริ่มต้นของการเรียนจะให้เวลาประมาณ 15 นาที และเนื้อหาจะมุ่งเน้นการให้ Inspiration กับผู้เรียน ส่วนช่วงที่ 2 วิทยากรจะค่อย ๆ ลงเนื้อหา รายละเอียด ส่วนในช่วงที่ 3 วิทยากรจะทบทวนเนื้อหา ส่วนช่วงที่ 4 จะเป็นการสรุปเนื้อหาทั้งหมด และช่วงที่ 5 วิทยากรจะทำความเข้าใจให้กับผู้เรียนในประเด็นสำคัญ ๆ ดังนั้นแต่ละช่วงเวลาที่เรียนออนไลน์จะใช้เวลาเพียงแค่ 10 -15 นาที เท่านั้นและจะมี Pop Up ให้ผู้เรียนมี Inter Action เพื่อดึงดูดผู้เรียนให้อยู่กับเนื้อหาตลอด จะเห็นว่าบรรยากาศมีความแตกต่างกับคอสเรียนออนไลน์ทั่วไปที่เป็นการสื่อสารทางเดียวทำให้ผู้เรียนเบื่อไม่จดจ่อกับเนื้อหา และขาดเป้าหมาย
อีกจุดเด่นของหลักสูตรเรียนออนไลน์บนแพลตฟอร์ม “ Metaverse of Education” ก็คือจะมีการเสริมความรู้ทักษะทั้งด้านการทำงานเพื่อให้เข้ากับการทำงานในโลกยุคใหม่ ซึ่งทักษะการเรียนรู้จะไม่เหมือนการเรียนในยุคเดิมอีกต่อไป หลักสูตรต่าง ๆ มีการนำร่องไว้เรียบร้อยแล้วโดยวิสดอม วี กรุ๊ป และพร้อมที่จะทำการสอนได้ 100% เร็วๆ นี้ โดยจะมีการประยุกต์หลักสูตรจิตวิทยาและคำสอนในพระพุทธศาสนาเพื่อพัฒนาจิตใจของผู้เรียนไปพร้อมกัน
แพลตฟอร์ม “Metaverse of Education” นอกจากจะเป็นการเปิดกว้างให้วิทยากร/ติวเตอร์ที่มีความรู้ความสามารถโดดเด่นด้านใดด้านหนึ่งมาอยู่บนแพลตฟอร์มแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมภาคการศึกษาในภาพรวมและเป็นการช่วยเหลือสังคมร่วมกัน นอกเหนือจากการมีรายได้ โดยตั้งเป้าจะมีผู้เรียนในทุกสาขาอาชีพเข้ามาอยู่ในแพลตฟอร์ม 10 ล้านคน ภายใน 2 ปี เริ่มตั้งแต่ปี 2565
วิสดอม วี กรุ๊ป จะทำหน้าที่ดูแลเทคโนโลยีระบบหลังบ้าน ขณะเดียวกันก็มีบทบาทของการเป็นสถาบันพัฒนาวิชาการ การพัฒนาทรัพยากรบุคคล ซึ่งใครที่ผ่านการอบรมหลักสูตรเรียนออนไลน์บนแพลตฟอร์มของ “Education Commerce” จะมี Certificate ซึ่งรับรองโดยหน่วยงานภาครัฐและเอกชนและให้ถือเป็นมาตรฐานการยืนยันในทักษะความรู้ ความสามารถที่ผู้จบหลักสูตรได้รับโดยผู้เชี่ยวชาญในการออกแบบการรับรองในระดับนานาชาติ และจะเป็นด่านแรกในการเข้าทำงาน
อย่างไรก็ตามถ้าสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ดีขึ้น บริษัทมีแผนที่จะจัดงาน World Education & University Expo’ 2022 ปลายปีนี้ ซึ่งข้อดีของการจัดงานจะทำให้นักเรียนได้มีโอกาสพบกับนักวิชาการจริงๆ ทั้งด้าน Hard Skills และ Soft Skills