ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก ออกแถลงเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคฝีดาษวานร หรือฝีดาษลิง ที่พบผู้ป่วยสะสมไม่ต่ำกว่า 3,000 คน ในเกือบ 50 ประเทศ และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย ภายในเวลาเพียง 6 สัปดาห์
โดยระบุว่า “ยังไม่อยู่ในระดับภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ” แต่สถานการณ์ยังน่าวิตกกังวลอย่างมาก และทุกประเทศต้องร่วมกันจับตารูปแบบการแพร่เชื้อ และการแสดงอาการของโรคอย่างใกล้ชิดต่อไป
นพ.เทดรอส แอดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกเปิดเผยว่า คณะผู้เชี่ยวชาญที่ร่วมพิจารณายังคงมีความเห็นแตกต่างกัน และอาจมีการประชุมร่วมกันอีกในอนาคต หากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น การประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศตามแนวทางของ WHO หมายความว่า โรคนั้นมีการแพร่ระบาด “อย่างรุนแรง ฉับพลัน และผิดปกติ”
โดยตลอด 1 ทศวรรษที่ผ่านมา ดับเบิลยูเอชโอประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศมาแล้ว 6 ครั้ง ได้แก่ การแพร่ระบาดของไข้หวัดนก เมื่อปี 2552 การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลาในภาคตะวันตกของทวีปแอฟริกา ระหว่างปี 2556-2559 สถานการณ์โรคโปลิโอ เมื่อปี 2557
ตามด้วยการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสซิกา เมื่อปี 2559 การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลาในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก (ดีอาร์คองโก) เมื่อปี 2562 และการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เมื่อปี 2563
ปัจจุบัน เชื้อไวรัสฝีดาษลิงมี 2 สายพันธุ์หลัก คือสายพันธุ์แอฟริกาตะวันตก มีอัตราการเสียชีวิตประมาณ 1% และสายพันธุ์ที่ราบลุ่มคองโก มีอัตราการเสียชีวิตประมาณ 10%