มะนุดทิพย์ เดินทอดน่องเข้ามาสั่งอาหารมื้อเช้ากับ ป้าบูด ว่า “ข้าวราดแกงปลาดุก ผมเอาแต่เนื้อปลาล้วนๆ หัวกับหางไม่เอานะป้า” ป้าบูด ชู้ตมุกนำร่องว่า “อู๊ว! เวลาป้าไปซื้อปลาดุกจากตลาด มันก็มาด้วยกันทั้งตัวตั้งแต่หัวยันหาง ป้าเองก็ยังเลือกตามใจชอบไม่ได้เล้ย..ย..ย” มะนุดทิพย์ ชู้ตคืนไปทันทีว่า “ถ้าป้าเกิดมามีปานแดงแถมมาที่แก้ม ป้าจะเก็บปานแดงเอาไว้ หรือ จะไปให้หมอผ่าตัดเอามันออกล่ะป้า”
ป้าบูด ก็พูดติดบ่วง เวียดกงตามฟอร์มว่า “บ๊ะ! เอาออกดิ จะเก็บไว้บูชาทำไมล่ะ” มะนุดทิพย์ ก็รีบหยิบคัตเตอร์มากรีด ป้าบูด ว่า “นั่นนะสิป้า นี่ขนาดฟ้าดินแถมปานแดงให้มาฟรีๆ ป้าไม่ชอบใจก็เลยไม่เอามันไว้ใช่อ๊ะป่ะ ในอารมณ์เดียวกัน ผมก็ไม่ชอบหัวกะหาง แล้วผมจะควักตังค์ซื้อหัวกะหางเอามานั่งแทะให้มันรำคาญใจทำไมล่ะป้า” (ฮา)
ป้าบูด ควรเจียดเวลาเสาะหาคลิป โค้ชแบงค์ เปิดเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ จะได้ทำความเข้าใจเพื่อทำใจ ปลงได้บ้างว่า อย่ามัวซอยเท้าย่ำที่เดิมเป็น มะนุดป้า คิดจะเป็นแม่ค้าต้องพัฒนาตัวตนเปลี่ยนจากคนเป็นมนุษย์
หันมาใช้หลัก พหูสูต คือ ฟังมาก จำได้ ท่องให้คล่องปาก เพ่งให้เห็นเป็นภาพจำขึ้นใจ ขบให้แตกด้วยหลักวิชาคิดไปคิดมาค้นหาเหตุให้ได้ว่า “ลูกค้าหายไปไหน?” Professor Ray Jutkins ท่านอุตส่าห์ทำวิจัยจนได้คำตอบว่า เหตุที่ลูกค้าหวนกลับมาอุดหนุนน้อยลง เนื่องจาก…
สิ้นชีวิต แต่งงาน ตกงาน 04%
หูเบาถูกเพื่อนยุให้เลิกซื้อ 05%
คู่แข่งดูดีกว่าเรา 09%
เรามีสภาพแย่ลง 14%
คนในร้านไม่แยแสลูกค้า 68%
“คนในรถที่ไม่แยแสผู้โบก” สเปคนี้ก็ไม่ธรรมดา ว่ากันว่าคนพวกนี้มี “เลือดกรุ๊ฟสตอเบอรี่” (ฮา)
ก่อนจะมีโควิดพี่แกเล่นตัวส่ายหัวปฏิเสธไม่รับผู้โดยสาร “พอดีแก๊สหมด” เคยคิดกันเล่นๆ ว่าจะซื้อถังแก๊สลากเอาไปยืนรอดูสิว่าโบกแล้วจะรับจะรับ หรือว่าจะแถไปทางไหน (ฮา) ครั้นเมื่อโควิดอาละวาดพี่แกก็ขับปาดเข้ามาแย่งรับกันพัลวัน เนื่องจาก ช่วงนั้นไม่หยิ่งเพราะมีรายได้วันละไม่ถึงพัน (ฮา) ช่วงนี้เริ่มจะออกลายเหมือนเดิม
ในขณะเดียวกัน มี “มนุษย์ในรถที่แยแสผู้โบก” ออกโรงติดป้ายประกาศกันนัวเสนอตัวรับผู้โดยสารไปทุกถิ่น มีอยู่คันหนึ่งเขาพ่นสีเป็นตัวอักษรเอาไว้ตรงกระโปรงรถว่า “ดาวอังคารก็ไปถ้ามีคนจ้าง!” (ฮา)
ปฏิกริยาของ“คนในรถที่ไม่แยแสผู้โบก” ลักษณะเวไนยสัตว์เช่นนี้ยังเป็น “คนที่ยังไม่ได้คน” ชัดกว่าจะถือว่าเป็นมนุษย์ ยอมรับว่าคนมีสิทธิ์ที่จะดีใจที่พูดได้ ร่างกายตั้งตรง รู้จักใช้เสื้อผ้าปิดกายไม่อุจาด แล้วมีอะไรให้ภูมิใจหรือเปล่า
ขอเล่าเรื่อง เมคเซนส์ ให้ฟังเป็นอนุสติสักนิด หมอดูโหงวเฮ้งชั้นเซียนคนหนึ่ง มาหา เล่าปี่ เล่าปี่ ขอให้หมอช่วยดูนรลักษณ์ หมอดูพิจารณาแล้วบอกกับ เล่าปี่ ว่า “โหงวเฮ้งของท่านยอดเยี่ยม ใบหน้าขาว จิตใจก็สะอาดบริสุทธิ์”
เล่าปี่ ขอให้พิจารณา กวนอู น้องร่วมสาบาน หมอดูหน้า กวนอู ก็กล่าวว่า “โหงวเฮ้งของท่านก็ดียิ่ง ใบหน้าแดงก่ำ จิตใจก็เร่าร้อนดั่งกองเพลิง”
เตียวหุย ได้ยินว่า หมอดูโหงวเฮ้งชั้นเซียนเดินทางมาพบพี่ใหญ่และพี่รอง จึงเดินเข้ามากะว่าจะร่วมวง แต่ทว่า เล่าปี่ รีบลุกขึ้นห้ามปราม เตียวหุย เอาไว้ พร้อมกับโปรยปรายยาหอมว่า “ช้าก่อนๆ น้องเล็กโหงวเฮ้งดีอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องดูหรอก!”
เตียวหุย มีศีรษะโตเหมือนเสือ หน้าสีดำ ตาพองโต เสียงดังปานฟ้าผ่า กิริยาดุจดั่งม้าควบ อารมณ์ร้อน นิสัยวู่วาม ถือเป็นผู้มีพละกำลังมากกว่าใครในกลุ่มสามพี่น้อง และ อาวุธประจำตัว คือ ทวนยาวอสรพิษ (ฮา) ถ้าใครจะแย้งว่า คนไม่เห็นคนเป็นคนก็ไม่ใช่คน ผมก็จะขอต่อยอดว่า คนที่ไม่พยายามจะยกระดับตนขึ้นไปเป็นมนุษย์ จัดว่าน่าเสียดายที่เห็นคนเลิศล้ำกว่ามนุษย์
ฝรั่งมังค่าชอบฮาสไตล์นู้ด ช่วงนี้หน้าตาสังคมไทยกำลังบูด ขอเล่ามุกปลุกสติ “มะนู้ด” ให้ครอบครัวหายห่วงว่า ผู้ชายเขาทำอะไรกันบ้างหลังจากมีเพศสัมพันธ์?
04% สูบบุหรี่
05% หลับ
06% กินไข่ลวก
07% อาบน้ำ
78% ลุกขึ้นแต่งตัวกลับบ้านไปหาเมีย! (ฮา)
อย่าลงไม้ลงมืออะไรกันนะ ทำใจกันบ้างสิ ยุคนี้เป็นยุค เสรีภาพทางร่างกาย ไม่ใช่เหรอ?