ใครชอบคาเฟ่ท่ามกลางบรรยากาศขุนเขา สไตล์ญี่ปุ่น แนะนำนี่เลย “โมริ เนเชอรัล ฟาร์ม” Mori Natural Farm เป็นเหมือนบ้านเล็กในป่าใหญ่ ที่ถูกเนรมิตขึ้นในพื้นที่ 10 ไร่ ณ หมู่บ้านม่วงคำ ตำบลโป่งแยง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
ฟาร์มสไตล์สไตล์ญี่ปุ่น ที่มีจุดเริ่มต้นจากความฝันของคุณปอ สิทธิโชค พงศ์พฤกษา และภรรยา จากอดีตวิศวกรไฟฟ้าในบริษัทญี่ปุ่นและอดีตแอร์โฮสเตส สายการบินเจแปนแอร์ไลน์ ที่หันมาใช้ชีวิตเกษตรเชิงวิถีท่ามกลางธรรมชาติในพื้นที่แห่งนี้
กว่าจะสร้างที่นี่ได้คุณปอคำนวณเลยว่าทั้งคู่ต้องเก็บเงินกว่า 20 ปี คุณปอจึงทำอาชีพเสริมด้วยการทำเฟอร์นิเจอร์แบบ Made-to-order จนซื้อที่ดินและเริ่มลงหลักปักฐานได้ ซึ่งเริ่มจากการสร้างโฮมสเตย์ จำนวน 4 หลัง
โดยใช้ประสบการณ์ที่เคยทำงานอยู่ในญี่ปุ่นมากว่า 20 ปี และหลงใหลในวิถีเกษตรกรหมู่บ้านแถบชลบทของญี่ปุ่น มาสร้างสรรค์ที่นี่ให้กลายเป็น “หมู่บ้านโนริในป่าใหญ่”
คุณปอ เล่าว่า “โมริ ในภาษาญี่ปุ่นแปลว่า “ป่า” ไฮไลต์อยู่ที่ต้นโอ๊ก 3 ต้นที่เห็นโดดเด่นในพื้นที่ “ การเข้ามาอยู่ที่นี่ผมอยากใช้สิ่งเดิมในพื้นที่ให้มากที่สุด เพื่อให้บ้านเป็นส่วนหนึ่งของป่า เน้นใช้วัสดุธรรมชาติ และประยุกต์กลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นเข้ามาใส่เป็นแลนด์สเคป
ที่นี่ไม่ได้ใช้ของแพงเลย เราใช้วัสดุดิบจากบ้านเก่ามาสร้างบ้าน ของถูกคุณภาพดีมีมากมาย เราคิดฟังก์ชั่นการใช้งานก่อน และดีไซน์ตามมาที่หลัง”
การจัดสวนที่นี่ปลูกต้นไม้ผสมผสานมีทั้งไม้ดอกและไม้ใบ เน้นปลูกหญ้าแฝกเป็นแนวกันดิน ดอกคัสเตอร์ญี่ปุ่น ที่นำมาหว่านเพื่อคลุมดิน ก็ออกดอกสวยงาม ต้นไม้ดอกไม้ที่ขึ้นมาถ้าดูแล้วไม่เกะกะก็จะถูกปล่อยไว้ให้โตตามธรรมชาติ และการปลูกผักออแกนิค เกษตรวิถีธรรมชาติ เพื่อให้ลูกค้าที่มาเข้าพักได้ทานอาหารที่สดใหม่ ปลอดภัยจากสารเคมี
ทั้งด้วยโมริ เนเชอรัล ฟาร์ม ตั้งอยู่ในช่องเขา ทำให้มีลมโชยตลอดเวลา ด้วยความที่โฮมสเตย์ที่นี่มีอยู่แค่ 4 หลัง แต่บรรยากาศต่างกัน มีทั้งบ้านคอทเทจ เป็นบ้านเล็กๆสไตล์ cottage garden สำหรับ 2 คน ซึ่งมีห้องน้ำกึ่งเอ้าท์ดอร์ที่กว่าจะเดินไปถึงชาวเวอร์ได้ต้องอ้อมต้นบอนขนาดใหญ่เท่าตัวคนเสียก่อน
บ้านหลองข้าว บ้านพักสไตล์ล้านนาสำหรับ 2 คน ,บ้านเรียวคัง บ้านพักสไตล์ญี่ปุ่น,บ้านวาบิซาบิ บ้านพักพักหลังใหญ่ 2 ชั้น ที่สุดพักได้ 5 คนเสริมได้อีก 3 คน ซึ่งโดดเด่นด้วยออนเซ็นในห้องพัก ที่ควบคุมอุณหภูมิ 40 องศาเวลา ห้องพักในฟาร์มเสตย์แห่งนี้ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 2 พันกว่าบาทไปจนถึงหลักหมื่นบาทกันเลยทีเดียว
บ้านพักเหล่านี้สร้างลดหลั่นตามไหล่เขา สลับทุ่งดอกไม้และสวนผักออแกนิค ให้วิวธรรมชาติอันงดงาม ในห้องพักจะมี ชุดยูกาตะ และรองเท้าเกี๊ยะแบบญี่ปุ่น ไว้บริการด้วย
ตื่นเช้าๆลูกค้าจะเก็บผัก มาให้ที่นี่ทำอาหารเช้าให้ได้ รวมถึงเก็บสตอเบอรี่มาทานได้เลย
อาหารเช้าก็มีทั้งผักสลัด ซาบะเทอริยากิ โจ๊กหมูสับข้าวญี่ปุ่น เป็นต้น มาพักที่นี่ต้องจองล่วงหน้า เพราะคิวแน่นมาก
ใครที่ไม่ได้พักที่นี่ ก็ได้ฟิลธรรมชาติท่ามกลางขุนเขาแบบนี้เช่นกัน เพราะที่นี่ได้เปิดให้บริการคาเฟ่ด้วย ซึ่งเพิ่งเปิดมาเพียงไม่กี่ปี นั่งจิบเครื่องดื่มทานเบเกอรี่ ท่ามกลางวิวทิวทัศน์อันงดงาม มันช่างสุขใจจริงๆ
เมนูซิกเนเจอร์ นี่เลย “ฮอกไกโด เครป เซนฉะ เซ็ท” ซึ่งประกอบไปด้วย มัชชะเครป ไอศรีมมัชชะ ซอสมัชชะ วาราบิโมจิ โรยด้วยผงถั่วคินาโกะ จากญี่ปุ่น เสริฟพร้อมชาเขียวเซนฉะร้อนๆ หรือใครชอบเย็นๆก็สั่งชาเขียวเย็นก็ชื่นใจ โดยใครไม่ชอบทานชาเขียวก็เปลี่ยนเป็นช็อกโกแลตเครป สตอเบอรี่ เครป หรือ วานิลาเครปก็ได้
อีกเมนูคือ “ เจแปนนิส บาสก์ ชีสเค้ก” เสริฟพร้อมเลมอนเคิร์ด “บลูเบอรี่ ครัมเบิ้ล ชีสเค้ก” รสชาติเนื้อเค้กเนียนนุ่มสุดๆ
ส่วนเครื่องดื่มยอดฮิตที่มาจากญี่ปุ่น ก็มี “ชาพีชญี่ปุ่น” ทำจากพีชสด น้ำส้มยูสุ ที่ฟรีทมาจากญี่ปุ่น เป็นน้ำส้มสดแท้ ถ้าชอบทานกาแฟต้องไม่พลาดกับ “ ยูสุเอสเพรสโซ” รวมไปถึง “มัชชะลาเต้” “ชาดำแบล็กมิลล์ทรี รสซากุระ”
ตัวท็อปอีกเมนู คือ “มัชชะสตอเบอรี่ ลาเต้” ซึ่งทำมาจากสตอเบอรี่สด รวมถึงเลมอน ก็ปลูกเองที่นี่ นอกจากเบเกอรี่ ก็มีเมนูอาหารให้เลือกด้วยเช่นกัน ซึ่งเป็นฝีมือของภรรยาคุณปอ ซึ่งมีทักษะในเรื่องนี้เป็นอย่างดี
อีกหนึ่งเสน่ห์ของที่นี่ คือ ความน่ารักของน้องหมา ซึ่งมีทั้งหมด 4 ตัว คือ เจ้าแม็กซ์ โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ และครอบครัวสุนัขพันธุ์อาคิตะตัวโต อย่างน้อง โบชิ มิกิ และฮาชิ สุนัขของคุณปอที่เลี่ยงไว้
ทั้งที่นี่ยังมีแมวน้องแมวรวมกว่า 11 ตัว ซึ่งเป็นแมวจรที่คุณปอเลี้ยงไว้ โดยที่นี่ไม่ใช่คาเฟ่หมา-แมว น้องๆก็นั่งนอนตามใจสบายใจเชิบ ทาสแมวชอบเป็นพิเศษ แถมยังมีไก่ที่ลงจากป่ามาหากิน ให้ฟิลธรรมชาติมากๆ ชิลล์แบบนี้รับรองใครได้นี่ นั่งกันจนลืมเวลากันเลยจ๊ะ
"Mori Natural Farm"