อีกหนึ่งไฮไลต์ของการจัดประชุม “APEC 2022” คือ งาน “กาล่า ดินเนอร์” ในวันที่ 18 พ.ย.นี้ เพื่อต้อนรับผู้นำจาก 21 เขตเศรษฐกิจพิเศษ ณ หอประชุมกองทัพเรือ นอกจากอาหารเมนูหลัก “อาหารไทย” ซึ่งรังสรรค์โดย “เชฟชุมพล” หรือ “ชุมพล แจ้งไพร” เซฟระดับมิชลิน ที่จะมาในธีมอาหาร “Sustainable Thai Gastronomy” แล้ว ยังต้องลุ้นการเฟ้นหา “เมนูอาหารแห่งอนาคต” ที่คาดหวังว่าจะเป็นอีกหนึ่งเมนูเด็ดจาก 21 เมนูขึ้นเสิร์ฟผู้นำเอเปค
“เมนูอาหารอนาคต” 21 เมนู เกิดขึ้นจากโครงการ “APEC Future Food for Sustainability” ซึ่งมีผู้เข้าประกวดกว่า 2 พันทีม ประชันฝีมือ แนวคิดเชิงธุรกิจ พร้อมพิชชิ่งไอเดีย ผ่านการประกวดสตาร์ทอัพด้านอาหารอนาคต ภายใต้แนวคิด BCG โมเดล โดยมีเชฟชุมพล เป็นที่ปรึกษาของโครงการ
ทั้ง 21 เมนูไม่เพียงได้รับการโหวตจากคณะกรรมการจากองค์กรชั้นนำด้านอาหารของไทยของไทย คิดเป็นสัดส่วนของผลคะแนนโหวตกว่า 90% แล้ว เหลือผลโหวตอีก 10% ที่เปิดให้ประชาชนทั่วไป ร่วมโหวตเมนูที่ชื่นชอบจากทีมต่างๆผ่าน เว็บไซต์ futurefoodapec (คลิ๊กที่นี่) ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 13 พ.ย.นี้ เมนูไหนชนะเลิศ ไม่เพียงคว้าเงิน 1 ล้านบาทเท่านั้น ยังมีโอกาสในการเป็นตัวแทนนำเสนอเมนูอาหารอนาคตต้อนรับผู้นำ APEC ทั้ง 21 เขตเศรษฐกิจด้วย
เรามาดูหน้าตาอาหารทั้ง 21 เมนูกัน
เริ่มจากเมนู “Thai Style Noodle with OmegaBalaz Sauce” เอาใจคนรักก๋วยเตี๋ยวน้ำตกที่ไม่อยากเติมเลือด ให้ได้ทานอาหาร Low Sodium โดยเลือกทำซอสจากเพรียงทราย จ.ชุมพร ให้โปรตีนทางเลือกคุณภาพสูงเทียบเท่าไข่ไก่ ให้กรดอะมิโนกลูตามิกเทียบเท่าสาหร่ายทะเล ให้สมดุลโอเมก้า 3,6,9 เทียบเท่าปลาทะเลน้ำลึก ผสมผสานโกโก้ออร์แกนิคจากเชียงใหม่ เข้ากับสมุนไพรไทยที่ต้มเคี่ยวในน้ำซุป เพิ่มเส้นใยอาหารด้วยพืชผักผลไม้ออร์แกนิคของสวนราชบุรี และกาญจนบุรี ที่ดีต่อโลก
เมนู“บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจาก microalgae” ครีเอทเมนูบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป โดยนำโปรตีนจากสาหร่ายคอเลล่ามาใช้แทนโปรตีนจากไข่ไก่ที่ผสมอยู่ในตัวแป้งเส้นบะหมี่
เมนู “Green Curry Probiotic Bowl : ข้าวเขียวหวานแห้งโพรไบโอติกส์” รังสรรค์อาหารที่มีจุลินทรีย์ดี เสริมภูมิคุ้มกันและระบบขับถ่าย
เมนู “พืชพันบุกร้านก๋วยเตี๋ยว” องค์ประกอบหลัก ๆ อย่าง เส้นอุด้งไร้แป้งที่ทำจากบุกผสมสาหร่าย ผำ และเห็ดนางฟ้าปลูกเอง ซอสข้นต้มยำน้ำพริกเผาเทมเป้ น้ำมันผักชี ทิลถั่วป่นกระเทียมเจียว สร้างสรรค์เมนูเพื่อให้คนทั่วไปหันมาปรับพฤติกรรมการกินที่ดีต่อร่างกายและสิ่งแวดล้อมไปพร้อม ๆ กัน
เมนู “ขนมไข่ผำชูกำลัง Wolffia Power Energy Dessert” นำเสนอมูสเต้าหู้ไข่ผำ เจลลี่น้ำผึ้งไข่ผำ กราโนล่า ครีมเต้าหู้ผำสด สูตรไม่มีเจลาตินจากสัตว์ ขนมไข่ผำชูกำลัง โดยทั่วไปขนมหวานแบบมูสมักมีเจลาตินจากสัตว์ ขนมทั่วไปก็ไม่ค่อยมีโปรตีน ส่วนผสมมักมีแค่ เนย ไข่ และแป้ง ส่วนเต้าหู้ในท้องตลาดก็ไม่ได้มีผลิตภัณฑ์แนวคิดแบบใหม่ จึงเป็นที่มาของการแปรรูปเต้าหู้อาหารโปรตีนสูงให้เป็นมูสขนมหวานที่มี Functional จาก Super food ให้โปรตีน วิตามิน กรดอะมิโน สารอาหารสูงไม่ต่างจากเนื้อสัตว์และผักสลัด
เมนู “คาร์โบนาร่าด้วยไข่จากพืช (Vegan Cabonara)” สปาเกตตี้เส้นสดเลือกใช้วัตถุดิบที่ให้ค่า gi ต่ำ มีส่วนผสมของข้าว กข 43 และผำจากฟาร์ม Flo Wolffia ที่ให้วิตามิน B12 สูง ตอบโจทย์คนไม่ทานเนื้อสัตว์ ส่วนซอสครีมเข้มข้นได้จากพืชผัก นมข้าวไทยกับธัญพืช แทนนมโอ๊ตหรือนมอัลมอนด์ที่ต้องนำเข้า ผัดกับ Whole-Food Smoked Mushroom Guanciale/ Bacon ที่ทำจากเห็ดรมควันไม้ไทย ใช้ไข่แดงจากพืชผักและดอกไม้ไทย เลือกใช้ชีสหมัก กลิ่นหอมธรรมชาติ จากมอลต์ข้าวไทยและธัญพืช
เมนู “Healthy zaru ramen with Plate based Croquettes” เส้นโปรตีนไข่ขาว ไร้แป้ง พลังงานต่ำ เพิ่มรสสัมผัสด้วยเห็ดแครง และงาขี้ม้อน ซึ่งเป็นวัตถุดิบท้องถิ่นที่มีเอกลักษณ์ความเป็นไทย ทานร่วมกับน้ำซุปที่มีรสชาติโดดเด่นเฉพาะตัว
เมนู “ขนมชั้นในอนาคต"ขนมชั้นสูตรลดน้ำตาล เสริมใยอาหารและโพรไบโอติก” ขนมชั้นนวัตกรรมใหม่ รูปทรงดอกบัวให้กลิ่นและรสน้ำตาลสดหอมหวล ปรับปรุงสูตรลดน้ำตาลมากถึง 40% ด้วยเทคนิคสลับชั้นหวานและจืด เสริมจุลินทรีย์โพรไบโอติกสายพันธุ์พิเศษ มีใยอาหารสูง ราดด้วยซอสโปรตีนมะพร้าวรสเค็มหวาน ครบมิติ หวาน เค็ม นุ่มหนึบ กรุบกรอบ หอมมัน ตามเอกลักษณ์ขนมไทย ส่วนสีชมพูของขนมก็ได้มาจากสารสกัดเปลือกแก้วมังกรที่เสถียรต่อความร้อน ช่วยลด Food-Waste
เมนู “ห่อหอมดวงใจ (ห่อหมก Vegan Ready to Eat)” ห่อหมก Vegan ชนิดผง (READY TO COOK) ซึ่งเป็นการนำ Food Science มาผสานกับ Food Innovation เปลี่ยนรูปลักษณ์จากเดิมให้เป็นแบบผง ที่ให้รสชาติและ Texture อร่อย สด ใหม่ เหมือนนึ่งจากเตา ตอบโจทย์ Life style New Normal
เมนู “Grinch - Kale Passionfruit” ผักที่มาในรูปแบบของหวาน ด้วยการนำผักแคล Superfood มาจับคู่กับเสาวรสเพื่อเพิ่มรสชาติความอร่อยและสดชื่น
เมนู “โครเก็ตพะแนงแพลนเบส” Fine Dining ที่นำมันเทศมาใช้แทนมันฝรั่ง เลือกใช้โปรตีนทดแทนจาก ขนุน เห็ด ธัญพืช และข้าวหอมมะลิไทย มาทำโคเก็ต ราดด้วยซอสพะแนงชุ่มฉ่ำ กรอบนอก นุ่มใน ทั้งเหมาะที่จะต่อยอดเป็นอาหาร Frozen Food ช่วยให้ชาวบ้านมีรายได้ดีขึ้นจากการปลูกพืชหมุนเวียนรักษาคุณภาพหน้าดิน สนับสนุนความยั่งยืนของคนในชุมชนจังหวัดระยอง
เมนู “แค๊บ แค๊บ 8 เซียน” เมนูของว่าง Plant-Based Fusion Food เสิร์ฟในรูปแบบ คานาเป้ พอดีคำ ซึ่งประกอบด้วยแคบหมูจากพืช สอดไส้ด้วยเครื่องเคราจากพืช 8 ชนิด นำมาผัดปรุงรสให้จัดจ้านแบบไทย ตกแต่งสวยงามด้วยไมโครกรีน ดอกไม้ ใบไม้กินได้
เมนู “ข้าวถั่วลูกไก่ยำปักษ์ใต้ ผัก 5 สี” เมนูข้าวยำ ทานคู่กับผักและสมุนไพรพื้นบ้าน 5 สี ทานคู่กับน้ำซอสบูดูวีแกน ที่มีส่วนผสมหลักจากเต้าเจี้ยว อร่อยได้คุณค่าสารอาหารครบ ไม่ต้องง้อเนื้อสัตว์
เมนู “Pudding For Full Liquid iet Patients Energy Plus+” เมนูที่ให้พลังงาน โปรตีน แคลเซียม และวิตามินซีสูง จากวัตถุดิบอย่างถั่วเหลือง อมูมีนทางการแพทย์ ผักและผลไม้สด สามารถทำได้ทั้งอาหารหวานและคาว ตอบโจทย์ในการเป็นอาหารกลุ่มเพิ่มพลังงาน หรือเป็นอาหารทางเลือก
เมนู “ซาชิมิคอลลาเจนจากเกล็ดปลา ผสานคุณค่าไฮยารูรอนิคจากเห็ดหูหนูขาว” ที่ไม่เพียงเข้าถึงไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ยังช่วยเพิ่มมูลค่าให้เห็ด ช่วยลด Waste ในแปรรูปปลา ส่งเสริมการเกษตรแบบยั่งยืน
เมนู “ข้าวหลากรส (Re-rice)” ซึ่งนำข้าวหลากสายพันธุ์ มารังสรรค์ 9 องค์ประกอบเพิ่มมิติ ให้รสสัมผัสที่แตกต่างในหนึ่งจาน ผ่านการแปรรูปข้าวเทคนิคต่างๆ ดึงเอาทั้งรส เปรี้ยว หวาน เค็ม มัน เผ็ด ฝาด รวมถึงสีสันธรรมชาติของสมุนไพรแต่ละชนิด
เมนู “เมี่ยงคำมอร์มิตร” ผสมผสาน 2 อาหารของ 2 ประเทศในกลุ่ม APEC อย่าง “เมี่ยงคำจากไทย” และ “แหนมเนืองจากเวียดนาม” ให้ความกลมกล่อมลงตัวได้ในคำเดียว ดีต่อสุขภาพเพราะมีสมุนไพรพื้นบ้านที่หลากหลาย ใช้โปรตีนจากพืชของ MORE MEAT® ที่ไม่มีโคเลสเตอรอล ไขมันต่ำ
เมนู “ดิปปู รู้งี้กินตั้งนานแล้ว Brain-friendly curry drip” เนื้อปูแพลนท์เบสที่มีวัตถุดิบหลักคือเห็ดหัวลิง ผสมกับขนุนอ่อน เป็นแหล่งโปรตีนทดแทนจากพืช ที่ให้ Texture และความอร่อยไม่แพ้ปู แต่มีราคาถูกกว่าปูถึง 3 เท่า
เมนู “ขนมหนุมเงินหนุนทอง” ต่อยอดเมนูขนมจากการใช้ “แป้งลูกจาก (สูตรต้ม)” พร้อมปรุง ส่วนไส้ขนม 2 รส ได้แก่ ไส้รสเค็ม-มัน และไส้รสหวานทำจาก “เมล็ดขนุนและเนื้อขนุนสุกจัด” นำมาปรุงกับเครื่องเทศที่มีสรรพคุณเป็นยา ใช้นมอัลมอนด์และน้ำผึ้ง แทนกะทิและน้ำตาลทราย ทำให้ขนมมีรสหวาน มัน เค็ม ครบรส
เมนู “ProTim Magket” ไอศกรีมสไตล์แมกนั่ม ที่มีส่วนผสมหลักจากโปรตีนจิ้งโกร่ง นมข้าวถั่ว และกระทิ หรือเรียกง่ายๆก็คือไอติมจากแมลง
เมนู “Plant-Based EGGFast” นวัตกรรมไข่เหลวจากโปรตีนถั่วเขียวมาปรุงกับน้ำมันคาร์โนล่าที่ดีต่อสุขภาพ เสิร์ฟบนขนมปังแป้งข้าวเม่าภูมิปัญญาจากจังหวัดอุดรธานี ทานคู่กับอาโวคาโด ผักสลัดออร์แกนิค หยอดความเผ็ดจัดจ้านสไตล์ไทยด้วยซอสศรีราชาใส่ไข่ผำ ซูเปอร์ฟูด ที่มีคาร์บอนฟุตพริ้นท์ต่ำ
ทั้งนี้เมนูไหนจะชนะเลิศ ต้องรอลุ้นกันในวันที่ 14 พ.ย.นี้ และในช่วงวันที่ 16-18 พ.ย.นี้ ก็จะนำเสนออาหารทั้ง 21 เมนู ผ่านการออกนิทรรศการ ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พร้อมเสิร์ฟเมนูแบบคานาเป้ ให้ทางผู้เข้าร่วมประชุมเอเปคในช่วงเวลาดังกล่าวให้ได้ลิ้มลองด้วย
หน้า 17 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 42 ฉบับที่ 3,833 วันที่ 6 - 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565