จากสนามบินสุวรรณภูมิ ใช้เวลาบินชั่วโมงนิดๆ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ก็นำเราถึงสนามบิน สมุย จากนั้นใช้เวลาราว 15 นาที ก็เดินทางถึง ทราย เกาะสมุย เชิงมน (SAii Koh Samui Choengmon) รีสอร์ตเล็กแต่หรูที่ซ่อนตัวอยู่ริมหาดเชิงมน
หลังเช็คอินเราจะได้รับคำแนะนำให้โหลดแอปพลิเคชั่น SAii ซึ่งสะดวกมากเลย เพราะเป็นเสมือนบัตเลอร์ส่วนตัว ที่เราสามารถเข้าไปดูข้อมูลการบริการต่างๆของรีสอร์ตได้ การอำนวยความสะดวกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบริการในห้องพัก สั่งอาหารไปทานที่ห้อง จองทริปท่องเที่ยวต่างๆ
รวมทั้งยังแซทกับ “SAiilanders” ซึ่งเป็นคำเรียกพนักงานของรีสอร์ต ที่พร้อมตอบคำถามได้ตลอด 24 ชั่วโมงอีกด้วย
ระหว่างเดินไปห้องพักบรรยากาศร่มรื่นมาก รีสอร์ตแห่งนี้มีห้องพูลวิลล่าทั้งหมด 52 หลัง ขนาด 80-100 ตรม. เป็นห้องสวีทและพูลวิลล่าทุกหลัง ใน 3 รูมไทด์ ซึ่งแตกต่างกันตามขนาดห้องและไซซ์ของสระว่ายน้ำส่วนตัว
ไม่ว่าจะเป็น Plunge Pool Suite (ห้องสวีทพร้อมสระแช่ตัว) เหมาะกับคู่รักในวันพักผ่อนสุดชิลล์ ,One Bedroom Pool Villa (วิลล่า 1 ห้องนอน พร้อมสระว่ายน้ำ) , Beachfront Plunge Pool (ห้องสวีทริมทะเลพร้อมสระแช่ตัว) วิวสวนหรือวิวทะเล
ห้องพูลวิลล่าเรียงรายไล่จากล็อบบี้ไปจนถึงหน้าหาด ชอบมากกับพื้นที่สีเขียวของต้นไม้น้อยใหญ่ รวมถึงต้นจามจุรีที่แผ่กิ้งก้านสาขาดูโดดเด่น อุโมงค์ต้นไม้ เรียกได้ว่าเป็นรีสอร์ตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสุดๆ
ห้องพักที่นี่ตกแต่งสไตล์เรียบแต่เก๋ พื้นที่ในห้องจัดว่ากว้างขวาง ห้องที่เราพักมีขนาด 80 ตรม.มาพร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัว
ถ้ามาเป็นครอบครัวหรือมาเป็นแก๋งเพื่อน ทางรีสอร์ตก็จะเปิดทางเข้าพูลวิลล่า ให้ 2 วิลล่าที่อยู่ติดกันเดินเชื่อมถึงกันได้
ทั้งเครื่องใช้ในห้องน้ำ เรายังสามารถเลือกรังสรรค์ส่วนผสมออร์แกนิกเพื่อใช้ระหว่างการเข้าพักด้วยตนเองได้ที่ M.I.Y Aroma Lab อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ทรายด้วย
ไฮไลต์ของรีสอร์ตอยู่ที่ ความเงียบสงบและส่วนตัว ริมหาดทรายขาวทอดยาวกว่า 300 เมตร โลเคชั่นในมุมมอง 180 องศา ที่โอบล้อมด้วยผืนทราย ทะเลสวย สีฟ้าคราม รายล้อมด้วยแมกไม้เขียวชอุ่ม ทิวต้นมะพร้าวพริ้วไหว ให้ฟิลเหมือนมาติดเกาะ เพราะเรารู้สึกได้ว่าอยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากๆ
เอกลักษณ์หน้าหาดที่ทำเราประทับใจมาก คือ ต้นหูกวาง ที่แผ่กิ่งก้านริมทะเล เหมาะแก่การไดนิ่งรับลมทะเล ใกล้กันมีชิงช้าให้แกว่งเล่นด้วย บอกเลยว่าชิลล์มาก ยิ่งถ้ามาเป็นคู่ บอกเลยว่าเป็นจุดปักหมุดนั่งทานข้าวกับคนรู้ใจที่ห้ามพลาด
หรือแม้แต่ในวันฝนตก หรือมื้อดินเนอร์ การนั่งทานอาหาร ณ ห้องอาหารและบาร์ “Miss Olive Oy” ก็ได้ฟิลลิ่งอบอุ่นไปอีกแบบ
เมนูของที่นี่มีให้เลือกหลากหลาย ทั้งอาหารไทย อาหารตะวันตก อาหารฝรั่งที่นี่รสชาติดี เราชอบมากกับ “ซีฟู้ดพิซซ่า” กับ “Seafood Linguine” ปิดท้ายด้วย “Chocolate Fondant” รสสัมผัสคือดีงาม เหมาะกับคนชอบทานดาร์กช็อกโกแลตทานเข้ากันดีกับไอศรีมวนิลา
กิจกรรมห้ามพลาด คงหนีไม่พ้นกิจกรรมเอ้าท์ดอร์ แม้รีสอร์ตจะเป็นพูลอยู่แล้วในทุกห้อง แต่ก็ยังมีสระว่ายน้ำริมหาด ให้เราเลือกใช้บริการด้วยเช่นกัน
ส่วนการเล่นน้ำทะเลที่นี่ ทางรีสอร์ตจะเตรียมรองเท้าไว้ให้เราเวลาต้องการจะลงทะเล
เพราะหาดจะมีหินอยู่ ข้อดีคือน้ำใสมาก ยามแดดดีๆ ขนาดลงเล่นทะเลตอนเย็นยังมองเห็นใต้น้ำชัดอยู่เลย
งานนี้เราอดไม่ได้ที่จะดำน้ำ ดูปลา พายเรือแคนูเล่น
ส่วนใครไม่อยากเจอแดด การทำทรีตเม้นท์ที่ “เล่นสปา” ถือว่าตอบโจทย์
ขณะที่การผจญภัยนอกโรงแรมก็น่าสนใจไม่แพ้กัน มาสมุยต้องไปดูหมูน้อยน่ารัก กันที่ “เกาะมัดสุม” ดำน้ำตื้นดูแนวประการังหลากสีสันที่เกาะแตน พานเรือคายัครอบเกาะชม “หญ้าทะเล” ซึ่งเราสามารถนั่งเรือห้างยาวแบบส่วนตัวไปได้ โดยทางรีสอร์ตมีแพ็คเกจ “Island Hopping Adventure” ราคาเริ่มต้น 7,999 บาทต่อห้องต่อคืน โดยต้องเข้าพักอย่างน้อย 3 คืน จึงจะได้รับประสบการณ์นี้เสริมไปด้วย ถือว่าคุ้ม เข้าไปดูรายละเอียดคลิ๊กที่นี่
แต่สำหรับเราด้วยความที่เคยไปเที่ยวมาแล้ว เลยอยากใช้เวลาในวันหยุดดีๆกับความเป็นส่วนตัว ในรีสอร์ตแห่งนี้ ซึมซับความโรแมนติก ดื่มด่ำและผ่อนคลายไปกับบรรยากาศดีๆ ในรีสอร์ตอันแสนเงียบสงบและใกล้ชิดธรรมชาติสุดๆ ณ จุดนี้
หน้า 17 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 42 ฉบับที่ 3,829 วันที่ 23 - 26 ตุลาคม พ.ศ. 2565