ฤดูนี้คลื่นลมสงบสุดๆจึงถือเป็นจังหวะเหมาะที่สุดของปี ในการเดินทางไปเที่ยวทะเลอันดามัน วันนี้เราปักหมุดอยู่กันที่จังหวัดกระบี่ เพราะโรงแรมราคาไม่สูงเหมือนภูเก็ต แต่ความสวยงามของโลกใต้ท้องทะเลก็งดงามไม่แพ้กัน
มาทะเลกระบี่ นอกจากการดำน้ำชมฝูงปลา และประการัง แล้ว อีกหนึ่งประสบการณ์สุดชิลล์ที่ไม่ควรพลาด คือ นั่งเรือยอร์ช ชมพระอาทิตย์ตกดิน
ใครชอบทะเล แต่ไม่อยากนั่งเรือสปีดโบ๊ทไปออกแดด ดำน้ำทั้งวัน กลับถึงที่พักในแบบเหนื่อยๆโปรแกรม SUNSET CRUISE น่าจะตอบโจทย์สุดๆ
งานนี้เลยไม่พลาดล่องทะเลอันดามันในแบบสวยๆ ชมพระอาทิตย์ตกทะเลกัน บนเรือ “คาตามารัน” สุดหรู กับทริป “กระบี่ ลักชัวรี ครูซ” ของ “เรือยอชท์มาสเตอร์” (Yacht Master)
ประสบการณ์สุดฟินที่เปิดให้บริการเฉพาะวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เท่านั้น จำกัดไม่เกิน 65 คนต่อวัน ซึ่งบอกเลยว่าต้องจองล่วงหน้า ซึ่งเข้าไปดูรายละเอียดได้ทางเฟซบุ๊ก Yacht Master
การเดินทางของเรา เริ่มต้นขึ้นในเวลา 15.00 น.จากท่าเรือกระบี่มาริน่า ด้วยความที่เรือยอชมาสเตอร์ เป็นเรือ 2 ชั้น ชั้นล่างมีส่วนที่เป็นห้องแอร์
เราเลือกไปนั่งๆนอนๆกันอยู่ที่ชั้นบน เป็นโอเพ่น แอร์ รับลมทะเล และสูดบรรยากาศธรรมชาติ แค่ภาพแรกก็ประทับแล้วกับความสวยงามของปากน้ำ จังหวัดกระบี่ ฟ้าใสทะเลสวยมาก
ระหว่างเรือมุ่งหน้าออกทะเล นอกจากเวลคัม ดริ้ง น้ำดื่มเย็นชื่นใจแล้ว น้องๆบนเรือก็พร้อมเสิร์ฟอาหารเมนูเด็ดมาเป็นระยะๆ
เริ่มจาก ขนมไทย ซึ่งมีทั้ง ขนมช่อม่วง ที่ทานแล้วรับรองคำเดียวไม่พอต้องขอเบิ้ล ตามมาด้วยผกากรอง ขนมชั้น ขนมลืมกลืน ก็มาจ๊ะ
ส่วนใครอยากจิบเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ ประมาณ ไวน์ เบียร์ ซอฟท์ดริ้ง ก็สามารถซื้อเพิ่มเติมไว้บนเรือ
สายลมพัดผ่านกับวิวทะเลสวยๆ ยามเรือล่องผ่านเกาะต่างๆที่เป็นไฮไลท์ของกระบี่ ทำเราฟินมากเลย ซึ่งเรือจะนำเราชม 4 เกาะ ในมุมมองใหม่กลางทะเล
โดยมีพี่ไกด์บนเรือ นำทางบอกเล่าจุดเด่นของเกาะแก่งต่างๆระหว่างล่องเรือผ่าน ชมวิวทิวทัศน์ เกาะปอดะ ทะเลแหวก เกาะไก่ และอ่าวไร่เลย์
เริ่มจาก “หาดไร่เลย์” ซึ่งโดยปกตินักท่องเที่ยวจะนั่งเรือหางยาว จากอ่าวนาง มาเที่ยวที่หาดไร่เลย์ ที่นี่มีไฮไลท์ 3 อย่าง นั่นก็คือ ชายหาดถ้ำพระนาง ทรายที่นี่นุ่มเท้ามาก
เรียกได้ว่าน้องๆอ่าวมาหยา เกาะพีพีเลย ทั้งยังการปีนผา ซึ่งเป็นกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวต่างชาติทั่วโลกชื่นชอบ ซึ่งมีตั้งแต่ระดับ ง่าย ปานกลาง ยาก และยากสุดๆ
ทั้งยังมี “ถ้ำพระนาง” ศาลศักดิ์สิทธิ์ของชาวกระบี่มาช้านาน ซึ่งผู้คนต่างมักจะมาขอพรเกี่ยวกับเรื่องความรัก เรื่องคู่ และคนที่อยากมีลูก ก็จะมาขอพร ถ้าใครขอพรได้สำเร็จ ก็จะนำปลัดขิกมาถวาย
ทั้งที่อ่าวไร่เลย์ ยังเป็นที่ตั้งของโรงแรมหรู อย่าง โรงแรมรายาวดี กระบี่ ซึ่งขึ้นชื่อว่าราคาแพงมาก ห้องที่ถูกสุดอยู่ที่ 2-3 หมื่นบาทต่อคืน ไปจนถึงห้องที่แพงสุดอยู่ที่ 2 แสนบาทต่อคืน ที่ผ่านมาก็มีศิลปินระดับโลกเคยมาพักที่นี่กันบ้างแล้ว
ล่องเรือมาพักหนึ่ง ในวันอากาศดีไร้ลมฝนแบบนี้ เรือก็จะจอดให้เราดำน้ำชมแนวประการัง ใต้ท้องทะเลกระบี่ พายเรือคายัค เล่นน้ำทะเล กันสนุกสนาน ในเวลา 40 นาที
ทั้งดำน้ำ ดูปลาหลากหลายสายพันธุ์ เห็นปลานีโม ด้วยนะ ต่อด้วยพายเรือคายัค โห 40 นาทีหมดไปไวมาก
ส่วนใครไม่อยากดำน้ำ บนเรือก็มีหลากหลายมุมให้ได้ถ่ายรูปสวยๆ กันเพียบเลย ไม่ว่าจะเป็น หัวเรือ ข้างเรือ หรือแม้แต่ท้ายเรือ ก็ได้ภาพเก๋ๆเพียบ
หลังจากเล่นน้ำเสร็จ เรือพร้อมล่องต่อไป ยังจุดชมทะเลแหวก ระหว่างนั้นก็มีเสิร์ฟบาร์บีคิวไก่ ต่อด้วยผลไม้ประจำฤดูให้เลือกทานได้ตามชอบ
มาถึงแล้วจุดชมทะเลแหวก ซึ่งในแต่ละวันต้องรอลุ้นว่าน้ำจะลงจนเรามองเห็นสันทรายที่เชื่อมระหว่าง 3 หาด คือเกาะทับ เกาะไก่ เกาะหม้อ หรือไม่ โดยในแต่ละวัน ระดับน้ำจะขึ้น-ลงในเวลาที่แตกต่างกัน
น่าเสียดายวันที่เรามาไม่ได้เห็นทะเลแหวก แต่ก็พอจินตนาการได้จากเกาะเล็กๆ 3 เกาะที่เห็นอยู่เบื้องหน้า
เรือล่องขึ้นไปอีกนิด ก็ถึงมุมไฮไลท์ 6 โมงครึ่งแล้ว แสงสุดท้ายของวัน ยามพระอาทิตย์ตกดิน บริเวณ เกาะไก่
โรแมนติกและสวยสุดๆจนอยากจะหยุดเวลาไว้ให้นานกว่านี้เลย มือรัวๆ กดภาพกลับไปเป็นที่ระลึกอีกเพียบ ถึงเวลากลับฝั่งระหว่างเรือ
ล่องเรือกลับ ยังมีเสริฟผัดไทยกุ้ง ปิดท้ายด้วยมูสวนิลา เสาวรส เปรี้ยวนิดๆอมหวานอร่อยมากเลย
ปิดท้ายค่ำคืนนี้ในแบบนอนฝันดีเลย กับประสบการณ์ใหม่สุดชิลล์เมื่อมาเที่ยวทะเลกระบี่ในครั้งนี้
หน้า 17 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 42 ฉบับที่ 3,857 วันที่ 29 มกราคม - 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566