ในอดีตชุมชนตลาดล่าง ต.ท่าหิน อ.เมือง จ.ลพบุรี มีความสำคัญด้านการค้าตั้งแต่สมัยอยุธยา โดยเฉพาะในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช หรือราวปี พ.ศ. 2200 โดยมีทำเลที่ตั้งอยู่ในชัยภูมิที่สำคัญต่อกลไกการพัฒนาของจังหวัดลพบุรี เนื่องจากมีภูมิประเทศที่ตั้งอยู่ติดกับแม่น้ำลพบุรี และเป็นจุดบรรจบกันของเส้นทางน้ำ 3 สาย คือ แม่น้ำลพบุรี คลองบางขันหมาก และห้วยมูล
ดังนั้นจึงเรียกว่า"ชุมชนตลาดล่าง"เป็นศูนย์กลางของการถ่ายเทสินค้า ตลาดแลกเปลี่ยนสินค้าอุปโภค-บริโภค ของท้องถิ่น รวมไปถึงเป็นเส้นทางสัญจรหลักของผู้คนในอดีต ทั้งชาวไทยและชาวจีน โดยมีถนนพระรามเป็นเส้นทางคมนาคมเชื่อมย่านการค้าที่ใกล้เคียงกันอย่าง "ชุมชนตลาดท่าขุนนาง", "ชุมชนตลาดหน้าศาลลูกศร"และ"ชุมชนท่าโพธิ์"ซึ่งอยู่ปลายทางของถนนสายดังกล่าว
แม้เข้าสู่ช่วงยุค"จอมพล ป.พิบูลสงคราม" ชุมชนแห่งนี้ก็ยังคงมีความสำคัญ มีการสร้างอาคารแถวหรือ”ตึกแถวใหม่ระยะต้น” ตามแนวคิดด้านสถาปัตยกรรมในยุค"เชื่อผู้นำ ชาติพ้นภัย" ที่ต้องการพัฒนาเมืองลพบุรีให้เป็นศูนย์กลางทางการค้า เศรษฐกิจ สังคมและการทหาร
แต่มาระยะช่วง พ.ศ.2508 เป็นต้นมา "ชุมชนตลาดล่าง" กลับถูกลดบทบาทความสำคัญลง เนื่องจากชาวบ้านไปใช้การสัญจรทางบกแทนทางเรือ ประกอบกับลำน้ำตื้นเขิน เรือที่แล่นรับส่งผู้โดยสารรวมทั้งขนส่งสินค้า ก็ค่อยๆทยอยหายออกไปจากพื้นที่ รวมทั้งปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงทางสภาพสังคม “ชุมชนตลาดล่าง” เมืองลพบุรีในวันนี้ จึงมีสภาพเงียบเหงาและซบเซาลงไปมาก แต่ยังคงมีกิจกรรมที่เชื่อมโยงกับชุมชนไม่ว่าจะเป็นการค้าขายสินค้าดั้งเดิมของชุมชน เช่นยาสมุนไพร เครื่องจักสานและอุปกรณ์การเกษตร หรือแม้กระทั่งประเพณีทอดผ้าป่าทางเรือ ของชุมชนไทยรามัญ บ้านบางขันหมาก
จากมุมมองของ น.ส.ศุภสุดา พันธ์ดี น.ส.ธนาภรณ์ วงศ์ชู น.ส.สโรชา อาภรณ์พงษ์ น.ส.ฑิตฐิตา ทะแพงพันธ์ และนายศรายุธ เวทย์ศุรกฤต คณะนักศึกษาปริญญาโทคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการผังเมือง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่เห็นว่าแม้วันนี้ ชุมชนตลาดล่าง จะถูกลดความสำคัญลงไป เหลือเพียงการค้าดั้งเดิม แต่ยังคงความมีเสน่ห์ของอาคารเก่าและเรือนไม้ท้องถิ่น
รวมทั้งพื้นที่ดังกล่าวยังใกล้เคียงศาสนสถานโบราณเช่น พระนารายณ์ราชนิเวศน์ บ้านหลวงรับราชทูต(บ้านวิชาเยนทร์) โบราณสถานวัดปืน วัดพรหมมาสตร์ วัดมณีชลขันธ์ หากพลิกฟื้นกลับมาคงน่าสนใจไม่น้อย ดังนั้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 จึงได้ลงพื้นที่สำรวจข้อมูลทางกายภาพและข้อมูลเชิงประวัติศาสตร์ พร้อมออกแบบให้เกิดการพัฒนาเชิงท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม และสร้างรายได้ให้เกิดแก่ชุมชน โดยได้รับการสนับสนุนข้อมูลจากชมรมอนุรักษ์โบราณวัตุสถานและสิ่งแวดล้อมจังหวัดลพบุรี
ในงานแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ครั้งที่ 36 ประจำปี 2567 ที่โบราณสถานวัดปืน ได้มีการนำเสนอผลงาน การปรับปรุงฟื้นฟูย่านตลาดเก่าริมแม่น้ำลพบุรี และอนุรักษ์อาคารเก่า บริเวณชุมชนตลาดล่างของนักศึกษากลุ่มดังกล่าว ในกิจกรรมเสวนาเรื่องเล่าเครือข่ายฯ ว่าด้วย "เมืองละโว้-ลพบุรี ที่เรารักษ์" โครงการออกแบบผังจินตนาการถนนพระราม-ตลาดล่าง ซึ่งจัดโดยชมรมอนุรักษ์โบราณวัตุสถานและสิ่งแวดล้อมจังหวัดลพบุรี โดยมี ว่าที่ ร.ต.ทรงพล แป้นแก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี พร้อมด้วยนางชนิตตา แสงพลบ โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดลพบุรี ร่วมฟังการนำเสนอผลงานดังกล่าวด้วย
สำหรับการปรับปรุงฟื้นฟูย่านตลาดเก่าริมแม่น้ำลพบุรี และอนุรักษ์อาคารเก่า บริเวณชุมชนตลาดล่าง จากการลงพื้นที่ในองค์ประกอบพบว่าอาคารหลายแห่งถูกปล่อยร้าง และทรุดโทรม ไม่ได้รับการ ซ่อมแซมหรืออนุรักษ์ ด้านหน้าอาคารยังถูกป้ายโฆษณาบดบัง รวมทั้งยังมีคอมเพรสเซอร์เครื่องปรับอากาศติดตั้งอยู่อย่างไม่สวยงาม ขณะที่พื้นที่ริมน้ำซึ่งเคยเป็นท่าเรือ มีความรกร้าง และยังถูกปิดกั้นการเข้าถึง ทั้งที่เคยมีความสำคัญด้านการขนส่งสินค้าและการบริโภคของคนในชุมชนในอดีต
นอกจากนี้พบว่า รูปแบบอาคารมีความต่อเนื่องของสิ่งปลูกสร้างบ้านเรือนและอาคารเชิงพาณิชย์ ทั้งหลังคา ประตูหน้าต่าง ผนังอาคาร ช่องลมและวัสดุที่นำมาใช้ ตั้งแต่บ้านไม้ เรือนแถวท้องถิ่น ช่วงปี 2390 ตึกแถวท้องถิ่น ช่วงปี 2470 ตึกแถวสมัยใหม่ระยะต้น ช่วงปี 2495 และตึกแถวสมัยใหม่ ช่วงปี 2511 เป็นต้นมา พร้อมเลือกแนวทางการปรับปรุงให้สอดรับกับงานสมัยเก่าและสมัยใหม่
นอกจากนี้มีการเสนอเพิ่มฟังก์ชั่นในพื้นที่ริมน้ำ เช่น โฮมสเตย์ ร้านอาหารและพื้นที่นันทนาการ เพื่อให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นจุดน่าสนใจ ซึ่ง ผศ.ดร.ภูมิชาย พันธุ์ไพโรจน์ อาจารย์คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการผังเมือง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ปรึกษาของโครงการกล่าวว่า ผลงานการออกแบบชื้นนี้เป็นงานแนวอนุรักษ์ ที่เชื่อมโยงกับโบราณสถาน และครอบคลุมการพัฒนาในทุกมิติของเมือง ทั้งการออกแบบถนน ทางเท้า เขื่อนกั้นน้ำ ต้นไม้และภูมิทัศน์
ดังนั้นจึงได้มีการเชิญอาจารย์จากคณะโบราณคดีจากมหาวิทยาลัยศิลปากรมาช่วยเสนอแนะในส่วนของงานสถาปัตยกรรมอาคารทั้งตึกแถวแบบท้องถิ่น เรือนแถวไม้ จึงทำให้งานนี้ค่อนข้างสมบูรณ์แบบ หากโครงการพื้นที่ริมน้ำนี้ถูกผลักดันให้เกิดขึ้นจริงเป็นผลสำเร็จจากท้องถิ่น ก็สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในพื้นที่อื่นๆด้วย
ด้านว่าที่ ร.ต.ทรงพล แป้นแก้ว รอง ผวจ.ลพบุรี ได้กล่าวชื่นชมผลงานดังกล่าว รวมทั้งแม้จะเป็นผลงานของกลุ่มนักศึกษา แต่ก็ทำให้มองเห็นภาพที่สะท้อนความเจริญในอดีตของชุมชนตลาดล่างได้ชัดเจน ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง ก็จะสามารถเป็นจุดขายด้านการท่องเที่ยวและสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน แต่ต้องขึ้นอยู่กับหน่วยงานท้องถิ่นเช่น เทศบาลเมืองลพบุรีที่จะให้การสนับสนุนแนวทางการพัฒนาอย่างไร รวมทั้งผลักดันให้เกิดการปรับปรุงเป็นรูปธรรมในหลายมิติ ซึ่งจะส่งผลดีต่อชุมชนที่ซบเซาให้กลับมาฟื้นอย่างมีชีวิตอีกครั้ง