พิมาลัย รีสอร์ท แอนด์ สปา จัดว่าเป็นรีสอร์ทระดับลักชัวรีบนเกาะลันตา จ.กระบี่ เรียกได้ว่าเป็นรีสอร์ตลับ ท่ามกลางธรรมชาติอันเงียบสงบ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งในโรงแรม Bucket List ที่เราต้องมาเยือนสักครั้งในชีวิต
การเดินทางมาเกาะลันตา ถ้ามาพักที่ พิมาลัย รีสอร์ท แอนด์ สปา “Pimalai Resort & Spa” สะดวกสบายมาก ถ้านั่งเครื่องบินมาลงกระบี่ ออกจากสนามบินบุ๊ปก็จะมีรถไปรับถึงสนามบิน นำเราไปยังท่าเรือ ซึ่งเป็น Jetty เฉพาะของโรงแรม เรานั่งสปีดโบ๊ทไปราว 45 นาทีก็ถึงรีสอร์ต หรือ ถ้าใครขับรถมา ก็สามารถจอดรถไว้ที่นี่ได้
กระบี่ฟ้าใสทะเลสวยมาก ชมทะเลเพลินๆ ก็ถึง “เกาะลันตา” แล้ว จุดสัมผัสแรก ก็ว๊าวแล้ว กับหน้าหาดบากันเตียง หาดส่วนตัวของรีสอร์ท ทอดยาวกว่า 900 เมตร เห็นทะเลแทบอยากกระโจนเล่นน้ำ แต่เราต้องไปเช็คอินก่อน
ทันทีเราลงจากหน้าหาด ใจฟูกับการต้อนรับพนักงาน ที่นำพวงมาลัยมาคล้องคอให้เราด้วย จากนั้นรถกอล์ฟก็นำเราสู่ล็อบบี้ เวลคัม ดริ๊งก์ ที่มาพร้อมผ้าเย็นกลิ่นมะลิ ไม่เพียงเย็นสบาย แต่ยังหอมชื่นใจไปทุกโสตสัมผัสเลย
แลนด์สเคปของรีสอร์ทกว้างใหญ่มาก ไล่ตั้งแต่ภูเขาไปจนถึงติดทะเล กินพื้นที่มากถึง 250 ไร่ แต่นำมาสร้างห้องพักอยู่ที่ 121 ห้องเท่านั้น เน้นธรรมชาติเต็มๆ สิ่งอำนวยความสะดวกในรีสอร์ตมีครบที่นี่มีสระว่ายน้ำ 2 สระ 2 สไตล์ ทั้งฝั่งเขา และฝั่งทะเล
นอกจากนี้ยังสปอร์ตคลับขนาดใหญ่ มีทั้งสนามเทนนิส ห่วงบาสเกตบอล เปตอง สนามแบดมินตัน ปิงปอง
รวมไปถึงห้องฟิตเนส และพิมาลัยสปา ในหุบเขา กับทรีตเมนต์สูตรพิเศษ
รีสอร์ทแห่งนี้จึงเหมาะมากสำหรับคนที่อยากหนีความวุ่นวายมาพักกาย พักใจ ใกล้ชิดธรรมชาติไปเต็มๆ โดยอาคารต่างๆของรีสอร์ท ได้รับการออกแบบ “โลว์ไรส์ เซ้าท์เทิร์น สไตล์” กลมกลืนกับธรรมชาติ และความเงียบสงบของภูเขาโดยรอบ
ห้องพักของที่นี่มีหลายรูมไทป์หลากสไตล์ ขนาดตั้งแต่ 48-422 ตารางเมตร ตกแต่งแบบไทยร่วมสมัย จัดเต็มสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ใครชอบทะเล น่าจะชอบห้องพักฝั่งใกล้ชายหาด มีทั้งห้องเริ่มต้น อย่าง “ห้องดีลักซ์” ไปจนถึง “พูล วิลล่า” หน้าหาด
สำหรับคนที่ชอบมุมมองแบบเบิร์ดอายวิว แนะนำให้เลือก ห้องพูลวิลล่า ฝั่ง ฮิลล์ ไซด์ หรือ “Hillside Ocean View Pool Villa” ฟีลเหมือนบ้านพักตากอากาศบนเนินเขาริมผา ตั้งลดหลั่นอยู่ตามไหล่เขา มีให้เลือกตั้งแต่ 1 ห้องนอน ไปจนถึง 3 ห้องนอน เหมาะมากกับทริปผองเพื่อน คู่ฮันนีมูน ไปจนถึงทริปครอบครัว
ทริปนี้เรามาเป็นครอบครัว 4 คน ห้องพูลวิลล่า 2 ห้องนอน ฝั่งฮิลล์ไซด์ คือตอบโจทย์สุดๆ นอกจากห้องพักในวิลล่า อันกว้างขวาง ห้องน้ำขนาดใหญ่ มีอ่างอาบน้ำ ให้เราได้แช่ตัวไปพร้อมๆกับรับวิวทะเลแล้ว
ยังมีศาลาไทย แยกโซนห้องนั่งเล่น มุมครัวที่มีอุปกรณ์ครบครัน และห้องน้ำขนาดเล็ก เป็นพื้นที่ส่วนกลางในวิลล่าที่เราแทบจะรวมตัวกันอยู่ได้ทั้งวัน ระหว่างว่ายน้ำในสระอินฟินิตี้พูลส่วนตัว ขนาด 20 เมตร ว่ายน้ำไปมองวิวอ่าวบากันเตียงมุมสูง ขนานกับผืนทะเลอันดามัน และความร่มรื่นของต้นไม้ใหญ่เขตร้อน ชิลล์ในแบบส่วนตัวที่แท้จริง
การว่ายน้ำในพูลวิลล่าบนเขา ชมแสง Twilight ว่าน่าหลงใหลแล้ว ยิ่งตอนเช้าเปิดประตูห้อง ออกจากระเบียง เสียงนกร้อง และความงดงามของทะเลอันดามันเบื้องหน้า สวยจึ้งมาก
หรือจะเดินเล่นริมชายหาดรับแสงแรก ต่อด้วยการเอนจอยกับกิจกรรมหลากหลาย ทั้ง เซิร์ฟ, พัดเดิ้ลบอร์ด,พายเรือคายัค,วินด์เซิร์ฟ หรือล่องเรือใบ จัดว่าดีงามมาก
ประสบการณ์ไดนิ่งในโรงแรม ก็เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ห้ามพลาด ซึ่งห้องอาหาร “Seven Seas” เป็นร้านอาหารที่ตั้งอยู่บนเนินเขาสูง ด้านหน้าวิวทะเล ด้านข้างเป็นวิวหน้าผาสีเขียวที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยต้นไม้ใหญ่
ทานอาหารเช้าไปมองวิวไปด้วย ฟินเลย ซึ่งไลน์บุฟเฟ่ต์อาหารเช้าเน้นคุณภาพมาก มีชีสต์หลายชนิดให้เราจิบพร้อม Sparkling wine ช่วยวอร์มอัพ ร่างกายตอนเช้าได้ดีเลย
ส่วนดินเนอร์ ที่นี่จะให้บริการอาหารสไตล์ไฟน์ไดนิ่ง ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากฝรั่งเศส และที่นี่ยังมีห้องเก็บไวน์ ที่คัดสรรไวน์ชั้นเลิศอีกด้วย
ด้านล่างของ Seven Seas จะเป็น ห้องอาหาร “บันยันทรี” ซึ่งมีต้นไทรอายุหลายร้อยปี ตั้งตระหง่านอยู่ริมสระว่ายน้ำบนเขา ที่นี่เราฝากท้องไว้สำหรับมื้อเที่ยง สายเนื้อ แนะนำ “สเต็กเนื้อ” รสสัมผัสให้ 10 เต็ม 10 เข้ากันดีกับซอสกีวี ส่วน “พะแนงปลากระพง” เนื้อปลาหวานนิ่มทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ และ “ซีซาร์สลัด” เข้ากันดีกับกุ้งย่าง
ส่วนใครชอบทานอาหารทะเล การได้ดินเนอร์ริมชายหาด ณ ห้องอาหาร “Rak Talay” (รักทะเล) ใช่เลย เมนูซิกเนเจอร์ คือ “Surf and Turf” กุ้ง หอย ปู ปลา กริลล์มาเสิร์ฟหอมๆ แต่ถ้าใครเป็นคอซีฟู้ดทุกค่ำคืนวันเสาร์จะเปิดไลน์บุฟเฟ่ต์อาหารทะเลปิ้งย่างสดใหม่ พร้อมดนตรีสด อาหารที่นี่เป็นเมนูฟิวชั่น เราสั่ง บาร์บีคิว เซ็ท เลือกได้ว่าจะเอาไซส์เล็กหรือใหญ่
เมนูที่ชอบมากสำหรับห้องอาหารนี้ คือ “สปาเก็ตตี้ต้มยำทะเล” รสชาติโดนใจคนไทย และ “คอหมูย่าง” รสชาติกลมกล่อม
ห้องอาหารไทย “Spice’n Rice” ก็จัดเต็มเมนูอาหารไทยดั้งเดิมไปจนถึงอาหารใต้รสเด็ด และเด็ดสุด คือ สมุนไพรส่วนใหญ่ที่ใช้ในร้านอาหารนี้มาจากฟาร์มออร์แกนิกของรีสอร์ท ซึ่งตั้งอยู่ใน จ.เชียงใหม่
ส่วนที่ฮ้อตสุดตอนนี้ “เดอะ เฮอริเทจ” (The Heritage) ประสบการณ์ใหม่ไดนิ่ง บนเกาะลันตา ณ ความสูง 60 เมตรจากระดับน้ำทะเล ที่นี่เป็นเลานจ์ที่เก๋มาก เหมือนนั่งอยู่ภายในเรือสำเภา
ใครอยากได้ฟิลนั่งทานอาฟเตอร์นูน ที วิวทะเลพาโนรามา แนะนำเลย “อาฟเตอร์นูน ที” ที่นี่มีให้เลือกทั้งเซ็ทขนมไทย และเซ็ทเวสเทิร์น ชิมแล้วต้องยกนิ้วให้เลย
ไม่ใช่แค่ขนมหน้าตาดีแต่อร่อยด้วย ทานขนมไปจิ๊บ “ชาแบล็คทีลิ้นจี่” ฟินมาก และที่นี่จะกลายเป็นบาร์ที่มีชีวิตชีวามากๆในพระอาทิตย์ใกล้ตกดิน การได้ดื่มค็อกเทล อาบแสงสุดท้ายของวัน ฟินมาก
ไหนๆมาพักที่นี่แล้ว อย่าพลาดไปทริปดำน้ำเกาะห้า และเกาะรอก น้ำทะเลใสราวคริสตัล ซึ่งโรงแรมมีแพ็คเกจไว้บริการ ประการังสวยๆ ฝูงปลาฉ่ำๆ ที่อยู่ไม่ไกลเลยจากรีสอร์ทเลย
การใช้เวลาที่ พิมาลัย จึงชาร์จพลังชีวิตได้มากมาย เพราะไม่ใช่แค่รีสอร์ทสวย ในทำเลที่ดีสุดบนเกาะลันตาเท่านั้น แต่ยังมีความประทับใจจากการบริการในแบบ Thai Hospitality ทำให้ที่นี่จึงเป็นเหมือน “สวรรค์ลับแห่งการพักผ่อนกลางทะเล” ที่แท้จริง
หน้า 17 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 44 ฉบับที่ 3,993 วันที่ 19 - 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2567