วิจิตร@เชียงใหม่ โลเคชั่นน้ำพุร้อนสันกำแพง เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ในการจัดงาน “วิจิตร 5 ภาค” ซึ่งไม่เพียงกระตุ้นการท่องเที่ยวช่วงกรีนซีซัน ยังเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบในวันที่ 28 กรกฏาคมนี้ และยังเป็นโครงการตามแนวพระราชดำริและเศรษฐกิจพอเพียงในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร เพื่อสืบสานพระราชปณิธานตามหลักการเศรษฐกิจพอเพียงสู่ความยั่งยืน
เดิมน้ำพุร้อนสันกำแพง อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ เป็นบ่อน้ำพุร้อนตามธรรมชาติที่ชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียง ใช้ต้มพืชผักที่เก็บจากป่าและรักษาโรคผิวหนัง ซึ่งน้ำพุร้อนของที่นี่จะเป็นแบบไกเซอร์ คือ ลักษณะของน้ำใต้ดินที่ได้รับความร้อนจากหินเหลวความร้อนสูงส่งผ่านหินเนื้อแน่นมายังน้ำ ทำให้น้ำร้อนระอุขึ้น จนหาทางแทรกตามรอยแตกร้าวของหินและดันตัวขึ้นจากดินเป็นน้ำพุร้อนสูงถึง 15 เมตร
กระทั่งในปี 2518 จึงเกิดโครงการหมู่บ้านสหกรณ์สันกำแพง ตามพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 ต่อมาในปี พ.ศ. 2527 ได้มีการพัฒนาพื้นที่ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวประเภทน้ำพุร้อนธรรมชาติ เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและเป็นตัวอย่างดำเนินธุรกิจน้ำพุร้อนในประเทศ ซึ่งได้สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ให้กับประชาชนในพื้นที่มาอย่างยั่งยืน
น้ำพุร้อนที่เกิดจากพลังงานความร้อนใต้พิภพแห่งนี้ ภายในเนื้อที่กว่า 75 ไร่ เราสามารถใช้บริการแช่ตัวอาบน้ำแร่ ได้ทั้งในบ่อรวม หรือบ่อส่วนตัว หรือจะเป็นการตักอาบน้ำแร่ ทั้งยังมีสระว่ายน้ำแร่ ซึ่งเป็นสระรวมไว้บริการด้วย ธารน้ำแร่สำหรับแช่เท้า ผ่อนคลายกล้ามเนื้อส่วนขา บรรเทาอาการปวดขาและข้อเท้า
ทั้งยังมีบริการนวดฝ่าเท้า และยังมีห้องพักและที่กางเต้นไว้บริการ ราคาการให้บริการก็จะแตกต่างกันไป เริ่มต้นที่ 20 บาท ยกเว้นธารน้ำแร่สำหรับแช่เท้า ที่ใช้บริการได้ฟรี โดยการเข้าไปยังพื้นที่น้ำพุร้อนสันกำแพง จะมีค่าบัตรผ่านประตูอยู่ที่ 40 บาทสำหรับผู้ใหญ่และ 20 บาทสำหรับเด็ก
ที่นี่จึงเป็นหมุดหมายสำหรับสายรักสุขภาพ ชอบเรื่องออนเซ็น ซึ่งผู้คนมักจะมาแช่ตัวด้วยน้ำแร่ธรรมชาติ เพื่อบำบัดร่างกายและจิตใจ เพราะช่วยให้เลือดหมุนเวียนได้ดี ช่วยระบบย่อยอาหารดีขึ้น กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
มาที่นี่หลายคนไม่พลาด คือ การซื้อไข่ดิบมาต้มที่บ่อ กินไข่ต้มน้ำแร่ธาตุไปฟินๆ ซึ่งด้วยน้ำพุร้อนมีอุณหภูมิสูงถึง 105 องศา การต้มไข่ในบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติที่นี่ ใช้เวลาต้มไข่แค่ 3 นาทีก็จะได้ไข่ลวก หากต้ม 5-6 นาที ก็จะได้ไข่ยางมะตูม และถ้าชอบทานไข่สุก ใช้เวลาต้ม 10-15 นาที
แนะนำให้มาแช่น้ำแร่ช่วงบ่ายคล้องไปจนถึงก่อน 18.00 น. จากนั้นก็ต่อด้วยการชม งานวิจิตร@เชียงใหม่ สีสันแห่งเส้นแสงน้ำพุร้อนสันกำแพง ซึ่งจัดระหว่างวันที่ 20-28 กรกฏาคมนี้ ในเวลาตั้งแต่ 17.00-22.00 น.
หรือถ้าใครจะมาเที่ยวเฉพาะชมเฉพาะงานวิจิตร@เชียงใหม่ ก็เข้าชมได้ฟรี เป็นการนำส่งความสุขภายใต้แนวคิด “แดนรุ้งพราย (Iridescence Land)” ชวนสัมผัสประสบการณ์ใหม่ของแสงรุ้งพรายจากน้ำพุร้อนสันกำแพง โดยการนำคุณสมบัติของไอละอองน้ำที่เกิดเป็นเหลื่อมประกายสีรุ้งเมื่อโดนแสงกระทบมานำเสนอผ่านเทคนิคแสง เสียง ผสานสื่อผสมและเทคโนโลยีสมัยใหม่ จัดเป็นชุดการแสดงใน 10 จุดแสดง การจัดงานในครั้งนี้
เปิดไฮไลต์ 10 จุดการแสดงแสงสี วิจิตร@เชียงใหม่
ซุ้มประตูสีดำ ตัวแทนของกลางคืนอันมืดมิด ที่จะนำพาส่งผ่านสู่ความสว่างไสวด้วยแสงไฟหลากสี เป็นประตูทางเข้างานเพื่อเชื่อมทางไปสู่แดนรุ้งพราย
ความงดงามของผู้คนและวัฒนธรรมของชาวล้านนาที่ถ่ายทอดผ่านโคมและตุงย้อมแสง โดยเพิ่มประกายแสงรุ้ง สะท้อนความงดงามของผู้คนและวัฒนธรรมของชาวเชียงใหม่
ตลาดจำหน่ายสินค้า-อาหารชุมชน ที่อุดมไปด้วยความสุข ความสนุกสนาน และความอิ่มอร่อย ของผู้คนในแดนรุ้งพราย ท่ามกลางบรรยากาศไฟหลากสี
ขยายละอองน้ำให้ใหญ่ เพื่อให้เห็นเหลื่อมแสงรุ้งอย่างเต็มตา เพื่อเน้นขยายให้เห็นประกายชีวิตและสีสันของน้ำพุร้อนสันกำแพง
แสงสีและเสียงดนตรีที่โอบฉาบไอน้ำพุร้อน ถ่ายทอดเรื่องราวของน้ำพุร้อนสันกำแพง ซึ่งได้สร้างงาน สร้างรายได้ สร้างโอกาส ให้คุณภาพชีวิตที่ดีของผู้คนในชุมชนโดยรอบ เฉลิมฉลองแด่ความมหัศจรรย์ของธรรมชาติและความซาบซึ้งในโครงการตามพระราชดำริ
เปลี่ยนสีสันของธารน้ำร้อนใต้ร่มเงาของต้นไม้น้อยใหญ่ภายในน้ำพุร้อนสันกำแพงด้วยเส้นแสงไฟตลอดขอบลําธาร เชื่อมโยงน้ำพุร้อนสันกำแพงสู่ประชาชน
ผืนดิน ต้นไม้ และสายลม ที่พร่างพรายด้วยประกายแสง เฉดสี และละอองฟอง สะท้อนภาพสุดตระการตาคลุมทุกพื้นที่ ส่งต่อการเฉลิมฉลองสู่ผู้คน
พื้นที่แคมป์ปิ้งในบรรยากาศอบอุ่นสวยงามในยามค่ำคืน ไฟประดับที่ส่งให้บรรยากาศแคมป์ภายในงานดูมีสีสัน ทันสมัย แปลกตา เปิดมุมมองให้ชีวิตได้สัมผัสธรรมชาติแบบค้างแรมอย่างมีสไตล์
จากสีสันแห่งเส้นแสง สู่แสงรุ้งพราย ถ่ายทอดความงดงามของตัวแทนธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ ด้วยเทคนิคแสงผสมผสาน บอกเล่าถึงการเริ่มต้น การเติบโต ความรุ่งเรือง และความสุข ที่เกิดขึ้นในพื้นที่
ความสุขเล็ก ๆ อันแสนยิ่งใหญ่ของการต้มไข่ในบ่อน้ำพุร้อน แสงไฟหลากสีที่เคลื่อนไหวไปมา และบรรดาไฟทรงกลมรายล้อมเป็นทุ่งแสง มอบความสนุกคลอเคล้าไปกับเสียงดนตรีอย่างลงตัว
นอกจากการเดินเที่ยวชมการแสดงแสงตามจุดต่างๆ ในลักษณะ Walking Tour แล้ว ยังมีกิจกรรมมากมายไม่ว่าจะเป็น การแสดงทางวัฒนธรรม การแสดงดนตรีจากศิลปินท้องถิ่น การออกร้านสินค้าชุมชน อาหารท้องถิ่น ฟู้ดทรัค เป็นต้น
นอกจากนี้ ภายในงานฯ ยังมีจุดลงนามถวายพระพรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เพื่อให้นักท่องเที่ยว และประชาชนที่มาร่วมชมงาน ได้ร่วมลงนามถวายพระพรในวโรกาสอันเป็นมงคลนี้ด้วย
การเดินทางมาก็สะดวกมาก นักท่องเที่ยวสามารถสามารถจอดรถได้ที่ บิ๊กซีดอนจั่น อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่โดยสารรับ-ส่ง ได้รถออกเดินทางจากบิ๊กซีดอนจั่น ไปยังน้ำพุร้อนสันกำแพง ตั้งแต่เวลา 16.30-19.30 น. และเดินทางกลับ เวลา 19.30-22.00 น. (รถออกทุก 15 นาที) เพราะสะดวกกว่า เนื่องจากในปีนี้ผู้จัดงานไม่อนุญาตให้นำรถเข้าจอดภายในบริเวณน้ำพุร้อนสันกำแพง
แต่หากผู้เข้าร่วมงานมีความจำเป็นต้องเดินทางโดยใช้รถส่วนตัว สามารถจอดรถ ณ ลานจอดรถก่อนถึงแยกทางเข้าน้ำพุร้อนสันกำแพง โดยมีค่าบริการจอดรถ 40 บาท (ห่างจากบริเวณระยะทางประมาณ 300 เมตร) และลานจอดรถบริเวณโรงเรียนหมู่บ้านสหกรณ์ 2 ไม่คิดค่าบริการจอดรถและมีรถรับ-ส่ง ทุก 15 นาที (ห่างจากงานประมาณ 3 กิโลเมตร)
แพลนให้ดีแล้วลองมาสัมผัสโลกแห่งแดนรุ้งพราย สีสันน้ำพุร้อนสันกำแพงยามค่ำคืน เสน่ห์ที่ไม่ได้สัมผัสกันได้ง่ายๆ