ใครไม่ชอบเที่ยวถ้ำ เพราะเดินเหนื่อย อึดอัด แถมพอไปถึงก็ไม่มีอะไร นอกจากหินงอกหินย้อยทั่วๆไป ต้องคิดใหม่เลย หากได้มาเที่ยว “ถ้ำหลวงแม่สาบ” อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่
ยกให้เลยว่าเป็นถ้ำที่สวยงาม แปลกตา และอันซีนมากๆ เดินเที่ยวถ้ำในแบบสบายๆ เป็นที่เที่ยวลับในเชียงใหม่อย่างแท้จริง
เรามาเที่ยวเชียงใหม่ก็หลายครั้ง เที่ยวสะเมิงมาก็หลายรอบ ครั้งนี้เป็นครั้งแรก ที่ได้ไปเที่ยวถ้ำหลวงแม่สาบ เก็บเกี่ยวมุมมองใหม่ในการเที่ยวถ้ำ ที่ไม่เหมือนทุกครั้ง ตระกาลตา “ถ้ำสีรุ้ง” อันเป็นเอกลักษณ์
ถ้ำหลวงแม่สาบ อยู่ในพื้นที่ “อุทยานแห่งชาติขุนขาน” ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ 52 กิโลเมตรตั้งอยู่ที่หมู่บ้านแม่สาบ ตำบลสะเมิงใต้ อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่เราใช้เส้นทาง อ.สะเมิง-อ.กัลยานิวัฒนา ห่างจากที่ว่าการอำเภอสะเมิงประมาณ 4 กิโลเมตร ก็ถึงถ้ำแล้ว
ค่าบริการเข้าถ้ำ สำหรับคนไทยอยู่ที่ 20 บาทต่อคน นักท่องเที่ยวต่างชาติอยู่ที่ 100 บาทต่อคน รถยนต์ส่วนบุคคล 30 บาท มอเตอร์ไซด์ 20 บาท
ถ้ำหลวงแม่สาบเป็นถ้ำหินปูนขนาดกลาง ในอดีตนักธรณีวิทยา ได้สันนิษฐานว่าถ้ำแห่งนี้เคยอยู่ใต้น้ำมาก่อน ในระดับน้ำทะเลปานกลาง อายุถ้ำ 450 ล้านปี ในยุคออร์โดวิเชียน
ก่อนจะกลายมาเป็นถ้ำแห้ง มี 2 ชั้น ชั้นบนเป็นปล่องโพรงทะลุมองเห็นท้องฟ้าคล้ายปล่องภูเขาไฟ ชั้นล่างเป็นโพรงทอดยาวตามภูเขา
ถ้ำแห่งนี่ จะประกอบไปด้วย ถ้ำหลัก หรือ “ถ้ำสายรุ้ง” และยังมีถ้ำย่อยๆใกล้ๆกัน ที่มีขนาดเล็กกว่า อย่าง ถ้ำอุโบสถ ถ้ำมรกต ถ้ำเพชร
แต่เนื่องจากเป็นถ้ำขนาดเล็ก ทำให้ประติมากรรมในถ้ำอาจจะค่อนข้างน้อย เราจึงเลือกเข้าถ้ำสายรุ้ง ซึ่งเป็นถ้ำไฮไลท์ของถ้ำหลวงแม่สาบ
ด้วยภายในถ้ำที่มืดมาก เจ้าหน้าที่อุทยานฯเป็นไกด์นำเราเที่ยวชมก็ได้ ไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม และไม่พลาดจุดที่น่าสนใจในถ้ำ เมื่อพร้อมแล้วทางอุทยานฯก็จะแจกอุปกรณ์เข้าถ้ำ นั่นก็คือ หมวกที่ติดไฟอยู่ตรงหัว สำหรับเปิดไฟส่องชมความงดงามภายในถ้ำ
สิ่งที่เราต้องทำ คือ ห้ามจับหินงอก หินย้อน ภายในถ้ำนั่นเอง โดยถ้ำจะเข้า-ออกทางเดียวกัน เป็นถ้ำเปิดและไม่ลึก
ความยาวจากปากถ้ำถึงโถงหลักมีระยะทางประมาณ 144 เมตร ทางขึ้นถ้ำไม่สูง เดินขึ้นนิดหน่อยก็ถึงปากถ้ำ พอเข้าถ้ำแล้ว ก็จะเป็นทางราบ เดินสบายๆ อาจต้องระวังลื่นในบางจุด
ภายในถ้ำสิ่งแรกที่เราเห็นจะเป็นร่องรอยฐานพระพุทธรูปที่ยังหลงเหลืออยู่ เนื่องจากในอดีตเคยมีพระธุดงค์อาศัยอยู่ แต่ถูกนิมนต์ให้ออกจากถ้ำในปี 2545 และมอบให้อุทยานแห่งชาติขุนขานเข้ามาดูแลพื้นที่นี้
ภายในถ้ำเราจะพบหินงอก หินย้อย เสาหิน หินน้ำไหล บัลลังก์หิน และทำนบหินปูน ซึ่งหินงอก หินย้อน บางมุมจะมีรูปลักษณ์แปลกตา น่าสนใจ
ไม่ว่าจะเป็น “โถงปลาวาฬ” ดูเหมือนปลาวาฬเป๊ะ เดินไปนิดก็จะเห็น “ หินย้อยสีดำ” ที่เกิดจากแร่แมงกานีสไดออกไซด์และแร่แคลไซต์ แตกต่างจากหินย้อยทั่วไปที่มักจะเป็นหินปูนสีขาวมีหยดน้ำใสเกาะอยู่ตรงปลายยอด
ทั้งเรายังจะเห็น “เสาหิน” ที่เกิดจากหินงอกและหินย้อนมาบรรจบกัน ที่ยังมีน้ำหยดอยู่ตลอดเวลา เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่หาได้ยาก รวมถึง “หัวใจถ้ำ” ซึ่งเป็นหินย้อยขนาดใหญ่ เมื่อมองขึ้นไป จะเห็นผนังถ้ำเป็นริ้วสี เหมือนสายรุ้งสวยงาม
ไฮไลท์ภายในถ้ำ คือ “อุโมงค์สายรุ้ง” มหัศจรรย์มากกับลวดลายบนผนังถ้ำที่เป็นริ้วแถบสีเทาขาว สลับเหลือง ซึ่งเกิดจากองค์ประกอบทางเคมีในเนื้อหินที่แตกต่างกัน กลายเป็นริ้วสีสวยงามแปลกตา เหมือนม่านสีรุ้ง จนได้รับการขนานนามว่า “ถ้ำสีรุ้ง”
โอโห! งามมากๆสำหรับผนังถ้ำลวดลายสีรุ้ง มีทั้งเป็นแถบยาว และขดเป็นวงมีขนาดใหญ่บ้างเล็กบ้าง มีทั้งสีเหลือง ส้ม แดง น้ำตาล ฟ้า ขาว เทา ดำ เป็นแนวสีสลับกันไป
ทั้งยังเรียงตัวกันเป็นชั้น ๆ เป็นลักษณะของหินน้ำไหล สีแดงและน้ำตาล เป็นแร่เหล็ก สีขาวเป็นแร่แคลไซต์ ส่วนสีเทา-ดำเป็นแร่แมงกานีสไดออกไซด์
การต่างกันของสีนั้นมาจากออกซิเจนด้วย คือ เวลาที่น้ำหินปูนที่มีสารละลายเหล็กและแมงกานีส (เดิมไม่มีสี) พอผสมกับออกซิเจนจะกลายเป็นสีแดงและสีดำภายหลัง เป็นความน่าทึ่งที่ธรรมชาติรังสรรค์อย่างแท้จริง
อีกทั้งภายในถ้ำเราจะเห็นรอยริ้วน้ำไหลผ่านอยู่บนผนังถ้ำ น้ำกัดเซาะทำให้เป็นหินเป็นโพลง และพบหลักฐานพื้นที่ถ้ำเดิมเป็นตะกอนแข็งตัว ติดอยู่บนผนังถ้ำสูงจากพื้นถ้ำปัจจุบัน 1 เมตร
บ่งบอกได้ว่า ปัจจุบันถ้ำหลวงแม่สาบยังมีการยกตัวสูงขึ้นตามการเปลี่ยนแปลงของกระบวนการทางธรณี ถือเป็นถ้ำ Unseen ที่ไม่ควรพลาดไปเที่ยวชม
เส้นทางท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติขุนขาน อ.สะเมิง ไม่ได้มีดีแค่ เที่ยว “ถ้ำหลวงแม่สาบ” เท่านั้น แต่ที่นี่ยังมีลานกางเต้นท์ไว้บริการ ราคา 800-1,600 บาท ขนาดกว้างประมาณ 3 ไร่
ที่นี่มีห้องน้ำ-ห้องสุขา มีบ่อน้ำอุ่นธรรมชาติ อุณหภูมิ 38 องศาเซลเซียส สามารถอาบนํ้าได้ มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ
มีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว และร้านค้าสวัสดิการ ไว้บริการนักท่องเที่ยวที่อยากมานอนกางเต้นท์ดื่มด่ำธรรมชาติ
ทั้งพื้นที่ใกล้เคียงกันในเส้นทางสะเมิง-วัดจันทร์ ยังมีเช็คปักหมุดเช็คอินน่าเที่ยวอีกหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น “ไร่สตรอเบอร์รี่” ไผ่สีทอง แวะไหว้ “พระธาตุดอยนก”
ชมวิวทะเลหมอก “จุดชมวิวทิวทัศน์ป่าสะเมิง” เที่ยวน้ำตกแม่นาเปอะ เที่ยวชม “จุดชมวิวดอยแดง” รวมถึง “จุดชมวิวจุดสกัดบ่อแก้ว-วัดจันทร์”
หรือจะแวะไปทานข้าวหรือค้างคืนที่ “หลองข้าวสะเมิง” บรรยากาศที่พักแบบหลองข้าวก็เก๋ ท่ามกลางทิวเขาและนาข้าว และที่คนชอบมากจะเป็น “เจ้าหลง” น้องหมาหลงทาง ที่กลายมาเป็นน้องหมาของที่นี่ ซึ่งน่ารักมากคอยต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกคน น้องยังมีชีวิตอยู่ แต่ก็มีอนุสาวรีย์เป็นของตัวเอง ที่เหมือนเป๊ะ
มาแอ๋วสะเมิง-วัดจันทร์ เส้นทางนี้มีดีกว่าที่คิด เข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ Facebook อุทยานแห่งชาติขุนขาน Khukhan National Park หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ททท.เชียงใหม่