เมอร์เซเดส-เบนซ์ เดินหน้าผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ ทั้ง ปลั๊ก-อินไฮบริด PHEV และ EV พร้อมโรงงานประกอบแบตเตอรี่ในไทย ตามแพกเกจ ที่ได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ในส่วนรถพลังงานไฟฟ้า 100% รุ่น Mercedes Benz EQS เปิดตัวเป็น EV โมเดลแรกที่ทำตลาดในไทย และหลังจากนี้จะมีรุ่นอื่นๆ หรือโมเดลที่เล็กกว่า ราคาเข้าถึงง่ายตามมา
สำหรับ Mercedes Benz EQS เตรียมเปิดตัวในไทยภายในไตรมาส 4 ปีนี้ และขายจริงต้นปี 2565 พร้อมแต่งตั้ง 4 ดีลเลอร์เบนซ์ให้มีสิทธิ์ขายรถพลังงานไฟฟ้า EQS โดยรถล็อตแรกจะเป็นการนำเข้ามาจากเยอรมนี และเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ขอใช้สิทธิ์นำเข้ามาได้จำนวนหนึ่ง ก่อนจะเริ่มการผลิตในประเทศ ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่เคยเจรจากับ BOI ครั้งมีแผนขาย EQC เมื่อ 2 ปีก่อน
ตามข้อกำหนดของ BOI อนุญาตให้บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ที่ได้รับอนุมัติแพกเกจ EV โดยก่อนจะขึ้นไลน์ประกอบในไทย สามารถนำเข้ารถพลังงานไฟฟ้ารุ่นนั้นๆ มาทดลองตลาดได้ “จำนวนหนึ่ง” โดยไม่เสียภาษีนำเข้า ซึ่งจำนวนของรถล็อตพิเศษจะสอดคล้องกับโครงการและเงินลงทุนในไทย ทั้งนี้ ในช่วงแรกที่ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ต้องการรับสิทธิ์ประโยชน์กับ EQC หวังจะได้สิทธิ์นำเข้าอย่างน้อยๆ 500 คัน แต่สุดท้ายตามดุลยพินิจของ BOI ให้นำเข้าได้เพียงหลักสิบคันเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ด้วยความเข้าใจไม่ตรงกันระหว่างเมอร์เซเดส-เบนซ์ กับ BOI และการเลื่อนเปิดตัว จนเผชิญกับสถานการณ์โควิด-19 ในปี 2563 ทำให้เมอร์เซเดส-เบนซ์ ตัดสินใจ พับโครงการ EQC และเตรียมนับหนึ่งกับแฟลกชิปโมเดล EV รุ่น Mercedes Benz EQS ที่เตรียมเปิดตัวปลายปี 2564
ดังนั้น การเปิดตัวของ Mercedes Benz EQS ช่วงปลายปีนี้ รถล็อตแรกจึงเป็นรถนำเข้าที่ไม่เสียภาษีนำเข้า ตามเงื่อนไข BOI (จำนวนไม่มาก) เพื่อนำเข้ามาทำกิจกรรมช่วงเปิดตัว หรือเป็นรถเดโม ก่อนที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ จะเริ่มประกอบ EQS ในไทยต้นปี 2565
“เราได้เตรียมความพร้อมในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ที่โรงงานประกอบรถยนต์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ในประเทศไทย ผ่านการรับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI และการสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าตั้งแต่ปี 2562 เพื่อต่อ ยอดจากการที่เราเป็นผู้นำในตลาดรถปลั๊ก-อินไฮบริดระดับลักชัวรี ด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลายในแต่ละเซกเมนต์” นายโรลันด์ โฟล์เกอร์ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวและว่า
บริษัทฯ มีการหารือกับรัฐบาลอย่างต่อเนื่องเรื่องรถยนต์ไฟฟ้า และพร้อมสนับสนุนเต็มที่กับเป้าหมาย ZEV 2035 ของรัฐบาล (ขาย EV 100% ในปี พ.ศ. 2578) ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายระดับโลกของเมอร์เซเดส-เบนซ์
ตามที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอจีประกาศออกมาว่า แบรนด์เมอร์เซเดส- เบนซ์ กำลังเตรียมความพร้อมเพื่อก้าวสู่การเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มตัวทั่วโลกภายในทศวรรษนี้ ซึ่งในประเทศไทย เมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้เตรียมความพร้อมในสายการผลิตให้สอดคล้องกับกลยุทธ์นี้ไว้ก่อนแล้ว
“ประเด็นว่าประเทศไทยจะขายรถยนต์ Internal Combustion Engine (ICE) คันสุดท้ายเมื่อไหร่ ตามนโยบายของบริษัทแม่ เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอจี ที่จะก้าวสู่การเป็นผู้ผลิต EV เต็มตัวภายในสิ้นทศวรรษนี้แน่ นอนว่า สหรัฐอเมริกา ประเทศในยุโรปรวมถึงจีน จะเปลี่ยนแปลงไปก่อน ส่วนประเทศอื่นๆ คงต้องดูความพร้อม ของตลาดและโครงสร้างพื้นฐานควบคู่กันไป ซึ่งไม่ได้หมายความว่าเวลานั้นจะไม่มี รถ ICE ขายแล้ว เพียงแต่เราจะค่อยๆบีบความสนใจ ให้มุ่งมาที่ EV มากกว่า” นายโฟล์เกอร์ กล่าวสรุป
ทั้งนี้ ภายในปี 2565 รถเมอร์เซเดส-เบนซ์ จะมี EV แทรกอยู่ในทุกโมเดลหลัก ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ขนาดเล็ก ขนาดกลาง ขนาดใหญ่ เอสยูวี และรถตู้ และปี 2568 จะเลิกพัฒนารถเครื่องยนต์สันดาปภายใน แต่จะเปิดตัวแพลตฟอร์มใหม่สำหรับ EV แบ่งเป็น 3 กลุ่มคือMB.EA สำหรับรถขนาดกลางและใหญ่ (รถบ้านทั่วไป) VAN.EA สำหรับรถตู้ และ AMG.EA สำหรับตัวแรง Mercedes AMG
นอกจาก Mercedes Benz EQS ที่เตรียมเปิดตัวแล้ว เร็วๆ นี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศ ไทย จะส่ง Mercedes-Maybach GLS เอสยูวีสุดหรูเข้ามาทำตลาด และปลายปีจะเป็นคิวของ S-Class W223 ปลั๊ก-อินไฮบริด ประกอบในประเทศ