ไชน่า แมชชีน เล็งเปิดเครื่องจักรกลหนักไฟฟ้า 100%

ตลาดเครื่องจักรกลหนักในไทยไม่แผ่ว ผู้ประกอบการระบุมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องตามภาคอุตสาหกรรมการก่อสร้างของประเทศที่ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนเดินหน้าก่อสร้างโครงการต่างๆรวมถึงโครงสร้างพื้นฐาน  โดยตลาดนี้ในปีที่ผ่านมามีการเติบโตกว่า 20 % 

จากแนวโน้มการเติบโตดังกล่าว ทำให้ผู้ประกอบการแต่ละรายมีการงัดกลยุทธ์ออกมาแข่งขัน ซึ่งไชน่า แมชชีน หนึ่งในผู้ประกอบการน้องใหม่ในไทย เตรียมแผนเชิงรุก เริ่มตั้งแต่ด้านผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ โดยเตรียมเปิดตัวเครื่องจักรกลหนักไฟฟ้า 100% ในช่วงกลางปีที่จะถึงนี้ 

ขณะเดียวกันได้เปิดตัวรถขุด XCMG รุ่นพิเศษ XE205D สีขาว รถโม่ผสมคอนกรีตที่นำนวัตกรรมของ SCHWING Stetter และ รถขุด XCMG รุ่น XE135D โดยรถขุดรุ่นนี้ออกแบบพัฒนาโดย XCMG และ Cummins แรงบิดสูงที่ความเร็วต่ำและประหยัดเชื้อเพลิงสูง สามารถลดการใช้เชื้อเพลิงได้ 7% 
 

นายเฉิน ปิง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไชน่า แมชชีน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า แผนงานเกี่ยวกับเครื่องจักรกลหนักพลังงานไฟฟ้า ถือเป็นนโยบายที่สอดคล้องกับแนวทางของบริษัทแม่ที่ประเทศจีน (Go Green) อีกทั้งยังต้องการสร้างความยั่งยืนในอุตสาหกรรมสีเขียว 

"ในไทยมีหน่วยงานราชการได้สั่งเครื่องจักรกลหนักไฟฟ้าแบรนด์เรามาใช้แล้ว  ซึ่งเทรนด์ในอนาคตเราคาดว่าจะมุ่งหาพลังงานไฟฟ้ามากขึ้น ทำให้เราตัดสินใจที่จะเปิดตัวในช่วงกลางปี อย่างไรก็ตามราคาของไฟฟ้าจะแพงกว่าเครื่องยนต์ปกติประมาณ 2 เท่าแต่การใช้งานในระยะยาวต้นทุนจะถูกกว่า ซึ่งเราคาดว่ากลุ่มลูกค้าที่จะซื้อรถประเภทนี้คือหน่วยงานรัฐ - องค์กรใหญ่ๆ"

แผนงานเชิงรุกต่อมาคือการเปิดศูนย์ Display Training Center ที่คาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 30 ล้านบาท สำหรับศูนย์ฯดังกล่าวตั้งอยู่ย่านสุวรรณภูมิ โดยจะเป็นทั้งโชว์รูมและศูนย์ฝึกอบรมคนขับเครื่องจักรกลหนักโดยเฉพาะ มีการอบรมพนักงานทีมช่างให้มีความชำนาญ และเปิดให้ประชาชนคนทั่วไปสามารถเข้ามาฝึกอบรมและได้รับใบเซอร์ฯ เพื่อเพิ่มโอกาสในการใช้งาน ทั้งนี้คาดว่าจะเปิดศูนย์ฯดังกล่าวในเดือน พ.ค.65 
 

นอกเหนือจากเปิดศูนย์ฯแล้ว แผนงานด้านเครือข่าย จากปัจจุบันที่มี 17 แห่ง ก็จะขยายเพิ่มเป็น 20 แห่งภายในสิ้นปีนี้ โดยมีจุดบริการดังนี้ 

• ภาคเหนือ:  สาขาเชียงราย, สาขาเชียงใหม่ , สาขาลำปาง ,สาขาพะเยา
• ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ:  สาขาขอนแก่น , สาขานครราชสีมา , สาขาสุรินทร์
• ภาคกลาง: สาขาพระนครศรีอยุธยา ,สาขาสุวรรณภูมิ , สาขาฉะเชิงเทรา ,สาขาสมุทรสงคราม
• ภาคตะวันออก:  สาขาชลบุรี ,สาขาระยอง , สาขาจันทบุรี
• ภาคใต้:  สาขานครศรีธรรมราช ,สาขาตรัง, สาขาสงขลา                      

ส่วนกลยุทธ์การทำตลาดอื่นๆในปีนี้ ยังคงเน้นทั้งการทำตลาดออนไลน์และออฟไลน์ ควบคู่กันไปโดยเฉพาะการใช้โซเชียลมีเดีย มาร่วมสื่อสารการตลาดไปยังกลุ่มเป้าหมายลูกค้าองค์กรในภาคอุตสาหกรรมการก่อสร้าง เช่น ผู้รับเหมาก่อสร้าง และกลุ่มลูกค้าทั่วไปในภาคเกษตร เช่น ผู้ทำสวนทุเรียน, สวนยางพารา, ปลูกป่า เกษตรกรขุดบ่อเลี้ยงปลา 

นายเฉิน ปิง กล่าวว่า บริษัทฯคาดว่าปี 2565 จะมียอดขายไม่ต่ำกว่า 4,000 ล้านบาท เติบโตเท่าตัว และมีส่วนแบ่งตลาดไม่ต่ำกว่า 14-15%  พร้อมกันนั้นยังตั้งเป้าหมายจะขึ้นเป็นผู้นำตลาดอันดับ 2 ของไทยภายใน 3-4 ปีข้างหน้า โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีส่วนแบ่งการตลาดราว 8% เป็นอันดับ 5 จากผู้เล่นในตลาดที่มีอยู่กว่า 10 ราย และปีที่ผ่านมาบริษัทมียอดขายกว่า 1,800 ล้านบาท

"ในปีที่ผ่านมาเรามียอดขายเติบโต โดยมีปัจจัยประกอบไปด้วย ราคาสินค้าเราถูกกว่าคู่แข่งประมาณ 10 % ขณะเดียวกันการรับรู้ของผู้บริโภคที่มีต่อสินค้าจีนในตอนนี้ ก็เชื่อมั่นว่าสินค้าดีมีคุณภาพ นอกจากนั้นแล้วเรายังได้รับการสนับสนุนจากบริษัทฯแม่ ,โรงงาน เมื่อรวมกับประสบการณ์ที่อยู่ในธุรกิจรถขุด-เครื่องจักรกลหนักมาก่อน ทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยที่ทำให้เราประสบความสำเร็จ"
 

อนึ่ง บริษัท ไชน่า แมชชีน (ประเทศไทย) จำกัด เป็นตัวแทนผู้จัดจำหน่ายเครื่องจักรกลหนักสัญชาติจีน ภายใต้แบรนด์ XCMG (Xuzhou Construction Machinery Group) อย่างเป็นทางการในประเทศไทย โดยสินค้าหลัก ได้แก่ รถขุด เครื่องจักรทำถนน (รถบด รถเกรด รถปูยางมะตอย โรงผสมยางมะตอย รถขูดผิวถนน Cold Recycler รถไสผิวถนน รถดันดิน) เครน (ทรัคเครน เครนตีนตะขาบ รถยกตู้คอนเทนเนอร์) 

เครื่องจักรคอนกรีต (ปั๊มคอนกรีต รถโม่ปูน โรงผสมคอนกรีต เครื่องจักรฐานราก รถเจาะเสาเข็ม รถร้อยสายใต้ดิน ไปป์แจ็คกิ้ง TBN) เครื่องจักรเหมืองแร่ รถกระเช้า รวมถึงทั้งเครื่องจักรเฉพาะทางที่ใช้ในการสร้างทางรถไฟ สะพานและอุโมงค์