MG มั่นใจยอดจองรถอีวี 6 พันคัน ถึงมือลูกค้าภายในสิ้นปี

17 มิ.ย. 2565 | 08:46 น.
อัปเดตล่าสุด :17 มิ.ย. 2565 | 19:51 น.

MG โชว์ยอดจองรถยนต์ไฟฟ้า 2 รุ่นกว่า 6 พันคัน มั่นใจสิ้นปีส่งมอบถึงมือผู้ใช้ พร้อมเดินหน้า ขยายเพิ่มสถานีชาร์จ ทุก 150 กม.ทั่วประเทศ จากปัจจุบันมีแล้วกว่า 140 จุด ระบุตลาดไทยเป็นโอกาสสำคัญของธุรกิจรถยนต์เอ็มจี

นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยบนเวที สัมมนา EV Forum 2022 Move Forward to New Opportunity ของ "ฐานเศรษฐกิจ -กรุงเทพธุรกิจ" ว่า จากยอดจองรถยนต์ไฟฟ้า หรือรถอีวีล่าสุดกว่า 1 หมื่นคัน เป็นยอดจองของเอ็มจีกว่า 6,000 คัน ซึ่งขณะนี้ต้องปิดจองบางรุ่น เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาด้านการผลิตส่งมอบลูกค้าล่าช้า ซึ่งบรฺิษัทพร้อมเปิดจองเพิ่มทันทีเมื่อซัพพลายเชนการผลิตเดินหน้าได้ 100% อย่างไรก็ตาม สำหรับจำนวนรถกว่า 6,000 คันที่ลูกค้าจองเข้ามาแล้ว คาดว่าจะสามารถจัดส่งได้ครบภายในปีนี้

 

ยอดจองรถเอ็มจีปัจจุบัน แบ่งเป็น MG ZS EV 2,000 คัน MG EP 4,000 คัน  โดยลูกค้าให้ความสนใจอย่างล้นหลามตั้งแต่การประกาศเข้าร่วมโครงการสนับสนุนของรัฐบาลตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา ด้วยราคาลดลงสูงสุด 246,000 บาท ส่วนรุ่นที่ต้องหยุดรับจองคือ MG EP เพื่อวางแผนบริหารจัดการใหม่ และยังต้องคำนึงว่า รถพลังงานไฟฟ้าตัวถังสเตชั่นแวกอนรุ่นนี้ เตรียมเปิดตัวโฉมใหม่ ในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 ส่วน MG ZS EV ยังเปิดรับจองตามปกติ

ส่วนการลงทุนอื่น ซึ่งเอ็มจีมีนโยบายการลงทุนในธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจร และที่ผ่านมา ได้รับใบอนุญาตการจัดตั้งสถานีชาร์จไฟฟ้าจาก บีโอไอ หรือ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน และได้ดำเนินการร่วมกับพันธมิตร คือ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) ไปแล้วกว่า 150 สถานี โดยตั้งเป้าจะจัดตั้งสถานีชาร์จของเอ็มจีในทุกๆ 150 กิโลเมตร และจะเดินหน้าให้ครบ 500 สถานีในอนาคต 

 

เอ็มจี มีแนวทางในการรุกตลาดรถอีวี 4 แนวทางคือ CASE ได้แก่ 

  • C : Connectivity เอ็มจีได้นำเสนอการเชื่อมต่อระหว่างรถกับคนตั้งแต่ปี 2015 ด้วยระบบ I-Smart ที่มีทั้ง Smart Command, Smart Connect และ Smart Check 

 

  • A : AUTONOMOUS เป็นการใส่อุปกรณ์ช่วยการขับขี่เข้าไปในระบบรถ ตอนนี้อยู่ที่เลเวล 2 ถ้าการจรจรเราดีขึ้น ระบบ AUTONOMOUS ของเอ็มจีจะดียิ่งขึ้น และอนาคตมีโอกาสได้เห็นรถยนต์ไร้คนขับแน่นอน
  • S: Sharing Economy เอ็มจีได้ร่วมกับ EVme ของปตท. และ HAUP ทำระบบรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบบเช่า เป็นการให้บริการในรูปแบบ “คาร์เเชร์ริ่ง” 
  • E: Electric Vehicle เอ็มจีมองว่า อนาคตไทยจะสามารถเป็นฮับของรถยนต์ไฟฟ้าได้ เช่นเดียวกันตอนนี้ที่เป็นฮับของรถยนต์สันดาบ 

 

สำหรับตลาดรถอีวี ทางเอ็มจีมองว่าในประเทศไทย เป็นโอกาสและเป็นตลาดที่สำคัญของเอ็มจี ซึ่งบริษัทพร้อมเดินหน้าธุรกิจควบคู่กับการสร้างเศรษฐกิจพลังงานสะอาด (Green Economy) เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งหากอุตสาหกรรมต่างๆ มีการลงทุนที่ถูกต้อง เชื่อมั่นว่า ทั้งส่วนของธุริกจและสิ่งแวดล้อมสามารถเดินหน้าและเติบโตควบคู่กันได้