ฮอนด้า ปรับแผนเข้าสู่ยุครถยนต์ไฟฟ้า เสริมขุมพลังไฮบริดให้โปรดักต์ทุกรุ่นที่ผลิตในไทย ทั้งโฉมใหม่ของ Honda CR-V 2023 e:HEV และ Honda Accord ที่เตรียมเปิดตัวต้นปีและปลายปีนี้ตามลำดับ ส่วน Honda HR-V EV ปรับแผนประกอบไทยเร็วขึ้น
ฮอนด้า ออโตโมบิล ประเทศไทย เตรียมรุกเข้มเต็มสูบด้วยการเปิดตัวโปรดักต์ใหม่ตลอดทั้งปี 2566 ขณะเดียวกันยังมีทิศทางที่ชัดเจนเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้า ทั้งประเภท ไฮบริด (ฮอนด้าเรียก e:HEV) และรถพลังงานไฟฟ้า 100% EV โดยฮอนด้าจะประเดิมไตรมาสแรกด้วย 2 โมเดลสำคัญคือ เอสยูวี Honda CR-V 2023 โมเดลเชนจ์ และ Honda City ไมเนอร์เชนจ์
ในส่วนอีโคคาร์ตัวถังซีดาน-แฮตช์แบ็ก จะถูกแต่ง หน้าทาปากและเพิ่มฟังก์ชัน ใหม่ๆ โดยยึด 2 ขุมพลังเดิมคือ เบนซิน 3 สูบ 1.0 ลิตร เทอร์โบ และฟูลไฮบริด e:HEV เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 1.5 ลิตร ผสานการทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้า โดยจะปรับขึ้นราคาเล็กน้อย
ส่วน Honda CR-V 2023 โฉมใหม่ เจเนอเรชันที่ 6 เริ่มทำตลาดปลายปี 2565 ที่สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศแรก ส่วนเมืองไทยจะเปิดตัวในเดือนมีนาคมนี้ ซึ่งคอมแพกต์เอสยูวีรุ่นดังถูกออกแบบภายนอก-ภายในใหม่หมดทั้งคัน ส่วนขุมพลังจะไม่มีรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล แต่จะมา กับ 2 ทางเลือก คือ เบนซิน 4 สูบ 1.5 ลิตร เทอร์โบ (บล็อกเดียวกับ Honda Civic) และฟูลไฮบริด Honda CR-V e:HEV เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร ผสานการทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้า
ก่อนที่ช่วงปลายปี 2566 จะถึงคิวของ Honda Accord โมเดลเชนจ์ ซึ่งรถยนต์นั่งขนาดกลางคู่แข่งของ Toyota Camry จะมีเพียงทางเลือกเดียวคือ ไฮบริดเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร
นอกจากขุมพลัง e:HEV ที่มาครบทุกไลน์อัพแล้ว (สำหรับรถยนต์ที่ประกอบในไทย) ซึ่งตามที่ “ฐานยานยนต์” เคยรายงานไปก่อนหน้านี้ว่า ฮอนด้า ออโตโมบิล ประเทศไทย เตรียมปรับแผนงานของรถพลังงานไฟฟ้า Honda EV ให้เร็วขึ้นด้วย
จากเดิมฮอนด้า มีแผนขึ้นไลน์ประกอบ Honda HR-V EV ในไทยช่วงปี 2567 แต่ด้วยสภาพแวดล้อมทางการแข่งขันเปลี่ยนไป ส่วนหนึ่งเป็นเพราะนโยบายสนับสนุน EV คันละ 1.5 แสนบาทของรัฐบาล ทำให้บรรดารถพลังงานไฟฟ้าจากจีนต่างโกยยอดขายเป็นว่าเล่น และคาดว่าปี 2566 จะมีการส่งมอบไม่ตํ่ากว่า 2 หมื่นคัน
ดังนั้น ฮอนด้าจึงทบทวนแผน EV ใหม่ และตัดสินใจขึ้นไลน์ประกอบ Honda HR-V EV ช่วงปลายปีนี้ทันที โดยชิ้นส่วนสำคัญต่างๆ ของระบบขับเคลื่อนเป็นการนำเข้าจากจีน
ปัจจุบัน Honda HR-V ในไทยมีขายเฉพาะรุ่นไฮบริด e:HEV ราคา 979,000 - 1,179,000 บาท ส่วนรุ่น EV ยังไม่ยืนยันชื่อที่ใช้ในการทำตลาด แต่ที่จีนเรียกโมเดลนี้ว่า e:NS1 และ e:NP1
ทั้งนี้ ฮอนด้า ออโตโมบิล ประเทศไทย ทำยอดขายในปี 2565 ได้ 82,842 คัน ลดลง 6.6% เมื่อเทียบกับปี 2564 แต่ในจำนวนนี้เป็นสัดส่วนของรถไฮบริด e:HEV ทุกรุ่น 26,660 คัน
นายโนริยุกิ ทาคาคุระ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ยนตรกรรมฟูลไฮบริด e:HEV ของฮอนด้าครอบคลุม 4 เซกเมนต์หลัก ทั้งในกลุ่มซิตี้คาร์ ได้แก่ Honda City, คอมแพคท์คาร์ Honda Civic, เอสยูวี Honda HR-V และ ดี-เซกเมนต์ Honda Accord ส่งผลให้บริษัทสามารถครองอันดับ 1 ยอดขายกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้า xEV ในปี 2565 ด้วยยอดขายรวม 26,660 คัน ครองส่วนแบ่งทาง การตลาด 30%
“ปี 2566 เรายังเดินหน้านำเสนอยนตรกรรมที่ลูกค้าต้องการอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมหลากหลายพลังงานทางเลือก” นายทาคาคุระ กล่าว