คาดงบหนุนรถอีวีหมดก.ย.นี้ ลุ้นรัฐบาลใหม่สานต่อนโยบาย

07 ส.ค. 2566 | 02:51 น.
อัปเดตล่าสุด :07 ส.ค. 2566 | 02:59 น.

สรรพสามิตเผยแพ็คเกจรถอีวี หนุนคนไทยใช้รถไฟฟ้าโตพุ่ง 270% สูงสุดในอาเซียน คาดงบหมดก.ย.66 ลุ้นรัฐบาลใหม่สานต่อนโยบาย

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ความคืบหน้าการดำเนินมาตรการส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้านั้น ในปีนี้กรมได้รับงบประมาณในมาตรการดังกล่าว 2,900 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าวงเงินจะหมดสิ้นเดือนก.ย.66 นี้ เนื่องจากแนวโน้มการใช้รถยนต์อีวีเติบโตเร็วมาก มีการจดทะเบียนรถแล้ว 20,000 คัน เติบโต 270% ภายใน 1 ปี ทำให้คนไทยมีการใช้รถไฟฟ้าสูงที่สุดในอาเซียน

ทั้งนี้ คาดว่าในปีงบประมาณ 2567 จากแนวโน้มอัตราการเติบโตของรถอีวี จะมีการของบประมาณในการอุดหนุนมากกว่านี้ อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามนโยบายของรัฐบาลใหม่ด้วย ว่าจะมีแพ็คเกจอย่างไรสำหรับอีวี และมีวงเงินเหลือมาสนับสนุนเท่าใด แต่มาตรการอีวีจะต้องต่ออยู่แล้วในปีหน้า เพราะมาตรการแพ็คอีวีกำหนดไว้ตั้งแต่ปี 65-68 เพียงแต่ต้องรอดูนโยบายว่าจะเป็นทิศทางใด

ส่วนกรณีที่วงเงินงบประมาณหมดไป และมีการจัดตั้งรัฐบาลล่าช้านั้น ก็จะต้องรอการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งขณะนี้กรมก็อยู่ระหว่างหารือสำนักงบประมาณ เพื่อหาทางออกในการดูแลเรื่องดังกล่าว โดยมาตรการส่งเสริมอีวีไม่เข้าข่ายการขอใช้งบผูกพัน ซึ่งหากจะทำอย่างต่อเนื่องจะต้องขอใช้งบกลาง  

สำหรับมาตรการส่งเสริมการใช้รถอีวีเริ่มตั้งแต่ปี 65-68 โดยประชาชนจะได้รับอุดหนุนวงเงินเพื่อเป็นส่วนลดในการซื้ออีวีสูงสุด 1.5 แสนบาทต่อคัน ขณะที่ฝั่งของผู้ประกอบการนั้นกรมมีการลดภาษีให้จาก 8% เหลือ 2% 

โดยในปี 65-66 ที่ยังไม่มีการผลิตอุตสาหกรรมอีวีในประเทศ ให้ผู้ประกอบการนำเข้ามา แต่ปี 67 รถที่นำเข้ามาจะต้องมาตั้งโรงงานผลิต เพื่อผลิตคืน เช่น มีการซื้อรถอีวี 1 คัน ในปี 67 จะต้องตั้งโรงงานในประเทศไทย และผลิตคืน 1 คัน แต่หากตั้งโรงงานช้าจะต้องผลิตคืน 1.5 คัน