10 กรกฎา วันอำลาการผลิตโฟล์คเต่า Volkswagen Beetle คันสุดท้าย

รถโฟล์คเต่า Volkswagen Beetle เป็นรถยนต์ที่มีรูปโฉมเป็นเอกลักษณ์ จนเรียกได้ว่าเมื่อพูดถึงรถยนต์ โฟล์คสวาเกน หลายคนก็มักจะคิดถึงรถโฟล์คเต่าเป็นอันดับแรก (ขึ้นอยู่กับอายุของคนนั้นๆว่าได้ร่วมสมัยกับเจ้าโฟล์คเต่าเนิ่นนานเพียงใด) สำหรับบางครอบครัว นี่อาจจะเป็นรถยนต์คันแรกของรุ่นพ่อแม่ เพราะ Volkswagen Beetle ซึ่งมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า Volkswagen Type 1 คันแรกออกมาจากสายการผลิตในประเทศเยอรมนีตั้งแต่ปี ค.ศ. 1938 หรือตรงกับพุทธศักราช 2481 ซึ่งในประเทศไทยเป็นรัชสมัยของในหลวงรัชกาลที่ 8  

ตามแนวคิดรถยนต์สำหรับประชาชน (People’s car) ซึ่งในภาษาเยอรมันเรียกว่า Volkswagen ที่ดำริโดย อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ผู้นำเยอรมนีในขณะนั้น มีการวิจัยและพัฒนาคอนเซ็ปต์รถโฟล์คเต่ามาตั้งแต่ปี 1934 เพื่อให้เป็นรถที่คนทั่วไปสามารถซื้อหามาใช้ได้ในราคาย่อมเยา เนื่องจากรายได้เฉลี่ยของหนุ่มสาวชาวเยอรมันในยุคนั้น ค่อนข้างน้อย ไม่สามารถมีรถยนต์เป็นของตนเองได้ง่ายๆ 

ฮิตเลอร์มอบหมายให้นายเฟอร์ดินานด์ ปอร์เช่ (ผู้ออกแบบและให้กำเนิดบริษัทรถยนต์ปอร์เช่) เป็นผู้ออกแบบรถยนต์ที่จะพาผู้ใหญ่สองคนและเด็กสามคนไปได้ ที่ความเร็ว 60 ไมล์ต่อชั่วโมง ประหยัดน้ำมัน และราคาย่อมเยาไม่มากเกินกว่าราคารถจักรยานยนต์ในช่วงเวลานั้น เฟอร์ดินานด์ ปอร์เช่ รับงานที่ท้าทายนี้และผลิตรถต้นแบบคันแรกตัวถังอะลูมิเนียมติดอยู่กับกรอบไม้แบบโบราณออกมาปลายปี 1935

ต่อมารุ่นต้นแบบพัฒนาใหม่เผยโฉมในช่วงต้นปี 1936 กระทั่งช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคม 1936 รุ่นต้นแบบV3 Concept ผลิตออกมาเพียง 3 คันก่อน เพื่อทดสอบการใช้งาน วิ่งได้เป็นระยะทางกว่า 50,000 กิโลเมตร ก่อนที่จะมีการทดสอบต่อเนื่องภายใต้รหัสโครงการ VVW30 จากนั้นจึงมาลงตัวที่เครื่องยนต์แบบบ็อกเซอร์ 4 สูบนอนจัดวางอยู่ในกระโปรงท้ายรถ พร้อมระบบระบายความร้อนด้วยอากาศ ออกจากสายการผลิตคันแรกในปี 1938

แต่กว่าจะเริ่มการผลิตเพื่อจำหน่ายสู่ตลาดจริงๆจังๆได้ ต้องรอกันจนถึงเดือนธันวาคม 1945 หรือหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ยุติลงแล้ว โดยในเดือนนั้นมีการผลิตออกมาเพียงแค่ 55 คันเท่านั้น และหลังจากนั้น 2 ปี (1947) จึงเริ่มมีการส่งออกไปที่ประเทศแรกคือ เนเธอร์แลนด์ นำเจ้าโฟล์คเต่าเข้าไปจำหน่าย 56 คัน ปีต่อมาจึงเริ่มขยายตลาดส่งออกไปยังเบลเยี่ยม เดนมาร์ก ลักเซมเบิร์ม สวีเดน และสวิตเซอร์แลนด์ ก่อนจะข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก เข้าสู่ตลาดสหรัฐอเมริกาในวันที่ 8 มกราคม 1949

โฟล์คเต่า Volkswagen Beetle กลายเป็นปรากฏการณ์ใหม่ ขายดิบขายดี กระทั่งปี 1950 ก็สามารถผลิตได้ครบ 100,000 คัน จากนั้นเพิ่มเป็น 250,000 คันในปี 1951 ซึ่งเป็นตัวเลขการผลิตที่สวนทางกับวัตถุดิบที่มีอยู่ในตลาด จนทำให้ต่อมาต้องหยุดการผลิตและลดชั่วโมงการทำงานลงชั่วคราว แต่แม้กระนั้น ในปี 1952 โฟล์คสวาเกนก็สามารถผลิตรถโฟล์คเต่าได้มากกว่า 100,000 คัน เป็นครั้งแรก และในปีต่อมา ก็ได้มีการฉลองการผลิตครบ 5 แสนคัน เป็นช่วงเวลาที่โฟล์คเต่าสามารถครองส่วนแบ่งในตลาดรถยนต์นั่งของเยอรมนีตะวันตกในขณะนั้นที่มีมากถึง 42.5%

ปี 1955 เป็นหมุดหมายใหม่ บริษัทสามารถผลิตครบ 1 ล้านคัน จากนั้นในปี 1967 ก็ฉลองการผลิตครบ 10 ล้านคัน โดยมีโรงงานผลิตทั้งหมด 5 แห่งในเยอรมนี คือ เมืองฮันโนเวอร์ คาสเซล บรันสวิค เอมเดน และโวล์ฟบวร์ก

ปีทองอีกหนึ่งปีของโฟล์คเต่า คือ ค.ศ.1972 วันที่ 17 กุมภาพันธ์ปีนั้น ยอดการผลิตรถโฟล์คเต่า Volkswagen Beetle ที่ 15,007,034 คัน สามารถทำสถิติแซงหน้า ฟอร์ด โมเดล ที แชมป์เก่าค่ายอเมริกันได้สำเร็จ จึงทำให้ โฟล์คเต่า Beetle กลายเป็นรถยนต์ที่มียอดผลิตสูงสุดในโลก ก่อนที่จะเสียตำแหน่งให้กับรุ่น Golf ในปี 2002

ความรุ่งโรจน์ของรถโฟล์ครุ่น Golf นำความริบหรี่มาให้รถเต่า Beetle ในเวลาเดียวกัน โฟล์คสวาเกนตัดสินใจปิดสายพานการผลิตรถเต่าที่โรงงานโวล์ฟบวร์ก ในปี 1974 และที่เอมเดนในปี 1978 โดยโฟล์คเต่าคันสุดท้ายที่ผลิตในเอมเดนเมื่อวันที่ 19 มกราคม ถูกส่งเข้าไปจอดเก็บอย่างดีในพิพิธภัณฑ์เมืองโวล์ฟบวร์ก

ในปี 2018 บริษัทโฟล์คสวาเกนประกาศว่าจะผลิต Volkswagen Beetle เป็นรุ่นสุดท้าย ซึ่งหลังจากนั้นในวันที่ 10 ก.ค. 2019 (พ.ศ.2562) รถเต่ารุ่นสุดท้ายนี้ภายใต้ชื่อรุ่น Final Edition ได้ถูกผลิตออกมาจากโรงงานประกอบรถในรัฐปวยบลา ประเทศเม็กซิโก ซึ่งเป็นโรงงานแห่งเดียวที่ยังผลิตอยู่ และถือเป็นรุ่นพิเศษปิดท้ายการผลิต

ถามถึงเหตุผลที่ต้องเลิกผลิตเจ้ารถโฟล์คเต่านั้น สืบเนื่องจากยอดจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาที่ลดลงเรื่อยๆ อย่างเช่นในปี 2017 มียอดขายที่ 15,156 คัน เมื่อเทียบยอดขายในปี 2013 จำนวน 43,134 คัน นับว่าลดลงอย่างน่าใจหาย ประกอบกับนโยบายของบริษัทที่เน้นผลิตรถยนต์สำหรับครอบครัว และมุ่งการพัฒนาและทำตลาดในส่วนของรถยนต์ไฟฟ้าให้กลายมาเป็นตัวหลักในการขับเคลื่อนธุรกิจในอนาคต ซึ่งทำให้ Beetle จำเป็นต้องยกเลิกการผลิตไปโดยปริยาย

ขอบคุณข้อมูลจาก britannica.com / grandprix.co.th/ วิกิพีเดียสารานุกรมเสรี