“กราดยิงสหรัฐฯ” รู้จัก “ShotSpotter" ความหวังลดอาชญากรรมจากปืน

26 ม.ค. 2566 | 02:14 น.
อัปเดตล่าสุด :26 ม.ค. 2566 | 02:46 น.

“กราดยิงสหรัฐฯ” เกิดขึ้นรายวัน ที่ผ่านมามีการเสาะหาวิธีลดปัญหาเหล่านี้ ด้วยเทคโนโลยี “ShotSpotter" ความหวังลดอาชญากรรมจากปืน ?

เข้าสู่ปี 2023 เราคงได้ยินคราวข่าวโศกนาฎกรรมในสหรัฐฯ นั่นก็คือ เหตุกราดยิง เฉพาะเดือนแรกของปี 2566 เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ไปแล้วกว่า 39 ครั้ง นี่เป็นข้อมูลที่ได้รับการเปิดเผยจาก Gun Violence Archive องค์กรไม่แสวงกำไรที่ศึกษาเกี่ยวกับความรุนแรงจากอาวุธปืน

แน่นอนว่าเหตุการณ์เหล่านี้สร้างแรงกระเพื่อมให้ประเด็น “กฎหมายควบคุมอาวุธปืนในสหรัฐฯ” ถูกพูดอีกครั้ง ล่าสุด ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน เรียกร้องสภาคองเกรสผ่านร่างกฎหมาย 2 ฉบับ ห้ามอาวุธโจมตีและตลับกระสุนความจุสูง เพิ่มอายุขั้นต่ำในการซื้อปืนเป็น 21 ปี ต้องดำเนินการให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้  

เมื่อพิจารณาจากปี 2022 ที่ผ่านมา ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากจากปืนในสหรัฐฯ ประมาณ 20,200 ราย เหตุกราดยิงทั้งสิ้น 647 ครั้ง ลดลงมาจากปีก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ 690 ครั้ง ที่ผ่านมาใช่ว่าสหรัฐฯ จะไม่เสาะหาวิธีลดอัตราการเกิดอาชญากรรม

หากย้อนกลับไปเมื่อปี 2018  มีรายงานว่า สภาเทศบาลเมืองแทมปาในรัฐฟลอริดา อนุมัติงบประมาณ 430,000 เหรียญสหรัฐฯ จากทุนเทคโนโลยีนวัตกรรมเพื่อความปลอดภัยของสาธารณะ จ้าง ShotSpotter ให้ช่วยตำรวจเฝ้าระวังอาชญากรรมที่เกิดจากปืน จากนี้ไปเราจะพูดถึง เทคโนโลยี ShotSpotter ว่าคืออะไร และทำงานอย่างไร

ข้อมูลจากเว็บไซต์ ShotSpotter ระบุว่า เป็นระบบเซ็นเซอร์ที่ทำงานร่วมกันเพื่อตรวจจับ ระบุตำแหน่ง และแจ้งเตือนเหตุการณ์จากปืน อาคารบ้านเรือนจะติดตั้งอุปกรณนี้ เเม้เเต่เสาโทรศัพท์ก็ด้วย ในระยะทาง 2.5 ตารางกิโลเมตร จะมีเซ็นเซอร์ประมาณ 15-20 ตัว ตอบสนองแม่นยำกว่า 97%

ข้อมูลที่ได้จากเซ็นเซอร์ จะมีตั้งแต่ ตำแหน่งที่เกิดเหตุ ประเภทอาวุธ จำนวนกระสุน ช่วยให้การดำเนินคดีมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยให้ตำรวจตรวจจับเหตุการณ์ก่อนจะมีการแจ้งเรื่องไปยัง 911 เเละสามารถเข้าควบคุมเหตุการณ์ได้อย่างรวดเร็ว

ShotSpotter เคลมว่า มีลูกค้ามากกว่า 200 รายไว้วางใจในโซลูชันนี้ เพื่อขับเคลื่อนผลลัพธ์ด้านความปลอดภัยสาธารณะที่มีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และเท่าเทียมกันมากขึ้น ปัจจุบันมีระบบนี้ติดตั้งอยู่ในมากกว่า 135 เมือง ได้รับความนิยมในหลายเมืองทั่วสหรัฐฯ ไม่ว่าจะเป็น ซานดิเอโก ซานฟรานซิสโก นิวเจอร์ซีย์ นิวยอร์กซิตี้ฝั่งตะวันออก ไมอามี หรือ ชิคาโก รวมถึงโอคแลนด์ แคลิฟอร์เนีย ที่เพิ่งเกิดเหตุ กราดยิงไปเมื่อไม่กี่วันนี้ด้วย 

แต่อย่างไรก็ตาม ก็เกิดคำถามเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือ ความเเม่นยำ ความโปร่งใส และความสามารถ เช่นกัน โดยถูกตั้งคำถามว่าเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลและเสรีภาพของประชาชนหรือไม่ เพราะนำไปติดในพื้นที่สาธารณะ รวมทั้งเป็นประเด็นที่นำไปติดตั้งในย่านที่มีอัตราการเกิดอาชญากรรมสูง เเละส่วนใหญ่เป็นย่านชุมชนคนผิวสี 

ในเรื่องความแม่นยำนั้น ข้อมูลพบว่าในชิคาโก การตอบสนองต่อการแจ้งเตือนของ ShotSpotter 88.7 % ไม่พบเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับปืน แต่บริษัทก็โต้แย้งว่ามีคนยิงปืนได้แต่ไม่ทิ้งหลักฐานไว้เบื้องหลัง และก็มีการระบุว่า ShotSpotter ยังมีราคาแพงอีกด้วย 

 

ข้อมูล : shotspotter , aclu.org