"ผู้จัดการมรดก" เป็นคำที่ปรากฏอยู่ในกระแสสังคมอย่างแพร่หลาย จากกรณีบุคคลทางการเมืองถือครองหุ้นในฐานะ "ผู้จัดการมรดก" ซึ่งการเป็นผู้จัดการมรดกได้นั้น ต้องมีคำสั่งแต่งตั้งโดยศาล ผ่านการยื่นร้องของผู้ที่มีคุณสมบัติ
ล่าสุดเพจ สำนักงานศาลยุติธรรม เผยแพร่วิธียื่นขอจัดการมรดกออนไลน์ ระบบ e-Filing ได้ด้วยตนเอง 58 ศาล โดยการยื่นคำร้องขอจัดการมรดกทางระบบ e-Filing สามารถทำได้ใน 2 กรณีคือ
โดยเตรียมเอกสาร ประกอบการยื่นขอจัดการมรดก ในรูปแบบรูปภาพ หรือ PDF ที่สามารถเห็นหลักฐานได้อย่างชัดเจน
เอกสารที่ต้องใช้
โดยสามารถยื่นขอจัดการมรดกได้ทางระบบ e-Filing หากเจ้ามรดกมีภูมิลำเนาในขณะถึงแก่ความตายในท้องที่เหล่านี้ คลิกลิงก์ : ยื่นขอจัดการมรดกผ่าน e-Filing
โดยผู้จัดการมรดก ต้องเป็นบุคคลซึ่งศาลมีคำสั่งตั้งให้เป็นผู้จัดการมรดก มีทำหน้าที่รวบรวม ทำบัญชี และแบ่งปันทรัพย์สินซึ่งเป็นมรดกของผู้ตายให้ทายาทผู้มีสิทธิรับมรดกของผู้ตาย ชำระหนี้สินของเจ้ามรดกแก่เจ้าหนี้ ทำบัญชีทรัพย์มรดก และทำรายการแสดงบัญชีการจัดการและแบ่งมรดก
โดยต้องจัดการไปในทางที่เป็นประโยชน์แก่มรดก จะทำนิติกรรมใดๆ ที่เป็นปรปักษ์ต่อกองมรดกไม่ได้
หากผู้จัดการมรดกละเลยไม่ทำการตามหน้าที่ เช่น ปิดบังมรดกต่อทายาท หรือเบียดบังเป็นของตน หรือเพิกเฉยไม่แบ่งมรดกให้แก่ทายาท
ทายาทผู้มีสิทธิรับมรดกหรือผู้มีส่วนได้เสียจะร้องขอให้ศาลมีคำสั่งถอนผู้จัดการมรดก เพราะเหตุผู้จัดการมรดกละเลยไม่ทำตามหน้าที่หรือเพราะเหตุอย่างอื่นที่สมควรก็ได้ และอาจมีความผิดอาญามีโทษจำคุกได้
คุณสมบัติของผู้จัดการมรดก
1. บรรลุนิติภาวะ ( มีอายุ 20 ปีบริบูรณ์ )
2.ไม่เป็นคนวิกลจริต
3.ไม่เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
4. ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย
ผู้มีสิทธิยื่นคำร้องขอตั้งผู้จัดการมรดก
1.ทายาท (ทายาทโดยธรรมหรือผู้รับพินัยกรรม)
2.ผู้มีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดก
3.พนักงานอัยการ
ที่มา สำนักงานกิจการยุติธรรม