จากกรณีปฏิบัติการค้นหากำลังพลของ "เรือหลวงสุโขทัย" ที่ยังคงสูญหายจำนวน 23 นายเป็นวันที่ 5 ที่ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ ผบ.ทัพเรือภาคที่ 1 เผยว่า จะเน้นการค้นหาในพื้นที่ลงใต้ "ชุมพร-สุราษฎร์" พร้อมเสริมชุดลาดตระเวนเดินเท้าแนวชายฝั่ง - เกาะ
สรุปการช่วยเหลือผู้ประสบภัยจำนวน 105 นาย เบื้องต้นสามารถช่วยได้แล้ว จำนวน 76 นาย รักษาหายกลับบ้าน จำนวน 57 นาย รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล จำนวน 19 นาย เสียชีวิต 7 นาย โดยทวิตเตอร์ กองทัพเรือ ยืนยันว่า เรือหลวงบางระจัน พบร่างผู้สูญหาย 1 นาย จากเหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัยอับปาง บริเวณที่เรืออับปางซึ่งขณะนี้กำลังนำร่างมาที่ท่าเทียบเรือบางสะพานในเวลา 19.00 น. ปัจจุบันยังคงมีผู้สูญหาย 22 นาย
ทั้งนี้ พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ เข้ารับฟังการรายงานสถานการณ์การค้นหาและช่วยเหลือกำลังพลกองทัพเรือที่สูญหายจากเหตุการณ์ "เรือหลวงสุโขทัย" อับปาง พร้อมให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงาน ณ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือ กองบัญชาการกองทัพเรือ พระราชวังเดิม มี พลเรือเอก ชลธิศ นาวานุเคราะห์ เสนาธิการทหารเรือ และนายทหารระดับสูงของกองทัพเรือ รายงานสถานการณ์ และตอบข้อซักถาม
โอกาสนี้ ผบ.ทร. ได้กล่าวแก่กำลังพล ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือ และกำลังพลที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ต่าง ๆ ที่ร่วมประชุม ผ่านระบบ VTC ว่า กองทัพเรือจะให้การสนับสนุน การปฏิบัติภารกิจนี้อย่างเต็มที่ และซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม รับผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ให้อยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์ และพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ ขอให้กำลังพลมีกำลังกาย และกำลังใจในการทำงานต้องดูแลญาติพี่น้องของกำลังพล ที่ประสบภัยอย่างเต็มที่ ให้เร่งรัดการช่วยเหลือ เยียวยา และชดเชย
แม้ว่าการค้นหาจะมีความยากลำบาก พื้นที่ปฏิบัติการกว้าง จำเป็นต้องใช้กำลัง ทั้งจากกองทัพเรือ รวมถึงเหล่าทัพ และหน่วยงานต่าง ๆ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกภาคส่วน ร่วมแรงร่วมใจ เราจะทำวันนี้เพื่อพี่น้องของเรา ทำให้ญาติผู้สูญเสียให้ดีที่สุด โดยจะสนับสนุนกำลังของ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือ ในทุกพื้นที่ ทั้งทางบก และทางทะเล
ทั้งนี้ ผบ.ทร. ได้เน้นย้ำให้ทุกฝ่าย ดำเนินการค้นหาในทุกจุด ที่คาดว่าจะเจอผู้สูญหาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการเยียวยาจิตใจ ขอให้ได้ดำเนินการโดยเร็ว เพราะครอบครัวผู้สูญเสีย มีความทุกข์ใจ ขอให้ดูแลญาติพี่น้องของกำลังพล โดยคิดว่าเป็นญาติของตนเอง
ด้านพล.ร.อ.ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ ได้สรุปการปฏิบัติภารกิจการค้นหา และช่วยเหลือกำลังพลกองทัพเรือ จากเหตุการณ์ดังกล่าวว่า วนที่ 23 ธ.ค. 65 ว่า กองทัพเรือได้จัดกำลังทางเรือ ประกอบด้วย เรือหลวงตากสิน , เรือหลวงนเรศวร , เรือหลวงกระบุรี , เรือหลวงนราธิวาส เรือ ต.114 เรือ ต.270 เข้าร่วมการค้นหา
นอกจากนั้น ยังได้ส่งยานล่าทำลายใต้น้ำ และชุดถอดทำลายอมภัณฑ์ จากเรือหลวงบางระจัน เร่งทำการสำรวจเพื่อพิสูจน์ทราบ ในบริเวณที่เรือจม และมีรายงานว่าเมื่อเวลา 16.15 น. เรือหลวงบางระจันได้พบร่างมนุษย์ลอยน้ำบริเวณที่เรือหลวงสุโขทัยอับปาง เวลา 16.30 น. ได้นำร่างขึ้นเรือและเดินทางกลับเข้าท่าเรือบางสะพาน มีกำหนดถึงท่าเรือสะพาน ในเวลา 19.00 น. และจะนำร่างดำเนินการส่งพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลต่อไป
โฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า ได้รับรายงานจากการลาดตระเวน ของเรือและอากาศยานว่า ได้มีการตรวจพบคราบน้ำมันลอยขึ้น 3 จุด ดังนี้
ขณะนี้ กองทัพเรือ ได้จัดเรือและอากาศยาน ทำการลาดตระเวนและเฝ้าติดตามการเคลื่อนที่ของคราบน้ำมันอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมการในการขจัดคราบน้ำมันต่อไป
ทั้งนี้ ในปัจจุบันคลื่นลมในทะเลในพื้นที่อ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง เรือขนาดกลางและขนาดเล็กสามารถออกทะเลได้ในการนี้ กองทัพเรือได้ประสานกับเครือข่ายศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) ตำรวจน้ำ กรมเจ้าท่า กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
รวมถึงสมาชิกไทยอาสาป้องกันชาติในทะเล ตลอดจนทางจังหวัด เพื่อให้ประสานกับเครือข่ายเรือประมงในทะเล ตลอดจนหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนในพื้นที่ให้ช่วยกันค้นหาในพื้นที่ตามแนวชายฝั่งพร้อมทั้งลาดตระเวนทางเท้าในบริเวณชายหาดซึ่งในวันนี้ยังไม่พบผู้สูญหายเพิ่ม ในการนี้ กองทัพเรือ จะทำการปรับพื้นที่การค้นหาและช่วยเหลือ โดยเน้นในพื้นที่ 1-8 และ บริเวณชายฝั่ง ห่างจากจุดที่เรือสุโขทัยอับปางประมาณ 30 ไมล์ทะเล