นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BTSC) หรือ บีทีเอส เปิดเผยว่า โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง คาดว่าจะเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์และเก็บค่าโดยสารในเดือน มิ.ย.66 ซึ่งถือว่าเร็วกว่าแผนที่วางไว้
โดยจะเริ่มมีการทดสอบระบบการเดินรถเสมือนจริง แบบไม่มีผู้โดยสารในช่วง เม.ย.66 ซึ่งจะเป็นการทดสอบระบบเดินรถ ระบบอาณัติสัญญาณ และระบบความปลอดภัยทั้งหมด โดยจะมีพนักงานให้บริการเดินรถ พนักงานประจำสถานีเข้าปฎิบัติการเหมือนเปิดให้บริการจริง
สำหรับการทดสอบเดินรถเสมือนจริงจะมีที่ปรึกษาวิศวกรอิสระ เข้าตรวจสอบระบบความปลอดภัยตามมาตรฐาน หากผ่านก็จะให้การรับรอง จากนั้นจะสามารถเปิดให้มีผู้โดยสารเข้าใช้บริการได้ ซึ่งบริษัทคาดว่าจะเปิดให้ประชาชนทดลองใช้บริการฟรี 2 สัปดาห์ หรือในช่วงกลางเดือน พ.ค.66
ทั้งนี้ทางกระทรวงคมนาคม ได้เจรจาขอให้เพิ่มระยะเวลาให้ประชาชนทดลองใช้บริการฟรีเป็น 1 เดือน ซึ่งยังอยู่ระหว่างการพิจารณาความพร้อมร่วมกัน
ส่วนแผนการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย - มีนบุรี จะเป็นช่วงไตรมาส 3 ปีนี้ หรือประมาณเดือน ส.ค.66 โดยจะเริ่มทดสอบระบบเดินรถเสมือนจริงช่วง ก.ค.66 ก่อนเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์
แต่เนื่องจากสายสีชมพูยังมีปัญหาจุดขึ้น-ลง สถานีรถไฟฟ้า บนถนนแจ้งวัฒนะ มีพื้นที่ก่อสร้างทับซ้อนกับโครงการฟลัดเวย์ ของกรมทางหลวง ทำให้กระทบต่อการก่อสร้าง สถานีนพรัตน์ (PK26) สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี (PK0) สถานีศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ (PK12)
จึงต้องพิจารณาความพร้อมในการเปิดให้บริการตลอดสายหรือเปิดให้บริการบางส่วน โดยเป้าหมายของรถไฟฟ้าสายสีชมพู จะเปิดตลอดสายภายในปลายปี 66
ขณะที่สายสีชมพูส่วนต่อขยาย ช่วงสถานีศรีรัช-เมืองทองธานีนั้น จะก่อสร้างเสร็จปี 67 และพยายามเปิดให้บริการในปลายปี 67
สำหรับระบบจัดเก็บค่าโดยสารนั้น จะใช้ระบบบัตรแรบบิท ขณะที่ตามเงื่อนไขสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเหลือง และรถไฟฟ้าสายสีชมพู กำหนดให้มีระบบตั๋วร่วมกับรถไฟฟ้า MRT เพื่อเชื่อมต่อการเดินทางโดยคิดค่าแรกเข้าครั้งเดียว ซึ่งขณะนี้ได้ตกลงกับธนาคากรุงไทย (KTB) เรียบร้อยแล้ว เพื่อเร่งติดตั้งระบบรองรับบัตร EMV
"ช่วงแรกของรถไฟฟ้าสายสีเหลือง จะติดตั้งระบบ EMV 1 ช่องทางเข้าพิเศษก่อน จากนั้นระยะ 2 จะขยายไปทุกช่องทางเข้า ส่วนสีชมพู จะมีการติดตั้งรองรับบัตร EMV ครบทุกช่องทาง ให้ทันก่อนเปิดให้บริการ" นายสุรพงษ์ กล่าว
อย่างไรก็ตามหากภายในปีนี้ บริษัท อีสเทิร์น บางกอก โมโนเรล จำกัด (EBM) ผู้รับสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเหลือง และบริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอก โมโนเรล จำกัด (NBM) ผู้รับสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีชมพู สามารถเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง และสีชมพูได้ตามแผน
จะทำให้บริษัทฯ มีรายได้จากค่าโดยสารทั้ง 2 สาย รวมประมาณ 2,000 ล้านบาทต่อปี และมีรายได้ในส่วนที่รัฐจ่ายคืนเงินอุดหนุนค่าลงทุนงานโยธาตามสัญญาของทั้ง 2 สาย รวมประมาณ 4,700 ล้านบาท/ปี
ทั้งนี้ตามสัญญาสัมปทาน รัฐจ่ายคืนค่างานโยธาเป็นเวลา 10 งวด (ปี) นับจากจากเปิดให้บริการ โดยงวดแรกจะจ่ายหลังเปิดให้บริการ 45 วัน ซึ่งสัญญาสัมปทานสายสีชมพู รัฐอุดหนุนค่างานโยธา 19,975 ล้านบาท ส่วนสายสีเหลือง รัฐอุดหนุนค่างานโยธา 22,239 ล้านบาท