กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ฝาก เตือนภัยมิจฉาชีพ หลอกลวงประชาชนรูปแบบใหม่ให้ ทำภารกิจออนไลน์ หรือหลอกให้โอนเงิน เพื่อหารายได้จากการทำกิจกรรม ล่าสุดเป็นงานรีวิว "ทดสอบนอนโรงแรม" พอเหยื่อตายใจก็จะเข้าสู่รูปแบบคลาสสิคคือ หลอกให้โอนเงินเพิ่มเรื่อยๆ แล้วถอนคืนไม่ได้ ก่อนตัดช่องทางติดต่อหลบหนีไป
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษกบช.สอท.เปิดเผยวานนี้ (17 เม.ย.) ว่า ได้รับรายงานจากการตรวจสอบในระบบการรับแจ้งความออนไลน์พบว่า มีผู้เสียหายหลายรายที่ถูกมิจฉาชีพชักชวนหลอกลวงให้ทำงาน หรือทำภารกิจออนไลน์เพื่อหารายได้เสริม ผ่านการโฆษณาตามช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ โดยเฉพาะการชักชวนรับสมัครผู้ทดสอบการนอนโรงแรม ผ่านการโฆษณาเป็นคลิปวิดีโอสั้นใน Facebook, TikTok และ Instagram อ้างเป็นงานสบาย ได้ผลตอบแทนสูงกว่า 30,000 บาทต่อเดือน หรืออ้างว่าจะได้ค่าจ้างจากการนอนหลับจริงกว่า 2,000 บาทต่อคืน รวมถึงจะได้รับสวัสดิการ ค่าเดินทาง ค่าใช้จ่ายต่างๆ ฟรี
แต่เมื่อผู้เสียหายสนใจ มิจฉาชีพจะให้ทดสอบแสดงความเห็น หรือรีวิวโรงแรมต่างๆ ก่อนที่จะได้รับงานทดสอบการนอนที่โรงแรมจริง เพื่อประเมินว่าผู้เสียหายมีความสามารถเพียงพอหรือไม่ หากผู้เสียหายแสดงความเห็นเสร็จแล้ว จะได้รับเงินจริง 50 บาทต่องาน จากนั้น จะให้เข้ากลุ่มในแอปพลิเคชัน Telegram แจ้งว่ามีงานภารกิจเสริมให้ทำ คราวนี้หลอกลวงให้ลงทุนเทรดหุ้น อ้างว่าจะได้รับกำไรมากกว่านี้ กระทั่งผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินไปร่วมลงทุน โดยในครั้งแรกจะลงทุนด้วยจำนวนเงินที่ไม่มาก และได้รับกำไรจากการลงทุนกลับคืนมาจริง
แต่หลังจากนั้น มิจฉาชีพก็จะหลอกให้โอนเงินมาลงทุนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนไม่สามารถถอนเงินออกมาได้ อ้างเหตุผลต่างๆ ผู้เสียหายเชื่อว่าถูกหลอกลวง และได้รับความเสียหาย จึงมาแจ้งความผ่านระบบรับแจ้งความออนไลน์ให้ดำเนินคดีกับมิจฉาชีพตามกฎหมายต่อไป
พ.ต.อ.กฤษณะ ระบุว่า ตามนโยบายของรัฐบาล โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. ซึ่งรับผิดชอบงานในด้านการป้องกันปราบปราม ได้ให้ความสำคัญ และมีความห่วงใยต่อภัยการหลอกลวงประชาชนผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวงประชาชนให้ทำภารกิจ หรือทำงานออนไลน์เพื่อหารายได้เสริม
ทั้งนี้ ได้มีการกำชับไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งวางมาตรการในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดในโลกออนไลน์ทุกรูปแบบอย่างต่อเนื่อง และจริงจัง เพราะถือเป็นการซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชน
โปรดสังเกตรูปแบบการล่อลวง
โฆษก บช.สอท. กล่าวอีกว่า นอกจากการหลอกลวงในลักษณะดังกล่าวแล้ว ยังพบว่ามีหลอกลวงในลักษณะอื่นๆ ที่คล้ายกันอีก เช่น
7 ข้อแนะนำแนวทางป้องกันตนเอง
พร้อมกันนี้ ตำรวจได้ฝากเตือนถึงแนวทางการป้องกันตนเองจากการถูกหลอกลวงหารายได้จากการทำกิจกรรมผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ดังนี้