หมายจับ“ปูติน”ของศาลโลกแค่เสือกระดาษ“สีจิ้นผิง”เชิญเยือนปักกิ่งต.ค.นี้

13 ก.ค. 2566 | 09:40 น.
อัปเดตล่าสุด :13 ก.ค. 2566 | 09:44 น.

หมายจับ”ปูติน”ของศาลโลก กลายป็นเสือกระดาษ “สี จิ้นผิง”เชิญ “วลาดิมีร์ ปูติน’ เยือนกรุงปักกิ่งเดือนตุลาคม เพื่อสานสัมพันธ์สุดยอดความร่วมมือ1 แถบ 1 เส้นทาง

สำนักข่าว อาร์ทีนิวส์ รายงานว่า ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ได้ตอบรับคำเชิญของ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน สำหรับเดินทางเยือนกรุงปักกิ่งในเดือนตุลาคม 2566 เพื่อพูดคุยเรื่องความร่วมมือในด้านความมั่นคง การค้า การลงทุน วิทยาศาสตร์และนวัตกรรม การศึกษา วัฒนธรรม และการประสานงานด้านนโยบายต่างประเทศ

ถ้าข้อมูลเป็นจริงจะถือเป็นการเยือนแลกเปลี่ยนระหว่าง 2 ผู้นำของรัสเซียและจีน หลัง นายสี จิ้นผิง เดินทางเยือนกรุงมอสโกเมื่อเดือนมีนาคม 2566 แสดงถึงความสัมพันธ์ของ 2 ประเทศที่แน่นแฟ้น ท่ามกลางความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์เกี่ยวกับวิกฤตสงครามยูเครน-รัสเซีย จากกลุ่มประเทศตะวันตก 

ทั้งนี้ แผนการเดินทางเยือนปักกิ่งของ วลาดิมีร์ ปูติน ถูกเปิดเผยออกมาเมื่อวันจันทร์ที่ 10 ก.ค.2566 ในช่วงที่ นาย สี จิ้นผิง เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมร่วมกับ นายวาเลนตินา มัตวิเยนโก ประธานรัฐสภาสหพันธ์แห่งรัสเซีย โดย นายสี ได้บอกกับ นายมัตวิเยนโก ว่าเขากำลังเตรียมการสำหรับต้อนรับการมาเยือนกรุงปักกิ่งของนายปูติน ในเดือนตุลาคมนี้ โดยที่ นายปูติน จะเข้าร่วมในเวทีประชุมสุดยอดความร่วมมือระหว่างประเทศ “1 แถบ 1 เส้นทาง” ของจีน

ก่อนหน้านี้ นายสี ได้เชิญชวน นายปูติน เมื่อครั้งที่เดินทางเยือนกรุงมอสโกแบบรัฐพิธีในเดือนมีนาคม 2566 ซึ่งผู้นำของ 2 ประเทศลงนามในข้อตกลงซึ่งนำความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศเข้าสู่ยุคสมัยใหม่ของความร่วมมือระหว่างประเทศ ขณะที่ นายมัตวิเยนโก มีแผนเดินทางเยือนกรุงปักกิ่งในสัปดาห์นี้

จีน ยืนยันในความเป็นกลางในวิกฤตรัสเซีย-ยูเครน โดยไม่ร่วมมือกับสหรัฐฯ ที่พยายามกดดันให้เข้าร่วมมาตรการคว่ำบาตรของตะวันตกที่กำหนดเป็นแผนยุทธการเล่นงานรัสเซีย

ทั้งนี้ นายสี จิ้นผิง เสนอแผนสันติภาพ 12 ข้อ เพื่อยุติการสู้รบในยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2566 แต่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ได้ตีตกแผนดังกล่าว โดยบอกว่า เป็นประโยชน์เฉพาะกับรัสเซียฝ่ายเดียว

สำหรับนายปูติน ได้เดินทางเยือนจีน ครั้งสุดท้ายเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ก่อนที่ รัสเซีย จะเปิดปฏิบัติการด้านการทหารต่อประเทศยูเครน

ขณะที่ก่อนหน้านี้ นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ วิพากษ์วิจารณ์ นายสี จิ้นผิง สำหรับการพบปะกับ วลาดิมีร์ ปูติน ว่าเป็นการให้ที่กำบังทางการทูต หลังศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ได้ออกหมายจับ นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย โดย ICC กล่าวหาว่า มีส่วนรับผิดชอบต่ออาชญากรสงคราม ซึ่งรวมถึงการขนย้ายเด็กอย่างผิดกฎหมายจากยูเครนไปยังรัสเซีย ตามคำกล่าวหาก่ออาชญากรรมสงครามในยูเครน

ด้านสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ จะพบกับนายหวัง อี้ นักการทูตระดับสูงของจีน สมาชิกโปลิตบูโรของพรรคคอมมิวนิสต์จีน เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2566 ในระหว่างการประชุมสุดยอดของกลุ่มสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ณ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย หลังจากที่ทางการจีนแจ้งว่า นายฉิน กัง รัฐมนตรีต่างประเทศของจีน ไม่สามารถเข้าร่วมการประชุมได้ เนื่องจากมีปัญหาด้านสุขภาพ

ทั้งนี้ นายบลิงเกน ได้พบปะพูดคุยกับนายฉิน กัง และนายหวัง อี้ ที่กรุงปักกิ่ง เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นการเดินทางเยือนจีนครั้งแรกของรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐในรอบ 5 ปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประคับประคองความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และจีน รวมถึงเปิดช่องทางสื่อสารระหว่างกันให้มากขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิด จนกลายเป็นการเผชิญหน้าหรือความขัดแย้งกรณีไต้หวัน

ขณะเดียวกัน เมื่อวันที่ 7 ก.ค. 2566 นายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีน ให้การต้อนรับนางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ที่กรุงปักกิ่ง โดยกล่าวว่า การพัฒนาของจีนถือเป็นโอกาสมากกว่าที่จะเป็นการท้าทายต่อสหรัฐ และเป็นการได้ประโยชน์แทนที่จะเป็นความเสี่ยง จีนและสหรัฐต่างมีผลประโยชน์ร่วมกัน ซึ่งทั้งสองฝ่ายจะต้องให้ความเคารพซึ่งกันและกัน กระชับความร่วมมือเพื่อรับมือกับความท้าทายในระดับโลก

กระทรวงกลาโหมสหรัฐ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่12 กรกฎาคม 2566 เอกอัครราชทูตจีนประจำสหรัฐได้เข้าร่วมการประชุมกับเจ้าหน้าที่กลาโหมสหรัฐประจำภูมิภาคเอเชีย โดยการประชุมดังกล่าวมีขึ้นหลังสหรัฐวิพากษ์วิจารณ์จีนที่ไม่ยอมกลับมาติดต่อสื่อสารทางทหาร โดยนักวิเคราะห์มองว่า การประชุมเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการปูทางไปสู่การประชุมสุดยอดผู้นำระหว่างประธานาธิบดี โจ ไบเดน และประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ในช่วงปลายปีนี้