กรมอนามัย หนุน "เลี้ยงลูกด้วยนมแม่" แนะ ดูดเร็ว ดูดบ่อย กระตุ้นการสร้างน้ำนม

13 ส.ค. 2566 | 10:41 น.
อัพเดตล่าสุด :13 ส.ค. 2566 | 10:49 น.

กรมอนามัย สนับสนุน "เลี้ยงลูกด้วยนมแม่" พร้อมแนะนำ 3 เทคนิค ดูดเร็ว ดูดบ่อย ดูดถูกวิธี ช่วยกระตุ้นการสร้างน้ำนม และกินอาหารหลากหลายให้ครบ 5 หมู่ พร้อมเสริมผัก 5 ชนิด เพื่อทำให้น้ำนมมีคุณภาพ เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ลูกน้อย

ในโอกาสวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม และสัปดาห์นมแม่โลกระหว่างวันที่ 1-7 สิงหาคม กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ออกแคมเปญ สนับสนุนให้แม่สามารถ  "เลี้ยงลูกด้วยนมแม่" ได้ยาวนานตามความต้องการ

 

นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย สนับสนุน "เลี้ยงลูกด้วยนมแม่" ตั้งแต่แรกเกิดถึง 6 เดือน เพราะนมแม่เป็นอาหารที่เหมาะสมที่สุดสำหรับทารก ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรค ลดอัตราเสี่ยงของการเกิดโรคต่างๆ เช่น การติดเชื้อของระบบทางเดินอาหาร การติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจ ลดภาวะเสี่ยงต่อโรคภูมิแพ้ หอบหืด และหูอักเสบ อีกทั้ง ยังช่วยสร้างความอบอุ่น และสานสัมพันธ์ความรักระหว่างแม่กับลูกผ่านการโอบกอดระหว่างให้นมแม่

 

สำหรับการ "เลี้ยงลูกด้วยนมแม่" ยังมี 3 เทคนิคการดูดดังนี้

 

  1. ดูดเร็ว ให้ลูกดูดนมทันทีหลังคลอด ภายใน 1 ชั่วโมง
  2. ดูดบ่อย ให้ลูกดูดนมอย่างน้อยทุก 2-3 ชั่วโมง
  3. ดูดถูกวิธี  ในแต่ละครั้งควรให้ลูกดูดนมให้เกลี้ยงเต้า เพื่อช่วยกระตุ้นการสร้างน้ำนมของคุณแม่ให้เพิ่มขึ้น

 

การ "เลี้ยงลูกด้วยนมแม่" เนื่องจากแม่ที่ให้นมลูกต้องการพลังงานมากกว่าคนปกติ ถึง 500 กิโลแคลอรี ดังนั้น แม่จึงควรกินอาหารหลากหลายครบทุกหมู่ ในปริมาณที่เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย โดยอาหารที่มีส่วนช่วยเพิ่มน้ำนมให้กับแม่หลังคลอดบุตร คือ อาหารที่พบได้ในชีวิตประจำวันและกินกันโดยทั่วไปนั่นเอง ได้แก่ ผักต่าง ๆ ผลไม้ต่าง ๆ เนื้อสัตว์ ธัญพืช และผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากนม เพราะอุดมด้วยสารอาหาร อาทิ โฟเลต แคลเซียม ธาตุเหล็ก ทองแดง สังกะสี ที่จะช่วยฟื้นฟูสุขภาพคุณแม่หลังคลอด

 

นอกจากนี้ ควรรับประทานอาหารที่มีผัก 5 ชนิด คือ หัวปลี ขิง ใบกระเพรา ฟักทอง และกุยช่าย ซึ่งจะช่วยบำรุงกระดูกให้แข็งแรง และดีต่อระบบไหลเวียนโลหิต และยังมีส่วนช่วยในการบำรุงน้ำนม

ที่มา กรมอนามัย