จากการแถลงข่าว "เกาะติดสถานการณ์โรคและภัยสุขภาพที่เป็นปัญหา" กระทรวงสาธารณสุข พญ.จุไร วงศ์สวัสดิ์ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ ผู้ช่วยอธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ปะทะกันตรงข้ามฝั่งไทย อ.แม่สอด จ.ตาก ซึ่งทำให้มีชาวเมียนมาอพยพเข้ามาอยู่ในค่ายลี้ภัยจำนวนมากนั้น
พญ.จุไร นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ ผู้ช่วยอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในส่วนของระบบสาธารณสุขไทยนั้นมีการป้องกันและเฝ้าระวังโรคติดต่อในค่ายลี้ภัยอยู่แล้วเนื่องจากสภาพการอยู่อาศัยที่แออัด ระบบการจัดการน้ำทิ้ง การจัดการขยะ และสิ่งปฎิกูลที่อาจก่อให้เกิดโรคติดต่อได้
สำหรับโรคที่ต้องเฝ้าระวัง คือ 1.โรคติดต่อทางเดินอาหารและน้ำ อาเจียนท้องเสีย หน้าร้อนก็พบโรคติดต่อทางเดินอาหารและน้ำเพิ่มขึ้น 2.โรคติดต่อทางเดินหายใจ 3.โรคป้องกันได้ด้วยวัคซีนอาจระบาดขึ้นได้ และ 4.โรคติดต่อนำโดยแมลง
ทั้งนี้ จากข้อมูลช่วงวันที่ 20-21 เมษายนที่ผ่านมามีผู้รับบริการ 142 ราย จากผู้อพยพในค่าย จำนวน 906 ราย พบ ผู้ป่วยโรคอุจจาระร่วง 22 ราย ตาแดง 1 ราย โรคทั่วไป 116 ราย และทำแผล 3 ราย การประเมินการรับวัคซีน 30 ราย พบได้รับครบ 24 ราย การตรวจคัดกรองโรคมาลาเรีย 289 ราย พบเชื้อมาลาเรียชนิด PV จำนวน 1 รายเป็นเด็กชายอายุ 10 ปีได้รับการรักษาแล้ว
คำแนะนำในการป้องกันควบคุมโรคในค่ายลี้ภัยต้องบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมที่สะอาด ปลอดโปร่ง ไม่แออัด มีอากาศถ่ายเท จัดสถานที่ล้างมือด้วยสบู่ มีห้องสุขาและส้วมที่ถูกสุขลักษณะ จัดระบบเก็บขยะมูลฝอยถูกหลักสุขาภิบาล อาหารที่ทานต้องปรุงสุกใหม่ หากเก็บไว้ต้องนำมาอุ่นก่อนทาน ทั้งโรคไข้มาลาเรียและโรคเท้าช้างอาจพบไม่บ่อยในบ้านเรา แต่ต้องเฝ้าระวังตามชายแดน ซึ่งเรามีระบบเฝ้าระวังติดตามในพื้นที่อยู่แล้ว