60 จว.ทั่วไทยเฝ้าระวังพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง 8-10 พ.ค.นี้
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประสาน 60 จังหวัดทั่วไทย รวมกทม.ปริมณฑล เฝ้าระวัง"พายุฝนฟ้าคะนอง" - "ลมกระโชกแรง"วันที่ 8-1 พ.ค.67
จากสถานการณ์"พายฤดูร้อน"ที่ทำให้เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง รวมไปถึงลมกระโชกแรง บางพื้นที่มีลูกเห็บตก ฟ้าผ่า ล่าสุดกรมอุตุนิยมวิทยา ก็ได้คาดการณ์ว่าในช่วงวันที่ 8-10 พ.ค.67 ไทยตอนบนยังคงมีฝนฟ้าคะนองต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักบางแห่ง
ในส่วนของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ประสาน 60 จังหวัด ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และกรุงเทพมหานคร เพื่อเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์พายุฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง ในช่วงวันที่ 8 - 10 พฤษภาคม 2567
นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยงประกอบกับกรมอุตุนิยมวิทยาได้มีประกาศเตือนแจ้งว่า แนวพัดสอบของลมตะวันออกเฉียงใต้และลมใต้ยังคงพัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวม 60 จังหวัด รวมถึงกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะยังคงมีฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรงบางพื้นที่ โดยในช่วงวันที่ 8 - 10 พฤษภาคม 2567 มีพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์พายุฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง ดังนี้
- ภาคเหนือ ทุกจังหวัด
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทุกจังหวัด
- ภาคกลาง ทุกจังหวัด ยกเว้นจังหวัดเพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์
กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จึงได้ประสานแจ้ง 60 จังหวัดในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และกรุงเทพมหานคร รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัยให้เฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยในช่วงดังกล่าว โดยติดตามสภาพอากาศ และแนวโน้มสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้า อีกทั้งจัดเตรียมเครื่องมือเครื่องจักรกลสาธารณภัยและทีมปฏิบัติการเข้าประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมเผชิญเหตุและช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ทันที
ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนติดตามพยากรณ์อากาศและข้อมูลข่าวสารจาก ทางราชการอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยให้ปฏิบัติตามคำเตือนอย่างเคร่งครัด ตลอดจนตรวจสอบบ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างให้อยู่ในสภาพมั่นคงแข็งแรง หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้งใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณา หรือสิ่งปลูกสร้างที่ไม่มั่นคงแข็งแรง เพื่อป้องกันอันตรายจากการถูกล้มทับ รวมถึงระวังอันตรายจากฟ้าผ่า
สำหรับเกษตรกรให้จัดทำที่ค้ำยันต้นไม้หรือที่กำบัง เพื่อป้องกันพืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหาย สำหรับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ขอให้ติดตามข้อมูลสถานการณ์ และปฏิบัติตามประกาศแจ้งเตือนจากทางราชการอย่างเคร่งครัด และเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้
ทั้งนี้ประชาชนสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยที่แอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT” และหากได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM รวมถึงสายด่วนนิรภัย1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือต่อไป
อนึ่งกรมอุตุนิยมวิทยา ได้อัพเดตสถานการณ์พยากรณ์ฝนสะสมรายวัน ทุก 24 ชั่วโมง (วันที่ 7-16 พ.ค.67) อ้างอิงข้อมูลจากศูนย์พยากรณ์อากาศระยะกลางยุโรป (ECMWF) ระบุว่า ในช่วงวันที่ 7-13 พ.ค.67 การกระจายของฝน/ฝนฟ้าคะนอง จะเพิ่มขึ้นบริเวณประเทศไทย จากอิทธิพลแนวสอบของลมพัดปกคลุม ภาคเหนือ ภาคกลาง เนื่องจากอิทธิพลของมวลอากาศเย็นที่แผ่ลงมาปกคลุมจีนตอนใต้และเวียดนามตอนบน โดยกลุ่มฝนจะเคลื่อนตัวจากทางด้านตะวันออกไปตะวันตกในช่วงแรก ต้องระวังพายุฤดูร้อน ส่วนภาคใต้ ลมตะวันออกจะเริ่มพัดปกคลุมมีกำลังแรงขึ้น ทำให้มีฝนปานกลางถึงหนักบางพื้นที่ ยังต้องระวังพายุฝนฟ้าคะนอง และติดตามประกาศเตือนภัยจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด
ต่อมาในช่วงวันที่ 14-16 พ.ค.67 ทางด้านทะเลอันดามันเริ่มมีลมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุม ฝนยังมีต่อเนื่อง เป็นสัญญาณก่อนการเปลี่ยนฤดู อย่างไรก็ตามต้องดูเงื่อนไขอื่นๆ ประกอบในการประกาศเข้าสู่ฤดูฝน อนึ่งข้อมูลนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามข้อมูลนำเข้าใหม่ ภายใต้สถานการณ์ปรากฎการณ์เอลนีโญกำลังอ่อน ซึ่งทำให้สภาวะทางอุตุนิยมวิทยาเปลี่ยนแปลงไป ใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจ
