นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2567 โดยมีกำหนดจัดพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล ณ ท้องสนามหลวง พร้อมทั้งมีพิธีเจริญพระพุทธมนต์และทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน 173 รูป ถวายพระราชกุศล ในเวลา 07.00 น.
จากนั้น เวลา 08.00 น. จะมีพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน เวลา 17.30 น. พิธีถวายเครื่องราชสักการะและวางพานพุ่ม ส่วนในเวลา 19.19 น. จะมีพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล ซึ่งคาดว่า จะมีพสกนิกรชาวไทยร่วมงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นจำนวนมากนั้น
ทั้งนี้นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้มอบหมายให้ดำเนินการเตรียมความพร้อมของทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนที่จะเดินทางมาให้มีความสะดวก ปลอดภัยในทุกมิติ ได้แก่ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จัดเดินรถโดยสารเฉพาะกิจให้บริการฟรี (จอดรับ - ส่งทุกป้าย) จำนวน 10 กลุ่มเส้นทาง เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน ที่จะเข้าร่วมพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2567
สำหรับเส้นทางเดินรถโดยสารเฉพาะกิจให้บริการฟรี 10 กลุ่มเส้นทาง ประกอบด้วย เส้นทางอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ (ฝั่งเกาะพญาไท) - สนามหลวง, เส้นทางวงเวียนใหญ่ - สนามหลวง, เส้นทางสถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) - สนามหลวง, เส้นทางสายใต้ใหม่ - สนามหลวง, เส้นทางเอกมัย - สนามหลวง, เส้นทางหมอชิต 2 - กรุงเทพอภิวัฒน์ - สนามหลวง, สำนักงานเขต กทม. 50 เขต และโรงเรียน 23 แห่ง
วิ่งเป็นวงกลม ท่าเตียน - ท่าช้าง – สนามหลวง (เชื่อมรถไฟฟ้าสถานีสนามไชย) และคลองบางไผ่ - สนามหลวง นอกจากนี้ ขสมก. ได้จัดเจ้าหน้าที่สายตรวจพิเศษ และนายตรวจประจำจุด ณ จุดจอดรับ - ส่ง เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจร และดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนตลอดเส้นทางด้วย
นายสุรพงษ์ กล่าวต่อว่า ขณะที่กรมเจ้าท่า (จท.) พร้อมด้วยบริษัทเรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด ได้จัดบริการเรือโดยสารให้ประชาชนฟรี จำนวน 6 ท่าเรือ ระหว่างวันที่ 28 - 29 กรกฎาคม 2567 ในเส้นทางท่าเรือสาทร-ท่าเรือกรมเจ้าท่า-ท่าเรือราชินี-ท่าเรือท่าเตียน
โดยจะวิ่งเรือเป็นวงกลมโดยสารฟรี และจะให้บริการเรือข้ามฟากฟรี ในเส้นทางท่าเรือข้ามฟาก ท่าเรือวัดระฆังฯ – ท่าเรือท่าช้าง เพื่อเข้าชมเรือพระราชพิธี และการฝึกฝีพายขบวนพยุหยาตราทางชลมารค โดยเรือบริการรับ-ส่งฟรี ตั้งแต่เวลา 15.00 น. จนกว่าจะแล้วเสร็จ
นอกจากนี้ประชาชนที่เดินทางโดยรถไฟฟ้า ยังสามารถต่อเรือข้ามฟากฟรี แบ่งเป็น 3 สี ประกอบด้วย 1. รถไฟฟ้าสายสีเขียว จากสถานีสะพานตากสิน เชื่อมต่อ ท่าเรือสาทร ไปลงท่าเรือท่าเตียน
2. รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน จากสถานีหัวลำโพง เชื่อมต่อ ท่าเรือกรมเจ้าท่า ไปลงท่าเรือท่าเตียน 3. รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน จากสถานีสนามไชย เชื่อมต่อ ท่าเรือราชินี ไปลงท่าเรือท่าเตียน
ขณะที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้จัดพื้นที่จอดรถฟรี ณ สถานีรถไฟฟ้าสถานีคลองบางไผ่ เพื่อเชื่อมต่อการเดินทางโดยมีรถเมล์ ขสมก. ให้บริการฟรี เพื่อร่วมพระราชพิธีฯ ตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคม 2567 เวลา 14.00 น. เป็นต้นไป อีกทั้งสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ยังมีจัดพื้นที่จอดรถฟรี เพื่อเชื่อมต่อการเดินทางร่วมพระราชพิธีฯ ได้อย่างสะดวก
ด้านการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) รวมถึงบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM และบริษัท ทางด่วนกรุงเทพเหนือ จำกัด หรือ NECL จะยกเว้นค่าผ่านทาง 3 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร ทางพิเศษศรีรัช ทางพิเศษอุดรรัถยา เพื่ออำนวยความสะดวกการจราจร
ส่วนบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ได้จัดพื้นที่จอดรถฟรี สำหรับร่วมงานพระราชพิธีฯ ระหว่างวันที่ 27 – 28 กรกฎาคม 2567 จำนวน 4 แห่ง ได้แก่ สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (ปิ่นเกล้า) ,สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (ถนนบรมราชชนนี หรือสายใต้ใหม่)
สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (หมอชิต 2 ขาเข้า) ,สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (เอกมัย) ซึ่งจุดดังกล่าว มีรถ ขสมก. ให้บริการเชื่อมต่องานพระราชพิธีฯ ฟรีอีกด้วย
นายสุรพงษ์ กล่าวต่อว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ยังได้จัดเดินขบวนรถพิเศษโดยสารฟรี 3 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางอยุธยา-กรุงเทพ-อยุธยา ,เส้นทางนครปฐม-ธนบุรี-นครปฐม และ เส้นทางชุมทางฉะเชิงเทรา-กรุงเทพ-ชุมทางฉะเชิงเทรา เพื่อรับส่งประชาชนที่เดินทางมาร่วมงานกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2567 จำนวน 6 ขบวน ประกอบด้วย
เส้นทางที่ 1 ขบวน 320 เที่ยวไปรับสถานีต้นทางที่ สถานีอยุธยา ออกเวลา 13.35 น. มีสถานีปลายทางที่ กรุงเทพ (หัวลำโพง) ถึงเวลา 15.20 น. ขบวน 321 เที่ยวไปส่งสถานีต้นทางกรุงเทพ (หัวลำโพง) ออกเวลา 22.20 น. สถานีปลายทาง อยุธยา ถึงเวลา 24.00 น.
ขณะที่เส้นทางที่ 2 ขบวน 326 เที่ยวไปรับ สถานีต้นทางฉะเชิงเทรา ออกเวลา 13.40 น. ถึงสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) เวลา 15.00 น. ขบวน 325 เที่ยวไปส่ง จากสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) ออกเวลา 22.25 น. ถึงสถานีปลายทางฉะเชิงเทรา เวลา 23.45 น.
เส้นทางที่ 3 ขบวน 332 เที่ยวไปรับสถานีนครปฐม ออกเวลา 14.00 น. ถึงสถานีธนบุรีเวลา 15.00 น. ขบวน 333 เที่ยวไปส่งจากสถานีธนบุรี ออกเวลา 22.00 น. ถึงสถานีนครปฐม เวลา 23.00 น. ทั้งนี้ ประชาชนที่ประสงค์เดินทางสามารถนำบัตรประจำตัวประชาชนมารับตั๋วโดยสารที่สถานีรถไฟก่อนขึ้นขบวนรถ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น