กรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ประกาศว่า เงินอุดหนุนบุตร หรือ เงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด ประจำเดือนกันยายน 2567 จำนวน 600บาทต่อเดือน จะจ่ายให้กับพ่อแม่ผู้ปกครองที่ได้รับสิทธิในวันอังคารที่ 10 กันยายน 2567 โดยในเดือนนี้มีรายละเอียดของผู้ปกครองที่ได้รับสิทธิดังนี้
สำหรับผู้ปกครองที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนขอรับเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด และเด็กมีสัญชาติไทย พ่อ แม่ ผู้ปกครองสามารถยื่นคำร้องในพื้นที่ที่เด็กแรกเกิดและผู้ปกครองอาศัยอยู่จริง (ไม่จำเป็นต้องเป็นที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน) ดังนี้
สำหรับการลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน “เงินเด็ก” ทั้งนี้ผู้ปกครองต้องพิสูจน์และยืนยันตัวตนผ่าน แอปพลิเคชัน ThaiD ของกรมการปกครองก่อน (เมื่อตรวจสอบสิทธิผ่านแล้ว จะได้รับเงินมีผล ตั้งแต่เดือนที่ลงทะเบียนรับเงิน)
อนึ่งตามปกติในเดือนกันยายน 2567 จะเป็นเดือนสุดท้ายของปีงบประมาณ 2567 ซึ่งจะเกิดปัญหางบประมาณไม่พอจ่าย อย่างไรก็ดีข้อมูลล่าสุดจากครม. โดยนายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ว่า มติที่ประชุมครม.เห็นชอบจัดสรรงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ในรายการ “เงินอุดหนุนเฉพาะกิจ” วงเงิน 1,214 ล้านบาท
ทั้งนี้เพื่อเป็นเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิดถึงอายุ 6 ปี ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.)เสนอ โดยวงเงิน 1,214 ล้านบาท ดังกล่าวจะครอบคุลมการจ่ายเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิดถึงอายุ 6 ปี ในรอบเดือนกันยายนจำนวน 2.28 ล้านคน
ด้านนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เปิดเผยว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)วันนี้ ทางกระทรวงพม.ฯได้เสนอเรื่องเพื่อพิจารณาเกี่ยวกับโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด สำหรับเด็ก 0 - 6 ปี เดือนละ 600 บาท ซึ่งในช่วงท้ายของปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 โดยเฉพาะในเดือนกันยายนนี้เป็นเดือนสุดท้าย จะเป็นช่วงที่งบประมาณไม่พอ
ส่วนที่มีข้อสงสัยว่าทำไมสำนักงบประมาณถึงไม่ได้ให้งบประมาณมาอย่างเพียงพอนั้น เนื่องจากในแต่ละปีหรือแต่ละเดือนนั้นระดับจำนวนเด็กแรกเกิดจนถึงอายุ 6 ปี จะมีการแปรเปลี่ยนไปอยู่ตลอด โดยจะให้เงินอุดหนุนเด็กแรกเกิดจนถึงอายุ 6 ปี และพอเด็กอายุเกิน 6 ปี จะไม่มีสิทธิได้รับเงินแล้ว ดังนั้นตัวเลขจะเปลี่ยนทุกเดือน หรือแม้แต่อาจจะมีอัตราการเสียชีวิตบ้างที่เด็กยังอายุไม่ถึง 6 ปี ดังนั้นตัวเลขจะมีการอัพเดทกันทุกเดือนทำให้ทางสำนักงบประมาณนั้นไม่สามารถที่จะให้เงินงบประมาณมาพอดี ซึ่งในแต่ละปีก็จะให้งบประมาณหย่อนเอาไว้นิดหน่อยมาในช่วงสุดท้ายของปีงบประมาณนั้น
"ถือเป็นเรื่องปกติที่ทางกระทรวง พม. จะต้องสรุปตัวเลขล่าสุดเพื่อที่จะนำเสนอของบประมาณ ซึ่งในวันนี้เราได้ของบกลางตามที่กระทรวง พม. โดยกรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) ได้เสนอข้อมูลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว"