เพียงไม่กี่วัน พายุเฮอริเคน “มิลตัน” เป็นหนึ่งในพายุที่สร้างความตื่นตระหนกแก่ผู้เชี่ยวชาญด้านสภาพอากาศ เจ้าหน้าที่ และประชาชนชาวฟลอริดามากที่สุด เนื่องจากเพิ่งก่อตัวเป็นพายุโซนร้อนในวันที่ 5 ต.ค. เพียง 1 วัน กลับกลายเป็นพายุเฮอริเคนระดับ 5 ได้อย่างรวดเร็ว
ล่าสุดเฮอริเคน มิลตัน อ่อนกำลังลงมาเป็นพายุระดับ 3 เคลื่อนตัวขึ้นฝั่งที่เมืองซาราโซตา ทางตะวันตกเฉียงใต้ของรัฐฟลอริดา แล้ว ในคืนวันพุธที่ 9 ต.ค. 2567 ตามเวลาท้องถิ่น ขณะมีความเร็วลมสูงสุด 120 ม./ชม. (193 กม./ชม.)
มิลตันเป็นเฮอริเคนลูกที่ 5 ที่เคลื่อนตัวขึ้นฝั่งสหรัฐฯ ในปีนี้ ต่อจาก เฮอริเคนระดับ 1 เบริล และ เด็บบี, เฮอริเคนระดับ 2 ฟรานซีน และลูกล่าสุดคือ เฮอริเคนระดับ 4 เฮลีน ทำให้ปีนี้สหรัฐฯ มีพายุขึ้นฝั่งมากกว่าปี 2564-2566 รวมกัน
ความรุนแรงของพายุครั้งนี้เกิดจากน้ำทะเลในอ่าวเม็กซิโกที่อุ่นขึ้นผิดปกติ ซึ่งในปี 2567 มีอุณหภูมิเกือบแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ น้ำอุ่นจะทำให้เกิดพายุฝนฟ้าคะนองอย่างรวดเร็ว และลมอุ่นชื้นที่พัดขึ้นสูงทำให้พายุเฮอริเคนมีพลังงานทวีความรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว ความร้อนนี้มีบทบาทสำคัญในการเติบโตอย่างรวดเร็วของมิลตัน ทำให้พายุมีอันตรายมากขึ้น
มาตราวัดระดับพายุของ แซฟเฟอร์-ซิมป์สัน เป็นระบบการให้คะแนนตั้งแต่ 1 ถึง 5 โดยอิงตามความเร็วลมต่อเนื่องของพายุเฮอริเคน ซึ่งใช้ในการประมาณความเสียหายต่อทรัพย์สินที่อาจเกิดขึ้น
ต่อไปนี้เป็นข้อมูลสรุปโดยย่อเกี่ยวกับ ลักษณะของพายุเฮอริเคนแต่ละประเภท
ความรุนแรงของพายุ ระดับ 1
ความรุนแรงของพายุ ระดับ 2
ความรุนแรงของพายุ ระดับ 3
ความรุนแรงของพายุ ระดับ 4
ความรุนแรงของพายุ ระดับ 5
ทำไมไม่มีระดับ 6
ไม่มีพายุเฮอริเคนระดับ 6 เนื่องจากพายุระดับ 5 ถือเป็นเกณฑ์ที่ความเร็วลมเพิ่มเติมจะไม่เพิ่มโอกาสที่โครงสร้างพื้นฐานจะได้รับความเสียหายมากนัก เนื่องจากการทำลายล้างใกล้จะเกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์แล้ว
การศึกษาวิจัยที่ตีพิมพ์เมื่อต้นปีนี้ในวารสาร Proceedings of the National Academy of Sciences ระบุว่า ภาวะโลกร้อนกำลังทำให้พายุไซโคลนที่รุนแรงที่สุดบางลูกทวีความรุนแรงมากขึ้น
ผู้เขียนเสนอแนะว่าพายุระดับ 5 อาจประเมินอันตรายจากพายุเหล่านี้ต่ำเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออุณหภูมิของมหาสมุทรและบรรยากาศที่เพิ่มสูงขึ้นมีส่วนทำให้พายุมีความรุนแรงมากขึ้น
คณะผู้จัดทำผลการศึกษากล่าวกับ CBS News ในขณะนั้นว่า ทีมของเขาได้ทำการวัดพายุหลายลูกในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จัดอยู่ในกลุ่มพายุระดับ 6 ซึ่งรวมถึง "ไต้ฝุ่นไห่เยี่ยน" หนึ่งในพายุที่เลวร้ายที่สุดของเอเชีย ปี 2013 เป็นหนึ่งในพายุที่สร้างความเสียหายหนักสุดในฟิลิปปินส์ พัดด้วยความเร็วลมสูงสุด 1 นาทีที่ 315 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คร่าชีวิตผู้คนไปประมาณ 6,300 ราย
สร้างความเสียหายคิดเป็นเงิน 5,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่งผลกระทบต่อประชาชนกว่า 14 ล้านคนทั่วประเทศฟิลิปปินส์ และทำให้เมืองทาโกลบันของฟิลิปปินส์เสียหายถึง 90 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งหลังจากฟิลิปปินส์ พายุลูกดังกล่าวก็ยังเคลื่อนตัวไปสร้างความเสียหายต่อที่เวียดนามและจีนด้วย
อ้างอิงข้อมูล