“ศธ.”อาจเปิดเรียนใน10จังหวัด ที่ไม่เสี่ยงโควิด
“ณัฏฐพล” โพสต์ พิจารณาการเรียนแบบปกติ อาจ "เปิดเรียนใน 10 จังหวัดที่ไม่มีผู้ป่วย และ49 จังหวัดที่ไม่ระบาดในรอบ 28 วัน
วันที่ 16 พ.ค. 2563 นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้โพสต์ข้อความ ผ่านเฟซบุ๊ก Nataphol Teepsuwan - ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ โพสต์ข้อความว่า
“ดูแลครูให้ดีที่สุด เพื่อให้ครูดูแลนักเรียน”
โพสต์นี้ขออธิบายเพิ่มจากแถลงการณ์ครั้งที่สอง ถึงวัตถุประสงค์ของการลดประเมินและงดกิจกรรมที่ไม่จำเป็นครับ ในช่วงนี้ผมจะพยายามชี้แจงบ่อยขึ้น เพราะอยากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะคุณครู ผู้ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญในการช่วยดูแลอนาคตของชาติ ได้รับข่าวสารโดยตรง ครบทุกด้าน ป้องกันความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน เวลานี้ความร่วมมือของเราทุกคนสำคัญต่ออนาคตการศึกษาของประเทศครับ
ประเมินสถานการณ์จากตัวเลขที่ผู้ติดเชื้อต่ำกว่า 5 คนต่อวัน หรือ บางวันเป็นศูนย์เลยนั้น ผมขอชื่นชมบุคลากรทางการแพทย์ทุกคนที่ทำงานอย่างหนักจนเราถือว่า “ทีมไทยแลนด์ ชนะยกแรกแล้วครับ” สำหรับหน้าที่ของผมในฐานะผู้รับผิดชอบกระทรวงศึกษาธิการ ผม ทีมงาน และข้าราชการในกระทรวงทุกคน จะมุ่งมั่นพัฒนาระบบการเรียนการสอนที่เรากำลังจะก้าวเข้าสู่ยุค New Normal โดยต้องมั่นใจว่าทั้งการศึกษาและการสาธารณสุขในโรงเรียนต้องพัฒนาไปพร้อมกัน เพื่อป้องกันการระบาดรอบ 2 นี้ให้ได้
ส่งผลให้การจัดการเรียนการสอนที่โรงเรียน (On Site) อาจจะเกิดขึ้นได้ในพื้นที่เสี่ยงน้อย เช่น จังหวัดที่ไม่มีการติดเชื้อเลย 10 จังหวัด* และอีก 49 จังหวัดที่ไม่มีการแพร่ระบาดในรอบ 28 วันที่ผ่านมา* ทั้งนี้กระทรวงศึกษาธิการจะเข้าไปมีส่วนช่วยดูแลในทุกด้าน โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกลที่ไม่มีไฟ ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ไม่มีทีวี เพื่อ “สนับสนุนการเรียนการสอน ให้เกิดขึ้นในทุกพื้นที่อย่างเท่าเทียม”
แต่หากยังคงมีการติดเชื้อ ทำให้ไม่สามารถไปโรงเรียนได้ จะมีการจัดการเรียนการสอนแบบผสมผสานทั้ง On Air และ Online ซึ่งได้มีการเตรียมความพร้อมทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านระบบหรือด้านการจัดการเรียนการสอน โดยกระทรวงศึกษาธิการได้จัดอบรมพิเศษผ่านทางแพลตฟอร์มใหม่ให้กับครูทั่วประเทศ สำหรับในพื้นที่ที่ยังขาดความพร้อมกระทรวงศึกษาธิการจะพิจารณาให้การสนับสนุนเป็นกรณีไปตามความเหมาะสม
ผมได้มีโอกาสเห็นภาพการลงพื้นที่ของคุณครูหลายท่าน เห็นความใส่ใจของคุณครูต่อชีวิตความเป็นอยู่ของนักเรียน สำหรับผม นี่คือ “ครูต้นแบบ” ควรค่าแก่การยกย่องและเรียกได้ว่าเป็น ครู อย่างเต็มภาคภูมิ ขอขอบคุณทุกท่านจากใจครับ
ผมตระหนักดีว่าครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกคนทำงานหนักกว่าเดิม เหนื่อยกว่าเดิมและตั้งใจเต็มที่เพื่อเด็กทุกคน การตัดสินใจลดภาระหน้าที่บางอย่างของครูเพื่อให้ครูได้ใช้เวลาอย่างเต็มที่กับการเตรียมการสอนในสภาวะที่ไม่ปกติ ทั้งการประเมินโรงเรียน การสอบทั้งประเทศเพื่อวัดมาตรฐาน การแข่งขันชิงถ้วยรางวัลต่างๆ การจัดงานแข่งขันระหว่างโรงเรียน การจัดนิทรรศการที่มีอยู่เป็นประจำ ได้ประกาศงดทั้งสิ้น เพื่อให้ครูสามารถทุ่มเทเวลาไปกับการดูแลนักเรียน และประสานงานกับผู้ปกครอง เพื่อปรับเข้าสู่การเรียนการสอนในรูปแบบใหม่ ที่ครูอาจจะต้องออกไปเยี่ยมบ้านนักเรียนมากขึ้น ตรวจการบ้าน บันทึกคะแนนทดแทนการสอบที่อาจจะไม่สามารถจัดได้หากยังมีการระบาดเพิ่มขึ้น และที่สำคัญที่สุด ครูจะมีบทบาทสำคัญในการจัดสาระการเรียนรู้ให้ตรงกับความสามารถของเด็กที่แตกต่างกัน
สำหรับผม วิกฤตินี้คือโอกาสสำคัญ ที่เราทุกคนจะมาทำความเข้าใจร่วมกัน แนะนำกันอย่างสร้างสรรค์ สนับสนุนการทำงานของกันและกัน เพราะเราต่างก็มีเป้าหมายเดียวกัน เพราะอนาคตของเด็กไทย คือ อนาคตประเทศครับ