ปรับครม.ดัน‘บิ๊กป้อม’มท.1 เคาะ‘สุริยะ’คุมพลังงาน ‘อนุชา-สุชาติ-นฤมล’รมต.

ในการประชุมส.ส.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่มี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม รองหัวหน้าพรรค นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองหัวหน้าพรรค นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ นายอนุชา นาคาศัย  เลขาธิการพรรค เป็นประธาน เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2563  

 

ช่วงหนึ่งของการประชุม นายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร ได้เสนอให้มีการล่ารายชื่อเพื่อสนับสนุนให้ พล.อ.ประวิตร รองนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐมาเป็นรมว.มหาดไทย แทนพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ที่ไม่มีสัมพันธ์กับส.ส.ในพรรค โดยให้ พล.อ.ประวิตร มาคุมเลือกตั้งในทุกระดับ   

 

แต่ท้ายที่สุดที่ประชุมได้เลือกวิธีการพูดชื่อ พล.อ.ประวิตร ว่าเหมาะสมกับ รมว.มหาดไทย แทน ซึ่งได้รับเสียงปรบมือเกรียวกราวลั่นห้องประชุม ก่อนที่จะนำมติของส.ส.ที่สนับสนุนให้ พล.อ.ประวิตร นั่งรมว.มหาดไทย นำเข้าหารือในที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคเพื่อหาข้อสรุปต่อไป

 

อย่างไรก็ตาม สำหรับผลการประชุมส.ส.พรรคพลังประชารัฐนั้น มีรายงานว่า ที่ประชุมส.ส.พรรคมีมติเสนอชื่อผู้ที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรค เพื่อให้ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พิจารณาในการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้แก่ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เป็น รมว.พลังงาน นายอนุชา นาคาศัย รมว.อุตาหกรรม นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เป็นรมต.ประจำสำนักนายกฯ ขณะที่ตำแหน่งรมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) ทางพรรคไม่เสนอชื่อบุคคลใด

 

มติดังกล่าวได้เสนอเข้าสู่ที่ประชุมกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) เห็นชอบแล้ว

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโผครม.ของ “รัฐบาลประยุทธ์ 2/2” นั้น เบื้องต้นมีดังนี้ โควต้าของนายกฯ นายปรีดี ดาวฉาย จะเป็น รมว.คลัง นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร เป็นรมว.การอุดมศึกษาฯ และ นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เป็นรมว.กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส)

 

 

ส่วนโควต้าพลังประชารัฐ ประกอบด้วย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นรมว.พลังงาน นายอนุชา นาคาศัย รมว.อุตาหกรรม นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน นางนฤมล ภิญโญสิน วัฒน์ เป็นรมต.ประจำสำนักนายกฯ

 

 

ยันอำนาจอยู่ที่นายกฯ

ก่อนหน้านั้น ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ได้ขอความร่วมมือ ครม. ให้เข้าใจเรื่องการทำงานในสถานการณ์พิเศษ เพราะมีหลายอย่างที่เข้ามาในช่วงนี้  สิ่งสำคัญต้องรักษาเสถียรภาพของประเทศ ของรัฐบาลไว้ให้ได้ เพราะทุกคนคือประเทศไทย เข้าใจว่าทุกคนหวังดี ต้องการให้ประเทศไทยเดินไปข้างหน้า  

 

“ผมไม่ได้มีความขัดแย้งกับใคร ขอให้เป็นไปตามขั้นตอน แล้วดำเนินการให้เหมาะสมถูกต้องตามช่องทางที่มี จะเร่งปรับ ครม. ให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนตรวจสอบคุณสมบัติ หลังผู้ที่ถูกทาบทามตอบรับ จากนั้นจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ตามขั้นตอน ดังนั้น ขอให้สบายใจว่า จะทำให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้” นายกรัฐมนตรี ระบุ

 

นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า การปรับ ครม.ไม่มีความขัดแย้งและได้คุยกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐแล้ว ไม่มีโควตาของใคร ในฐานะนายกฯ จะจัดสรรให้เหมาะสมและขอบคุณพรรคพลังประชารัฐทุกคน ทุกคนมีสิทธิ์จะพูด แต่คนตัดสินใจคือตน จะต้องทำความเข้าใจซึ่งกันและกันและเห็นชอบร่วมกัน 

 

ส่วนที่มีชื่อ นายบรรสาน บุนนาค รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี อดีตเอกอัครราชทูตญี่ปุ่น จะมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นั้น นายกรัฐมนตรี ย้อนถามว่าใครเสนอ มีแต่พูดกันไปมา จำได้ว่านายบรรสาน เป็นรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี

 

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีมีส.ส. พรรคพลังประชารัฐบางกลุ่มประกาศสนับสนุนให้ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เป็น รมว.พลังงาน พล.อ.ประยุทธ์  กล่าวว่า ก็พูดกันไม่ใช่หรือว่านายกฯเป็นคนตัดสิน ได้ไม่ได้ไม่รู้ เพราะนายกฯ เป็นคนตัดสินใจ 

 

ส่วนนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกรัฐบาล จะมาเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี ถอนหายใจ พร้อมร้อง “เฮ้อ” และบอกว่า “เดี๋ยวก็รู้”

 

 

รปช.ยึดเก้าอี้แรงงานแน่น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังที่ประชุมส.ส.พรรคพลังประชารัฐ มีมติเสนอชื่อ นายสุชาติ ชมกลิ่น ส.ส. ชลบุรี ในฐานะประธานส.ส. เป็น รมว.แรงงาน โดยเก้าอี้รมว.แรงงาน เป็นโควตาของพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) นั้น

 

แหล่งข่าวจากพรรค รปช. เปิดเผยว่า ณ เวลานี้โควต้า รมว.แรงงาน ยังเป็นของพรรค รปช.เหมือนเดิม โดยทางพรรคได้ส่งชื่อ นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ ให้นายกรัฐมนตรีตรวจสอบคุณสมบัติแล้ว 

 

หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3,594 หน้า 12 วันที่ 23 - 25 กรกฎาคม 2563