วันนี้( 9 ต.ค.64) ดร. มานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ “ทำไมมีเรื่องร้องเรียนที่ ป.ป.ช.เยอะมาก” ระบุว่า
มีคำถามว่า “ทำไมจึงมีเรื่องร้องเรียนที่ ป.ป.ช. จำนวนมาก” และเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จากช่วงก่อนปี 2557 มีปีละสามพันกว่าคดี เพิ่มเป็นปีละ 8 - 9 พันคดีในปัจจุบัน ท่านประธาน ป.ป.ช. ก็ให้ข้อมูลว่า ในช่วงเวลาปีเศษของการระบาดโรคโควิด – 19 ยังมีเรื่องร้องเรียนมากถึง 15,283 กรณี
เหตุผลที่ระบุได้
ข้อ 3 เป็นเหตุผลเดียวที่น่าดีใจนอกนั้นล้วนน่าเศร้า แนวทางแก้ไขปัญหาเหล่านี้เขียนไว้ในแผนปฏิรูปฯ ด้านการต่อต้านคอร์รัปชันแล้ว เพียงแต่รอวันให้ผู้เกี่ยวข้องนำไปปฏิบัติ
มีข้อสังเกตว่า ในหลายประเทศที่ควบคุมคอร์รัปชันได้ดี เช่น ญี่ปุ่น สิงคโปร์ จะให้ความสำคัญมากกับการจัดการปัญหาโดยหน่วยงานภายในองค์กร และมีหลักประกันแก่ผู้ร้องเรียนว่าทุกกรณีจะถูกจัดการอย่างเหมาะสม ขณะที่บางประเทศอย่าง อินโดนีเซีย หน่วยงาน ป.ป.ช. ของเขาจะเลือกทำคดีเฉพาะเรื่องใหญ่ มีผลกระทบสูงหรืออยู่ในความสนใจของสังคมเท่านั้น
สำหรับประเทศไทย จำเป็นต้องพัฒนาระบบรับเรื่องร้องเรียนให้ดีกว่าปัจจุบัน เพื่อให้ทุกฝ่ายสบายใจ ติดตามเรื่องได้ง่าย รวดเร็ว เรื่องถูกคัดกรองและส่งไปหน่วยงานผู้รับผิดชอบทันที
ที่สำคัญกว่านั้นคือผู้เกี่ยวข้องต้องใส่ใจมากขึ้นกับการจัดการเรื่องร้องเรียนของ “บุคลากรในหน่วยงาน” รัฐและประชาชนที่ใช้บริการหรือ “อยู่ในพื้นที่” เช่น เทศบาลและจังหวัด เชื่อว่าจะส่งผลให้ คอร์รัปชันลดลงอย่างชัดเจน เพราะคนเหล่านี้อยู่ใกล้ชิดและรู้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ดีกว่าใคร
หมายเหตุ..
1.ขอบคุณข้อคิดเห็นดีๆ จากคุณประยงค์ ปรียาจิตต์และพลอากาศเอกวีรวิท คงศักดิ์
2. มาตรการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในระบบราชการ พ.ศ. 2563
3. วิษณุพงษ์ โพธิพิรุฬห์และคณะ “ราชการไทยไร้คอร์รัปชัน: การสำรวจความคิดเห็นของเจ้าหน้าที่รัฐต่อการแจ้งเบาะแสการทุจริต” 2563