วันนี้(17 พ.ย.64) นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี แสดงความเห็นกรณีนายปิยบุตร แสงกนกกุล นายพริษฐ์ วัชรสินธุ์ อภิปรายในรัฐสภา กล่าวหาโจมตีนายกฯประยุทธ์ ว่า เป็นไวรัสประยุทธ์ และผลักดันร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับ “ล้ม-โละ-เลิก-ล้าง”
นายเสกสกล กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คือ วัคซีนที่มารักษาโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง ที่ปล่อยให้การเมืองสามานย์กินบ้านโกงเมืองอยู่ก่อนหน้านี้ จะเห็นว่ามีคนโกงหนีคดี มีอดีตรัฐมนตรี ข้าราชการระดับสูงเข้าคุกคดีโกงไม่รู้กี่คนต่อกี่คน รวมถึงใช้อำนาจคณะรัฐประหารจ่ายเงินค่าข้าวชาวนาที่รัฐบาลนักเลือกตั้งชักดาบชาวนาทิ้งไว้ด้วย
"นายไอติมหลงคิดว่าตนเองวิเศษวิโส แกว่งปากหาเสี้ยน สอบตกในพื้นที่ กทม. ได้เข้าสภาก็เพราะวิ่งหาแสง อาศัยเรื่องแก้รัฐธรรมนูญเข้ามาแล้วประดิษฐ์วาทกรรมกร่าง หลอกนายกฯในสภา คิดว่าโก้ ถือดีว่าเป็นนักเรียนนอก แต่ไม่เคยมีประสบการณ์ทำงานประสบความสำเร็จอะไรเลย ปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม เหมือนกบในบ่อน้ำ เห็นแค่ปากบ่อ คิดว่านั่นคือแผ่นฟ้าทั้งหมดแล้ว น่าเวทนามาก”
นายเสกสกล ยังกล่าวถึงนายปิยบุตร ด้วยว่า ร่างที่เสนอมา อ้างว่าฉบับประชาชน แต่ใครยกร่าง ประชาชนไม่ได้มีส่วนร่วมแท้จริงหรอก เหมือนรัฐธรรมนูญฉบับใต้ตุ่มในประวัติศาสตร์การเมืองไทยนั่นเอง แต่คราวนี้เป็นใต้ตาตุ่มของนายปิยบุตร ผู้มีแนวคิดปฏิปักษ์กับสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างรุนแรง และหวังล้างแค้นศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ ทั้งที่ตนเองทำผิดรัฐธรรมนูญจริงๆ สู้คดีก็แพ้ ขอขนานนามว่า “ปิแยร์กิโยติน หลวงชำนาญกฎหมายพ่ายทุกคดี”
"ที่สำคัญ ร่างแก้ไขฉบับใต้ตาตุ่มปิยบุตร มุ่งรวบอำนาจให้นักการเมือง เหลือสภาเดียว ขนาดสหรัฐ อังกฤษ ก็มีสองสภาทั้งนั้น แบบนี้ส.ส.จะใหญ่คับบ้านคับเมือง เข้าไปก้าวก่ายแทรกแซงแม้กระทั่งอำนาจศาลยุติธรรม เท่ากับจะยกบ้านยกเมืองให้นักการเมือง สถาปนาระบอบทักษิณสายพันธ์ุใหม่ ร้ายแรงกว่าเก่า ไม่ต่างจากโควิดสายพันธ์ุใหม่ แถมลบล้างผลพวงรัฐประหาร นักการเมืองโกงที่ได้ผลร้ายได้อานิสงส์ ทะลุฝาโลง ลุกขึ้นมาจากหลุม สร้างความปั่นป่วนวุ่นวาย การนำเสนอเช่นนี้เหมือนแบ่งงานกันทำกับขบวนการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขนั่นเอง”
นายเสกสกล ย้ำว่า พล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันว่า สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ต้องคงอยู่คู่กับไทยตลอดไป หยุดสร้างเงื่อนไข สร้างความวุ่นวายในบ้านเมืองได้แล้ว รัฐบาล รัฐสภา และประชาชน ควรมีหมุดหมายร่วมกันทำประโยชน์เพื่อพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ ไม่ใช่ไปรับใช้วาระส่วนตัวในการทำลายล้างของใครบางคน
“อ้างว่ารัฐสภาต้องฟังเสียงประชาชน ก็ขอเรียกร้องให้คนกลุ่มนี้เห็นหัวประชาชน 16 ล้านเสียง ที่ลงประชามติผ่านรัฐธรรมนูญ 2560 บ้าง บทบาท ส.ว.ตามคำถามพ่วงก็เหลืออีกแค่ราว 2 ปีเท่านั้น ชื่อ ปิยบุตร อย่าเป็นทรพีแผ่นดินเกิด ถ้าไม่หยุด ยังคิดก่อการปลุกปั่นสุมไฟป่วนเมือง ก็อยากให้ตระหนักบ้างว่า ประชามติ 16 ล้าน มาจากเสียงประชาชนอย่าดูหมิ่นดูแคลนเสียงประชาชนเด็ดขาด" นายเสกสกล กล่าว