วันนี้(7 ธ.ค.64) ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด สโมสรตำรวจ ชาวบ้านเครือข่าย “จะนะรักษ์ถิ่น” 37 ราย แบ่งเป็นผู้ชาย 6 ราย และผู้หญิง 31 ราย ที่ถูกคุมตัวหลังเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนเข้าสลายการชุมนุมในช่วงเวลา 22.00 น. ของคืนที่ผ่านมา ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว โดยมีนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล พร้อมด้วย นางสาว ส.รัตนมณี พลกล้า ทนายความ และ นพ.ทศพร เสรีรักษ์ และประชาชนจากเครือข่ายสลัมสี่ภาคที่เดินทางมาสังเกตการณ์ให้กำลังใจ
นายสมบูรณ์ คำแหง ตัวแทนเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น กล่าวว่า ที่เดินทางเข้ามาปักหลักชุมนุมบริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลทำตามบันทึกข้อตกลงผลการเจรจาการแก้ไขปัญหาระหว่างกลุ่มจะนะรักษ์ถิ่นกับผู้แทนรัฐบาล ที่มีการทำข้อตกลงไว้เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2563 ซึ่งข้อตกลงเป็นแนวทางการแก้ไขปัญหาโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ ซึ่งเป็นโครงการที่ต้องใช้พื้นที่เกือบสามตำบลในอำเภอจะนะ แต่รัฐกลับใช้กลไกการดำเนินงานผ่าน ศ.อบต.เสมือนเป็นการข่มขู่คุกคามชาวบ้าน
“การที่ชาวบ้านออกมาในครั้งนี้ ก็ไม่มีใครอยากมีปัญหากับอำนาจรัฐ แต่การออกมาเพื่อทวงถามคำสัญญาที่รัฐได้ให้ไว้เมื่อ 1 ที่แล้ว ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นการเรียกร้องที่ชอบธรรม แม้ว่ารัฐจะมีเงื่อนไขห้ามกลับไปชุมนุมอีกครั้ง แต่ชาวบ้านจะนะยืนยันว่าจะยังไม่กลับบ้าน หลังจากนี้จะขอใช้เวลาหารือกันและจะประกาศท่าทีอีกครั้ง วันนี้ข้อเรียกร้องยังไม่บรรลุและจะอยู่จนกว่าข้อเรียกร้องที่ยื่นไปจะได้รับการยอมรับ” นายสมบูรณ์ ระบุ
ด้าน นางสาว ส.รัตนมณี พลกล้า ทนายความ กล่าวว่า จากเดิมที่มีการแจ้งข้อหากับผู้ชุมนุมเพียงหนึ่งข้อหาคือ ผิดพ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่ต่อมากลับมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมคือ ฝ่าฝืนผิดพ.ร.บ.จราจร และฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ ลักษณะการเพิ่มข้อหาเช่นนี้ มองว่าไม่เป็นธรรมกับชาวบ้าน
“ตรงนี้ชาวบ้านได้ให้การปฏิเสธทั้งหมด และขอให้การเป็นลายลักษณ์อักษรภายใน 20 วัน ครบตามกำหนดในวันที่ 27 ธ.ค.นี้ แต่พนักงานสอบสวนกลับนัดให้มาพบภายในวันที่ 20 ธ.ค.โดยแจ้งว่ากลัวจะส่งสำนวนให้พนักงานอัยการและจะส่งฟ้องไม่ทัน หากเป็นเช่นนั้นจริงมองว่าคดีนี้เป็นการล็อคไว้แล้วว่าจะมีการสั่งฟ้อง”
นางสาว ส.รัตนมณี กล่าวด้วยว่า เชื่อว่ากระบวนการยุติธรรมจะมีขั้นตอนการตรวจสอบจากพนักงานอัยการที่มีหน้าที่ต้องกลั่นกรองจากพนักงานสอบสวน ซึ่งทีมทนายได้เตรียมตัวเต็มที่ในการต่อสู้คดีและจะยื่นคำร้องขอความเป็นธรรมตั้งแต่ชั้นตำรวจ เนื่องจากไม่ได้มีการดำเนินการเพียงแค่สน.ดุสิตเท่านั้น แต่ยังมีคณะกรรมการตำรวจที่จะตรวจสอบได้ แต่หากต้องส่งฟ้องไปยังชั้นอัยการก็จะยื่นเพื่อให้ได้รับความเป็นธรรม
ส่วนหากรัฐบาลจะมีการเปิดโต๊ะเจรจาชาวบ้านก็พร้อมที่จะเจรจา แต่การเจรจาในรูปแบบดำเนินคดีกับชาวบ้านใช้ข้ออ้างเช่นนี้มาเจรจาต่อรองชาวบ้านก็ไม่ยอมรับเพราะมีบทเรียนมาหลายครั้งแล้ว
ต่อมา นายสมบูรณ์ คำแหง ตัวแทนเครือข่าย “จะนะรักษ์ถิ่น” ได้เปิดเผยความเคลื่อนไหวล่าสุดว่า หลังจากถูกปล่อยตัวแล้ว คืนนี้คงจะต้องมีการหารือกันอีกครัั้งว่าจะมีการเคลื่อนไหวอย่างไรต่อไป โดยคืนนี้ชาวบ้านทั้งหมดจะเดินทางไปพักผ่อนที่บ้านพรรคพวกที่อยู่ในกรุงเทพฯ ก่อน เป็นการพักเพื่อเก็บแรงก่อน เพราะแต่ละคนอ่อนเพลียกันมากแทบจะไม่ได้นอนกันเลย
“เป็นไปได้ที่จะกลับไปทำเนียบอีกครั้ง โดยจะต้องมีการหารือกันก่อนที่จะประกาศอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ ส่วนเรื่องความกังวลนั้นไม่มีความกังวล แต่เรามีความเสี่ยง เราถูกเงื่อนไขการปล่อยตัวห้ามไปชุมนุมต่อ เราพร้อมที่จะท้าทายเพราะข้อตกลงของกลุ่มเรายังไม่บรรลุ เราต้องอยู่สู้ ขอให้รอประกาศเป็นทางการอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ “ นายสมบูรณ์ ระบุ