ศ.ดร.กนก วงษ์ตระหง่าน รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวภายหลังรับทราบผลการตรวจสอบงบการเงินของ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ที่ทางสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. รายงานต่อสภาผู้แทนราษฎร พบว่า สตง.ยังไม่ได้วางแนวทางการประเมินที่ตรงกับยุทธศาสตร์หน้าที่ของ กสทช. เนื่องจากผลการปฏิบัติงานของ กสทช.อาจยังไม่ตอบโจทย์หน้าที่ที่พึงทำทั้งหมด
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรักษาผลประโยชน์ประเทศด้านความมั่นคงและผลประโยชน์ของประชาชนด้านบริการ ที่สะดวก และรวดเร็วมากขึ้น ขณะที่เทคโนโลยีสื่อสารเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เข้าสู่ 5 จี วีอาร์ เมตาเวิร์ส ต้องใช้เทคโนโลยีดาวเทียมต่ำ หรือระยะสั้น ส่วนดาวเทียมระยะไกล ซึ่งเป็นเทคโนโลยีในอดีตนั้น กำลังค่อย ๆ ลดบทบาทลง
ดังนั้น เพื่อความมั่นคงของชาติ เทคโนโลยีระยะใกล้นี้ ยังไม่มีความชัดเจนว่า กสทช.จะวางตำแหน่งของไทยไว้ตรงไหน ถ้าไม่ชัดเจนประเทศจะอยู่ในความมืด มองไม่เห็นว่าสุดท้าย 5 จีจะเป็นอย่างไร สิ่งเหล่านี้ สตง.ต้องตั้งคำถามเพื่อให้ กสทช.ตอบ เพราะจะกระทบกับการทำงานของ กสทช.โดยตรงต่ออนาคตของกสทช. เช่น สัมปทานดาวเทียมระยะไกล ระยะใกล้ จะทำอย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด มีการแข่งขันมากขึ้น ไม่ใช่การผูกขาด สิ่งเหล่านี้สำคัญกว่าการปฏิบัติถูกต้องตามระเบียบ กติกา
รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวด้วยว่า อยากให้ สตง.กลับไปทบทวนด้วยความกล้าหาญที่จะชี้ประเด็นว่า สตง.ไม่ทำแค่ตรวจสอบทำถูกต้องตามระเบียบหรือไม่ แต่ต้องตรวจสอบเชิงยุทธศาสตร์ของหน่วยงานรัฐ ทำงานได้ตรงตามเป้าหมาย และภารกิจของตัวเอง เพื่อผลประโยชน์ชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้วหรือไม่ ซึ่งจะทำเช่นนั้นได้ สตง.ต้องมีงบประมาณ จ้างผู้รู้ทางเทคนิคเป็นที่ปรึกษา มากกว่าการมีแค่นักบัญชีเท่านั้น
ดังนั้น สตง.ต้องพูดกับสำนักงบประมาณให้จัดงบประมาณที่เพียงพอ เพื่อสอดรับกับภาระงานที่ควรเปลี่ยนแปลงไป ขอให้สตง.พูดกับรัฐบาลตรง ๆ ว่า นอกจากตรวจสอบบัญชี งบการเงินแล้ว ยังมีการทำงานที่บรรลุผล เท่าทันกับความเปลี่ยนแปลงรวมอยู่ด้วย