"ธาริต" หมดทางสู้! ศาลรธน. ชี้ปมร้องภาระพิสูจน์ทรัพย์สิน คดีร่ำรวยผิดปกติ

02 ก.พ. 2565 | 09:42 น.
อัปเดตล่าสุด :02 ก.พ. 2565 | 16:57 น.

"ธาริต" หมดทางสู้ ศาลรัฐธรรมนูญ ชี้ปมร้องภาระพิสูจน์ทรัพย์สินคดีร่ำรวยผิดปกติ ตามพ.ร.บ.ป.ป.ช.ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ

วันที่ 2 ก.พ.65 ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์วินิจฉัยว่าพ.ร.ป ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตพ.ศ 2542 มาตรา 81 วรรคสองที่บัญญัติว่า ในคดีที่ร้องขอให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินให้ผู้ถูกกล่าวหามีภาระการพิสูจน์ที่ต้องแสดงให้ศาลเห็นว่าทรัพย์สินดังกล่าวไม่ได้เกิดจากการร่ำรวยผิดปกติไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 25 มาตรา 26 และมาตรา 27 วรรคหนึ่งและวรรคสาม

 

ทั้งนี้คำวินิจฉัยดังกล่าวสืบเนื่องมาจาก ศาลอุทธรณ์ส่งคำโต้แย้งของนายธาริต เพ็งดิษฐ์ ผู้คัดค้านที่ 1 และ นางวรรษมล เพ็งดิษฐ์ ผู้คัดค้านที่ 5 ในคดีแพ่งหมายเลขดำที่ ปช.1/2559 และคดีหมายเลขแดงที่ ปช. 1/2561ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามมาตรา 212 ว่า พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 81 วรรคสองขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 25 มาตรา 26 และมาตรา 27 หรือไม่
 

นายธาริต เพ็งดิษฐ์

นายธาริตถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ชี้มูลความผิดฐานร่ำรวยผิดปกติเนื่องจากมีพฤติกรรมให้ผู้อื่นถือทรัพย์สินแทนกว่า 346 ล้านบาทและป.ป.ช.อย่างชี้มูลความผิดกรณีจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ ขณะดำรงตำแหน่งอธิบดีดีเอสไอ ซึ่งตามพ.ร.บ.ป.ป.ช.มาตรา81กำหนดให้อัยการสูงสุด หรือประธานป.ป.ช. ดำเนินการยื่นคำร้องเพื่อขอให้ศาลสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน ตามมาตรา 80 ภายใน 90 วันนับแต่วันที่ได้รับเรื่องจากคณะกรรมการป.ป.ชและภาระการพิสูจน์ทรัพย์สินให้เป็นหน้าที่ของผู้ถูกกล่าวหาที่ต้องแสดงให้ศาลเห็นว่าทรัพย์สินดังกล่าวมิได้เกิดจากการร่ำรวยผิดปกติ

หลังศาลคำสั่งให้ทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นผิดปกติของนายธาริต และ นางวรรษมล จำนวน 49 รายการ รวมมูลค่า 341,797,811.58 บาท พร้อมดอกผลของทรัพย์สินดังกล่าวตกเป็นของแผ่นดิน