ครูลงทะเบียนแก้หนี้ วันละ 2 พันคน "ตรีนุช"นัดถกแนวทางแก้ปัญหา

23 ก.พ. 2565 | 08:13 น.
อัปเดตล่าสุด :23 ก.พ. 2565 | 17:01 น.

รมว.ศึกษาธิการ นัดประชุมกรรมการฯแก้ไขหนี้สินครูฯ 3 มี.ค.นี้ แจงแนวทางขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาหนี้สิน หลังครูและบุคลากรทางการศึกษาลงทะเบียนแก้หนี้ 16,701 ราย เฉลี่ยวันละประมาณ 2,000 ราย

 วันที่ 23 ก.พ.2565   นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา ว่า ได้รับทราบรายงานถึงจำนวนครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ได้ลงทะเบียนเข้าร่วมจนถึงปัจจุบัน มีจำนวน 16,701 ราย โดยเฉลี่ยมีผู้เข้าร่วมวันละประมาณ 2,000 ราย โดยการเปิดรับการลงทะเบียนยังคงมีต่อเนื่องจนถึงวันที่ 15 มีนาคมนี้ ทั้งนี้ หากมีครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ไม่สามารถลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ในเขตพื้นที่การศึกษาเพื่ออำนวยความสะดวกในการลงทะเบียนได้


 
นางสาวตรีนุช กล่าวว่า ในวันที่ 3 มีนาคม 2565 นี้ จะมีการประชุมกับผู้เกี่ยวข้องที่ได้รับการแต่งตั้งในคณะกรรมการแก้ไขหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษาระดับเขตพื้นที่การศึกษา และระดับจังหวัด (สถานีแก้หนี้) เพื่อชี้แจงถึงแนวทางในการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาหนี้สินครั้งนี้ 

รวมถึงการชี้แจงถึงข้อปฏิบัติในการตัดยอดหนี้ การทำหน้าที่เป็นคนกลางในการเจรจาไกล่เกลี่ยหนี้ การเชื่อมต่อระบบฐานข้อมูลกับบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร) รวมถึงการให้ความรู้เพื่อสร้างระเบียบวินัยทางการเงิน
  นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

“โครงการแก้หนี้สินครั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี ที่กำหนดให้ปีนี้ เป็นปีแห่งการไขหนี้สินภาคครัวเรือน ศธ.มีความตั้งใจอย่างที่สุดที่จะยกระดับความเป็นอยู่ของครูให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยเฉพาะครูควรมีรายได้เหลือไม่น้อยกว่า 30 เปอร์เซนต์ของเงินเดือนหลังการหักชำระหนี้แล้ว เพื่อมีไว้ใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ครูจะได้ลดข้อกังวลถึงปัญหาในการดำเนินชีวิต และทุ่มเทให้กับการเรียนการสอน เพื่อสร้างคุณภาพทางการศึกษา” นางสาวตรีนุชกล่าว 

ขณะเดียวกัน จะมีตัวอย่างรูปธรรมของการปรับโครงสร้างหนี้ครูในหลายกรณี ทั้งการขยายงวดการชำระหนี้ การขอปรับลดค่าธรรมเนียม รวมถึงข้อเจรจาอื่นๆ ที่ส่งผลให้ครูลดภาระการชำระหนี้ต่อเดือนได้ลดลง และสามารถมีเงินในกระเป๋าเพื่อไว้ใช้จ่ายได้เพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ ยังมิได้นับรวมเงินที่เพิ่มขึ้นจากการลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ครูทุกคนได้รับ