"บิ๊กตู่"ปรบมือต้อนรับ "ชัชชาติ" ก่อนร่วมประชุม ศบค.ที่ทำเนียบ

17 มิ.ย. 2565 | 03:20 น.
อัปเดตล่าสุด :17 มิ.ย. 2565 | 10:49 น.

"บิ๊กตู่"ปรบมือต้อนรับ "ชัชชาติ"เดินทางเข้าทำเนียบครั้งแรก หลังรับตำแหน่งผู้ว่าฯกทม. ปิดห้องหารือนายกฯ 20 นาที ก่อนร่วมประชุม ศบค. ที่ทำเนียบ

วันที่ 17 มิ.ย. 65 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ โดยมี นายชัชชาติ​ สิทธิ​พันธุ์​ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร​ และนายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา เข้าร่วมเป็นครั้งแรกหลังเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ


ทั้งนี้ ก่อนการประชุม ศบค. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ได้นำ นายชัชชาติ พร้อมด้วย นายปรเมศวร์ เข้าพบนายกรัฐมนตรี ที่ห้องสีเหลือง ตึกสันติไมตรี หลังรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการโดยมีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมด้วย ทั้งนี้ใช้เวลาหารือ 20 นาที
 

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้อนรับนายชัชชาติ​ สิทธิ​พันธุ์​ ผู้ว่าฯกทม. ก่อนประชุม ศบค.

สำหรับบรรยากาศในการพูดคุยเป็นไปอย่างเป็นกันเอง ทั้งในส่วนของนายกฯ นายชัชชาติ และพล.อ.อนุพงษ์ ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันก่อนที่นายกฯจะเชิญทุกคนเข้าห้องประชุมศบค. ยกเว้นนายวิษณุ ที่มีภารกิจข้างนอก

 

โดยทันทีเข้าห้องประชุมศบค. พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวต้อนรับนายชัชชาติและนายปรเมศวร์ ซึ่งทั้ง2คนได้ลุกขึ้นสวัสดีทุกคนในห้อง ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ยังนำปรบมือต้อนรับอย่างเป็นทางการ

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการประชุมในครั้งนี้ จะมีการประเมินสถานการณ์รอบ 10 วัน และสถานการณ์ภาพรวมที่ผ่านมา โดยจัดทำข้อเสนอให้กระทรวงสาธารณสุขพิจารณามาเป็นลำดับ ควบคู่กับนโยบายด้านการป้องกันการแพร่ระบาดที่กระทรวงสาธารณะสุขดำเนินการ​

 

โดยที่ประชุมจะมีการพิจารณาปรับให้มีการผ่อนคลายให้ประชาชนได้ใช้ชีวิตและประกอบอาชีพได้ใกล้เคียงภาวะปกติให้มากที่สุดอย่างปลอดภัยภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค และมีแผนด้านสาธารณะสุขรองรับในทุกพื้นที่ เช่น​ การปรับพื้นที่สถานการณ์ให้เป็นพื้นที่ตามมาตรการสีเขียว (มาตรการเฝ้าระวัง) ให้มากที่สุด
 

\"บิ๊กตู่\"ปรบมือต้อนรับ \"ชัชชาติ\"  ก่อนร่วมประชุม ศบค.ที่ทำเนียบ

ขณะที่การผ่อนคลายการเปิดกิจการและสถานบริการกลางคืนที่มีความเสี่ยงให้ดำเนินการได้ใกล้เคียงกับภาวะปกติให้มากที่สุดอย่างปลอดภัย เพื่อให้ประชาชนที่เป็นห่วงโซ่การประกอบอาชีพด้านนี้ได้มีงานทำและมีรายได้ เรื่องการสวมหน้ากากได้พิจารณาเสนอให้มีการผ่อนคลายให้ไม่ต้องสวมหน้ากากในสถานที่หรือกิจกรรมบางประเภทได้โดยสมัครใจภายใต้ข้อแนะนำด้านสาธารณะสุขอย่างค่อยเป็นค่อยไป และเป็นขั้นเป็นตอน เพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับส่วนรวมด้วย

 

นอกจากนี้​ จะเสนอให้มีการปรับมาตรการเข้าออกประเทศที่เกี่ยวข้องกับระบบ Thailand Pass ให้มีความสะดวกมากยิ่งขึ้นให้สอดคล้องกับผลการประเมินที่พบว่ามีความเสี่ยงต่ำมาก และเอื้อต่อการจูงใจนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจต่างชาติที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวและทำธุรกิจในประเทศไทยด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการค้าขายตามแนวชายแดนทั้งที่เป็นจุดผ่านแดนถาวร หรือจุดผ่อนปรนทางการค้าตามแนวชายแดน รวมทั้งการท่องเที่ยวผ่านเรือสำราญขนาดเล็กและขนาดใหญ่ด้วย

 

ขณะที่​กระทรวงสาธารณะสุข จะเสนอแผนการบริหารจัดการวัคซีนและมาตรการรณรงค์ให้ ปชช.ได้รับวัคซีนได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น เพื่อให้มีความปลอดภัยและไม่เจ็บป่วยรุนแรงเมื่อได้รับเชื้อ

 

โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงแต่ละประเภทต่าง ๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลเป็นห่วงมากที่สุด​ โดยในการดำเนินการทุกอย่างต้องให้มีความสอดคล้องกับการประเมินสถานการณ์ในปัจจุบันในทุกมิติ รวมทั้งแผนการเปลี่ยนผ่านสู่ระยะ Post-Pandemic หรือ โรคประจำถิ่น​ ซึ่งต้องมีการหารือในที่ประชุม