นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ชี้แจงกรณีของนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส. กทม. พรรคก้าวไกล อภิปรายไม่ไว้วางใจเกี่ยวกับโครงการของการเคหะแห่งชาติ เพิ่มเติมหลังจากขอเวลาไปรวบรวมข้อมูลมาเพิ่มเติม โดยใช้เวลาชี้แจงนานกว่าครึ่งชั่วโมง
นายจุติ ระบุตอนหนึ่งถึงกรณีการถูกกล่าวหาว่ามีการตั้งนักปั่นหุ้นมาเป็นกรรมการการเคหะฯ โดยชี้แจงว่า เรื่องนี้เป็นการกล่าวหาที่ไม่เป็นธรรม และเป็นการกล่าวหาเท็จ ส่วนการกล่าวหาว่าแอบอ้างสถาบันเพื่อดำเนินโครงการนั้น ก็ไม่เป็นความจริงเช่นกัน
ขณะที่การกล่าวหาว่ามีการบีบบังคับอดีตผู้ว่าฯ การเคหะฯ ออกเพราะไม่สนองนโยบาย ขอชี้แจงว่า ไม่ได้บีบให้ลาออก แต่ตามจดหมายลาออกของผู้ว่าฯ ระบุว่ามีปัญหาสุขภาพ และผู้ว่าฯคนใหม่ที่เข้ามา ก็เป็นข้อกล่าวหาเท็จ เพราะไม่ใช่การตั้งคนเข้ามาเพื่ออวยโครงการสร้างบ้านให้คนมีรายได้น้อยเช่าทั่วประเทศ
ส่วนกรณีโครงการเคหะสุขประชา ซึ่งถูกอภิปรายว่าจะคืนทุนอีก 200 ปีนั้น เรื่องนี้ก็ได้รับการยืนยันจากผู้ว่าฯการเคหะฯ ว่า กรณีนี้ไม่เป็นความจริง และถึงมีก็ไม่ผ่านการพิจารณาจากสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)
“อยากให้มาทำงานร่วมกัน พวกท่านตรวจสอบผมก็พร้อมให้ตรวจสอบ แต่ไม่พร้อมให้เอกชนใช้สภาเป็นที่บิดเบือนเพื่อประโชน์ทางธุรกิจ วันนี้มีเอกชนลักลอบมาเป็นที่ปรึกษา และนักวิชาการในกรรมาธิการบางคณะ และใช้กรรมาธิการหาประโยชน์ โดยอยากจะเชิญสมาชิกไปลุยด้วยกัน”
นายจุติ กล่าวว่า ในเรื่องเกี่ยวข้องกับเอกชนนั้น รัฐบาลกำลังจะรับคืนอาคารเช่าเหมาจากภาคเอกชน เพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ซึ่งที่ผ่านมาการเคหะฯ ได้ให้บริษัทเช่าเหมาไป 3 หมื่นห้อง และคิดราคา 920 บาท แต่กลับไปปล่อยประชาชนกู้มาจ่ายค่าเช่าบ้าน 2,500 – 3,400 บาท เป็นการทำผิดเงื่อนไข และก็ทำมานานกว่า 17 ปี
“การทำแบบนี้เป็นการหากินกับโครงการ หรือเป็นการจับเสือมือเปล่า แถมยังมีส่วนต่างเป็นกำไร 9,180 ล้านบาท ตอนนี้รัฐบาลกำลังจะเอามาคืนให้ชาวบ้านที่ไม่มีรายได้ฝนช่วงเศรษฐกิจแบบนี้ จึงอยากถามว่า พวกผมผิดตรงไหนที่ทำแบบนี้ และวันนี้ก็ฟ้องไปแล้ว 36 คดี และขอมาฟ้องสภาด้วย เพราะส่วนใหญ่หมดสัญญาแล้วก็ไม่ยอมออก ฟ้องไล่ก็ไม่ไป ค่าเช่าไม่จ่ายไม่จ่าย เก็บเงินจากชาวบ้านแล้วก็ไม่จ่ายการเคหะอีก เป็นไปได้ยังไงบ้านเมืองขณะนี้”