“สุวัจน์”เล็งบุกระยองเปิดผู้สมัครส.ส. ชูเชื่อมอีสเทิร์นซีบอร์ดกับโคราช

วันนี้(5 ส.ค.65) ที่ศูนย์การค้าเดอะมอลล์ อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนา อดีตรองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 อ.เมืองเขตเทศบาลนครนครราชสีมา ของพรรค, นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา ประธานสำนักงานใหญ่พรรคชาติพัฒนา และ นายวัชรพล โตมรศักดิ์ ส.ส.นครราชสีมา พรรคชาติพัฒนา ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 อ.เมือง ของพรรค นำว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค เขต 3 อ.สูงเนิน นายสมบัติ กาญจนวัฒนา และนายไกรฤกษ์ เสียนขุนทด อดีต ส.อบจ.นครราชสีมา เขตอำเภอด่านขุนทด ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค ในพื้นที่อำเภอด่านขุนทด 

ร่วมงานมหกรรมการเงิน Money Expo Korat 2022 พบปะกับผู้บริหารสถาบันการเงิน ธนาคาร ในการให้ความสำคัญและการสร้างความสัมพันธ์ที่ดี และการรับรู้รับทราบในด้านเศรษฐกิจ การลงทุน การเข้าถึงสถาบันการเงิน เพื่อประโยชน์กับผู้ประกอบการ พ่อค้า แม่ค้า พี่น้องประชาชนในท้องถิ่นในเขตพื้นที่การดูแลพี่น้องประชาชน

นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพรรคชาติพัฒนาปักธงเปิดสาขาพรรคชาติพัฒนาที่ อ.แถลง จ.ระยอง จะคัมแบ๊กทั้งที่โคราช และ จ.ระยอง หรือไม่ว่า เราก็มองว่าจ.ระยอง เป็นจังหวัดที่ดี ที่มีพื้นฐานที่ดีทางด้านเศรษฐกิจ เป็นทั้งจังหวัดลงทุน จังหวัดทางด้านอุตสาหกรรม จังหวัดทางด้านการท่องเที่ยว และเคยมีโครงการพัฒนาชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก อีสเทิร์นซีบอร์ด ที่ทำให้เขตพื้นที่ จ.ระยอง และหลายจังหวัดในย่านนั้น เป็นเขตที่มีการผลิตทางด้านอุตสาหกรรม ทางด้านการลงทุน มีการสร้างจีดีพีให้กับประเทศไทยอย่างมหาศาล 

ตอนนั้นอดีตหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ก็มีส่วนสำคัญในการสร้างความสำเร็จให้เกิดขึ้นกับโครงการอีสเทิร์นซีบอร์ด แล้ววันนี้เราก็มีการต่อยอดโครงการดังกล่าวเป็นโครงการอีอีซี ซึ่งจะเน้นอุตสาหกรรมสมัยใหม่ 

ฉะนั้น พรรคชาติพัฒนา เคยมีฐานอยู่แล้ว ถ้าเกิดต่อยอดของฐานให้เหมาะสมกับสถานการณ์เศรษฐกิจ สถานการณ์เทคโนโลยี ก็จะเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนภาคตะวันนอกทั้งหมด พรรคชาติพัฒนาก็เลยอยากที่จะเสนอตัวเข้าไปรับใช้ เพราะเราเข้าใจพื้นฐานของการพัฒนามาแต่อดีตอยู่แล้ว 

“ก็เลยคิดว่าในการเลือกตั้งครั้งนี้ ถ้าสามารถที่จะสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชน แล้วผู้สมัครของเราได้รับเลือกตั้ง ก็จะเป็นโอกาสที่ทำให้เราสามารถเข้าไปทำงานที่อีสเทิร์นซีบอร์ดเก่า ซึ่งตอนนี้เป็นอีอีซี ไปทำเรื่องด้านท่องเที่ยว ไปทำเรื่องผลไม้ เรื่องการเกษตร เรื่องอาหาร โดยเฉพาะวันนี้สถานการณ์ของโลกท่ามกลางวิกฤตก็มีโอกาส เรื่องอาหาร เรื่องตลาดผลไม้ เรื่องการท่องเที่ยว ถือว่าเป็นพื้นฐานของประเทศไทย และจาก จ.ระยองก็มีพื้นฐานทางด้านนี้อยู่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการท่องเที่ยว เรื่องผลไม้ เรื่องทุเรียน เรื่องอาหารต่างๆ”

                                  
ฉะนั้น ก็อยากที่จะได้เข้าไปช่วยคน จ.ระยอง เอาศักยภาพ เอาวัตถุดิบ เอาธรรมชาติที่เขามีอยู่ มาสร้างชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ตนก็จะไปเปิดที่ทำการพรรคชาติพัฒนา และจะเปิดตัวผู้สมัครของพรรค ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ จบวิศวกรรม ม.ธรรมศาสตร์ และจะได้พูดถึงประวัติต่างๆ ของผู้สมัครของพรรค เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบว่า เรามีความปรารถนาดีที่อยากจะไปช่วยทำงานให้กับพี่น้องประชาชนชาว จ.ระยอง” 

ส่วนเป็นการคัมแบ๊กทั้งที่โคราชและที่จ.ระยองนั้น ที่จ.ระยอง ในอดีตเคยมีอยู่แล้วก็อยากที่จะมี และเชื่อมโยงอีสเทิร์นซีบอร์ดกับโคราชได้ดีที่สุดเลย

“จำได้ไหมสมัย พล.อ.ชาติชาย ท่านบอกว่า อีสานไม่มีทางออกทางทะเล ท่านก็ตัดถนนปักธงชัย-กบินทร์บุรี ถนน 304 เปิดประตูอีสานสู่ท่าเรือน้ำลึกที่ จ.ระยอง ฉะนั้นถ้าเราสามารถที่จะมีตัวแทนของเราอยู่ได้ทั้งที่ จ.ระยองด้วย และที่ภาคอีสานด้วย ก็จะเป็นการเชื่อมโยงการทำงานในสภา หรือทำงานทางด้านบริหารให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศ”

ส่วนเรื่องสูตรคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ หาร 500 หาร 100 นั้น นายสุวัจน์ กล่าวว่า เรื่องนี้ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกลไกของสภา กลไกของรัฐธรรมนูญ เรื่องกติกาตนอยากเห็นกติกาทุกอย่างเป็นกติกาที่ทุกฝ่ายอมรับและเป็นกติกาที่เป็นธรรม ไม่มีใครได้เปรียบ ไม่มีใครเสียเปรียบ 

“ถ้าเราเริ่มต้นทุกอย่างในบ้านเมืองด้วยกติกาที่เป็นธรรมกับทุกฝ่ายและทุกฝ่ายให้การยอมรับ บ้านเมืองก็จะเรียบร้อย การเลือกตั้งก็เหมือนกันเราจะต้องเริ่มต้นด้วยกติกาการเลือกตั้งที่เป็นธรรม โปร่งใส แต่ว่าเราไม่ควรที่จะทำให้เกิดบรรยากาศอะไรที่ทำให้รู้สึกว่า ไม่ค่อยมีความแน่นอน หรือเป็นบรรยากาศที่มีความรู้สึกว่าคนนั้นได้เปรียบ คนนี้เสียเปรียบ”

นายสุวัจน์ กล่าวด้วยว่า เรากำลังจะมีการเลือกตั้ง มั่นใจว่าเมื่อมีการเลือกตั้งแล้ว ตนจะอาสาเข้าไปทำงานให้บ้านเมืองแล้วก็ทำให้พี่น้องประชาชนมีตัวเลือกมากมาย คิดว่าเป็นเรื่องที่ดีที่ทุกคนเปิดตัว มีการจัดตั้งพรรคใหม่ๆ สิ่งหนึ่งที่คิดว่าจะดีที่สุดเลยก็คือ 2 เรื่อง คือ

1.พรรคการเมืองก็จะต้องมีนโยบายที่ตรงกับปัญหาของประเทศ อย่างวันนี้พี่น้องประชาชนเดือดร้อนเรื่องเศรษฐกิจ ตนคิดว่านโยบายเรื่องเศรษฐกิจเป็นเรื่องที่มีความสำคัญและยังเป็นปัจจัยชี้ขาดในเรื่องของชัยชนะของการเลือกตั้ง 

และ 2.เรื่องบุคลากรที่จะนำเสนอก็เป็นสิ่งที่มีความสำคัญ ถ้าเกิดพรรคการเมืองมีองค์ประกอบทั้งสองด้าน ทั้งนโยบายทั้งตัวบุคลากรที่ประชาชนให้การยอมรับจะประสบความสำเร็จกับการเลือกตั้งครั้งนี้