นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.รับไต่สวนข้อกล่าวหา เกรียงไกร ชูศิลป์กุล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลกำแพงแสน อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม โดยคณะกรรมการ ตั้งเป็นคดีหมายเลขดำที่ 17-2-096/2560 คดีหมายเลขแดงที่ 263-2-5/2560
โดยพฤติการณ์ผู้ถูกกล่าวหา คือ ในการจัดซื้อวัสดุเครื่องแต่งกายพนักงานดับเพลิง โดยทุจริตมีราคาสูงเกินความเป็นจริง แบ่งซื้อแบ่งจ้าง และเรียกรับเงินจากผู้ขายอีกด้วย
มติคณะกรรมการ ป.ป.ช. ครั้งที่ 904-75/2560 วันที่ 28 ก.ย. 2560 ชี้มูลผู้ถูกกล่าวหา มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149, 151 และมาตรา 157 ส่งอัยการสูงสุด
เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ระบุว่า ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติชอบภาค 7 คดีหมายเลขดำที่ อท 53/2563 คดีหมายเลขแดงที่ อท 76/2564 วันที่ 29 กันยายน 2563 ว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 รวม 2 กระทง จำคุก กระทงละ 5 ปี จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 ปี 6 เดือน รวมจำคุก 4 ปี 12 เดือน ข้อหา อื่นนอกจากนี้ให้ยก
ฝ่ายจำเลย ยื่นอุทธรณ์ ต่อมาศาลอุทธรณ์ พิพากษา เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2564 เป็นคดีหมายเลขดำที่ อท 246/2564 คดีหมายเลขแดงที่ 10723/2564 พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น
นายนิวัติไชย เปิดเผยว่า มติคณะกรรมการป.ป.ช.ครั้งที่ 150/2564 วันที่ 12 ต.ค. 2564 พิจารณาแล้ว มีมติเห็นชอบในการที่อัยการสูงสุด จะไม่ฎีกา คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ฯ คดีนี้จึงเป็นที่สุด