8 พฤศจิกายน 2565 นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบความคืบหน้าโครงการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมราชทัณฑ์ซึ่งเป็นนโยบายที่รัฐบาลให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาผู้ต้องขังล้นเรือนจำและสอดคล้องกับการพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ
โดย กระทรวงอุตสาหกรรมรายงานว่า การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(กนอ.)ได้เชิญชวนให้เอกชนเสนอพื้นที่เพื่อจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่เป้าหมาย 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสมุทรสาคร สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง ในรูปแบบร่วมดำเนินงานกับ กนอ. ซึ่งมีภาคเอกชน 1 ราย เสนอโครงการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมทรัพย์สาคร พื้นที่ประมาณ 4,131 ไร่ ในท้องที่ต.กาหลง อ.เมือง จ.สมุทรสาคร
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบความเหมาะสมในการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมทรัพย์สาครของกระทรวงอุตสาหกรรม พบว่า พื้นที่ตั้งโครงการฯอยู่ในเขตผังเมืองรวมจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งถูกกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินเป็นที่ดินประเภทชนบทและเกษตรกรรมหรือเขตสีเขียว และที่ดินประเภทอนุรักษ์ชนบทและเกษตรกรรมหรือเขตสีขาวมีกรอบและเส้นทแยงสีเขียว
กนอ.จึงให้บริษัทเอกชนดำเนินการขอแก้ไขการใช้ประโยชน์ที่ดินให้สอดคล้องกับการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมและประกอบอุตสาหกรรม
ขณะเดียวกันกระทรวงอุตสาหกรรมได้ขอให้สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดสมุทรสาครพิจารณากำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินประเภทอุตสาหกรรมและคลังสินค้าหรือเขตสีม่วง เพื่อกระทรวงอุตสาหกรรมจะได้ดำเนินการตามขั้นตอนการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมต่อไป ซึ่งสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดสมุทรสาครได้แจ้งว่า ได้แจ้งให้เทศบาลนครสมุทรสาครดำเนินการ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการวางและจัดทำผังเมืองรวมเมืองสมุทรสาคร (ปรับปรุงครั้งที่ 3)
อย่างไรก็ตาม กระทรวงอุตสาหกรรมได้ขอให้สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดสมุทรสาครเร่งการพิจารณาการกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินดังกล่าวโดยด่วนเนื่องจากได้มีการเตรียมความพร้อมของโครงการตามหลักเกณฑ์การจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมและได้ว่าจ้างที่ปรึกษาเพื่อจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม(EIA)แล้ว ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมได้จัดส่งข้อมูลเพื่อประกอบการดำเนินการและจัดทำผังเมืองรวมให้เทศบาลนครสมุทรสาครแล้ว ประกอบด้วย
1.ข้อมูลการศึกษารายละเอียดของโครงการนิคมอุตสาหกรรมทรัพย์สาคร
2.ข้อมูลการกำหนดกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายในเบื้องต้น โดยเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพเป็นปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในกลุ่มอุตสาหกรรมเดิมและกลุ่มอุตสาหกรรมใหม่ (New S-Curve) ได้แก่
3.ข้อมูลการออกแบบผังแม่บทและระบบสาธารณูปโภค