เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2565 เวลา 18.00 น. นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิด “งานลอยกระทงย้อนยุค ประจำปี 2565” จัดโดยเทศบาลนครราชสีมา โดยมี นายเทวัญ ลิปตพัลลภ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายประเสริฐ บุญชัยสุข นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร สมาชิกสภาเทศบาล ที่ปรึกษา และเจ้าหน้าที่ร่วมงานประเพณีลอยกระทง ณ บริเวณคูเมือง ลานอเนกประสงค์ด้านข้าง Tk Square korat อ.เมือง จ.นครราชสีมา
นายสุวัจน์ กล่าวว่า งานประเพณีลอยกระทงย้อนยุค ที่ทางเทศบาลนครนครราชสีมา ได้จัดขึ้นในวันนี้ได้เห็นความร่วมมือจากทุกหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนให้ความสำคัญในการรักษาขนบธรรมเนียมประเพณี ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง ประเพณีลอยกระทงนั้น มีมาช้านานตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย กรุงศรีอยุธยามาจนกระทั่งปัจจุบัน
“เราเชื่อกันว่าประเพณีลอยกระทง คือ การขอขมาพระแม่คงคา คือสายน้ำศักดิ์สิทธิ์ เราได้ใช้หรือว่าได้ทำให้สายน้ำสกปรกบ้างตามรูปแบบการใช้ชีวิต ฉะนั้น ลอยกระทงถือว่าเป็นพิธีขอขมาแม่น้ำสายต่างๆ และยังถือว่าได้นำทุกข์โศกลอยออกจากตัว แล้วเราก็จะมีโชคลาภ มีความสุขเข้ามาในชีวิต”
ที่สำคัญเป็นการรักษาคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของชาติบ้านเมืองเอาไว้ ประเพณี วัฒนธรรม เป็นเรื่องที่สำคัญ ถ้าเกิดประเทศไหนมีวัฒนธรรม มีประเพณี แล้วเรารักษาสิ่งนั้นเอาไว้ ถือว่าเป็นพื้นฐานของการสร้างความรักความสามัคคี
อย่างที่ประชาชนมาร่วมงานลอยกระทงในวันนี้ จะรู้สึกผูกพันกับประเพณี ผูกพันกับเมืองโคราช จากสถานที่จัดงานมองไปทางซ้ายมือก็คูเมืองอันศักดิ์สิทธิ์ สร้างตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช วันนี้ อายุ 300 กว่าปี มองมาทางขวามือ ก็เป็นวัดพายัพ ถือว่าเป็นวัดเก่าแก่เป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชน
“ฉะนั้น เมืองโคราชถือว่าเป็นเมืองที่ผสมผสานกันระหว่างความเก่ากับความใหม่ ความหมายก็คือ เรากำลังจะมีรถไฟความเร็วสูง เรากำลังจะมีมอเตอร์เวย์ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง อันนี้เป็นของใหม่เป็นเทคโนโลยีใหม่ เรามีศูนย์การค้าที่ทันสมัย
ฉะนั้น บ้านเมืองโคราชเป็นบ้านเมืองที่มีความพิเศษเฉพาะตัว มีทั้งของใหม่ที่ทันสมัยและมีของเก่าประเพณีแห่งความภาคภูมิใจ ดังนั้น บ้านเมืองใดที่มีของใหม่ด้วยและรักษาของเก่าด้วย บ้านเมืองนั้นจะมีความสมบูรณ์และเป็นพื้นฐานที่ทำให้คนในบ้านเมืองมีความสุขและมีความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ”
นายสุวัจน์ กล่าวด้วย่วา วันนี้ การรักษาวัฒนธรรมประเพณีเก่าๆ ไว้เราเรียกว่า เป็นพลังที่อ่อนโยน หรือ Soft Power ของใหม่ๆ ก็คือ Strong Power อย่างพวกรถไฟ ทางด่วน เป็นอำนาจของโครงสร้างพื้นฐานใหม่ๆ ที่จะมาสร้างความเจริญ แต่ว่า Soft Power ก็เป็นพลังอ่อนโยนเป็นพลังของวัฒนธรรมเป็นพลังของประเพณี
ฉะนั้น เราต้องผสมผสาน สองพลัง ก็คือ รักษาของเก่า แล้วก็เพิ่มพูนของใหม่ๆ ขึ้นมา ดังนั้น การที่พวกเราได้ร่วมกันจัดงานก็คือ การรักษาพลังของเก่า รักษา Soft Power ของบ้านเมืองโคราชเอาไว้นี่คือ ความได้เปรียบของเรา
นายสุวัจน์ กล่าวว่า การจัดงานย้อนยุคตั้งแต่การแต่งกาย ขบวนแห่กระทง กระทงย้อนยุค ลำวงย้อนยุค การทำขนมอาหารโคราชย้อนยุคสิ่งต่างๆ เป็นสิ่งที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์มีคุณค่าทางใจ แล้วทำให้คนโคราชรักกัน คนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกัน
ดังนั้น ต้องขอขอบคุณนายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา ท่านประเสริฐ บุญชัยสุข ที่ได้จัดกิจกรรมดีๆ เพื่อคนโคราชตลอดมา อาทิเช่น การจัดงานของดีเมืองโคราชต่างๆ นำวงโยธวาทิตมาเล่น นำนักร้อง นักดนตรี นำเพลงโคราช “กำปั่น บ้านแทน” มาแสดง สิ่งต่างๆ นี้ คือ “การอวดของดีเมืองโคราช”ทำให้โคราชได้มีการใช้ชีวิตที่อยู่กับอดีต และรักกัน ถือว่าเป็นกิจกรรมที่ดีมาก ต้องขอบคุณท่านนายกฯ ท่านปลัดฯ ข้าราชการทุกท่านที่ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมและขอขอบคุณพี่น้องประชาชนชาวโคราช ที่มีความร่วมมือร่วมใจคนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกัน รักษาประเพณีอันดีงาม
“ในโอกาสวันประเพณีลอยกระทง ผมขออาราธนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ในบ้านเมือง ขอบารมีของคุณย่าโม หลวงพ่อคูณ ได้โปรดดลบันดาลประทานพร และขอให้คำอธิษฐานของพี่น้องประชาชนกับกระทงที่จะร่วมกันล่องลอย ในค่ำคืนนี้เป็นจริงสมปรารถนาทุกประการ”นายสุวัจน์ กล่าว
จากนั้น คณะนายสุวัจน์ เดินทางไปเปิด “งานประเพณีลอยกระทง พระประทีปพระราชทาน” โครงการประเพณีลอยกระทง เทศบาลโคมไฟและส่งเสริมผลิตภัณฑ์ OTOP ประจำปี 2565 และโครงการส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่น (แข่งขันเรืออีโปง) ประจำปี 2565 ณ บริเวณตลาดน้ำบึงหัวทะเล ตำบลหัวทะเล อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา โดย นายเอกภพ โตมรศักดิ์ นายกฯ ตำบลหัวทะเล นายวัชรพล โตมรศักดิ์ สส.นครราชสีมา เขต 2 พรรคชาติพัฒนากล้า คณะผู้บริหารเทศบาลฯ ภาคเอชน และพี่น้องประชาชนจำนวนมาก
นายสุวัจน์ กล่าวว่า ลอยกระทงพระประทีปพระราชทาน นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันสูงยิ่งที่ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ได้ทรงพระราชทานพระประทีป พระราชทานสําหรับการจัดงานในครั้งนี้
“ผมรู้สึกยินดีที่ท่านนายกเทศมนตรีและคณะผู้บริหาร ได้ร่วมกับภาคราชการและภาคเอกชน ในการจัดงานประเพณีลอยกระทง เพื่อเป็นการแสดงออกถึงการรักษาประเพณีอันดีงาม อยากให้พี่น้องประชาชนชาวโคราชได้ภาคภูมิใจกับความเป็นชาวโคราช กับความเป็นจังหวัดนครราชสีมา เพราะจังหวัดของเรานั้นมีเอกลักษณ์ มีความโดดเด่นที่ไม่เหมือนใคร เรามีเพลงโคราช มีภาษาโคราช มีอาหารโคราช มีมวยโคราช มีไหมโคราช มีศิลปะ มีดนตรี ฉะนั้น ความเป็นเอกลักษณ์ทางด้านวัฒนธรรมที่เป็นตัวตนของเมืองโคราช ถือว่าเป็นจุดแข็งของจังหวัดนครราชสีมา”
ฉะนั้น การจัดงานในวันนี้มีคุณค่าในการสร้างความรักชาติ รักเมืองโคราช และมีคุณค่าในการที่จะเป็นพื้นฐานในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศต่อไป
นอกจากนั้น สถานที่แห่งนี้ ที่ท่านนายกเทศมนตรี ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ ทําให้เกิดบึงหัวทะเล ตลาดน้ำหัวทะเล จนกลายเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญอีกแห่งหนึ่งของเมืองโคราช
เป็นประโยชน์ในการจัดงานต่างๆ เป็นประโยชน์ในเรื่องการสันทนาการ เป็นประโยชน์ในเรื่องของเศรษฐกิจ เป็นศูนย์รวมในการสร้างความสุขให้กับพี่น้องประชาชน ต้องขอขอบคุณท่านนายกฯ คณะผู้บริหาร ที่ได้พัฒนาสิ่งดีๆให้กับเมืองโคราช แล้วก็ให้กับพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมา
ทั้งนี้ ภายในงานมีการประกวดกระทงอนุรักษ์ธรรมชาติ ประเภทกระทงจิ๋ว และกระทงใหญ่ มีการแสดงพุล การแสดงวัฒนธรรมนานาชาติ การแสดงจิตลีลาประกอบเพลง ศิลปวัฒนธรรมต่างๆ การจัดการแข่งขันเรืออีโปง ร่วมทั้งการจัดกิจกรรมออกร้านจำหน่ายสินค้า การออกร้านจำหน่ายสินค้า OTOP และร้านอาหารประเภท Stree Food