10 พฤศจิกายน 2565 เวลา 11.10 น. ตามเวลาท้องถิ่น ณ กรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา (เวลาเท่ากับประเทศไทย) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หารือกับ สมเด็จอัคคมหาเสนาบดีเดโชฮุน เซน นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรกัมพูชา ในช่วงการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 40 และ 41 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้องเพื่อกระชับความสัมพันธ์หลังจากผู้นำทั้งสองว่างเว้นจากการพบปะหารือกันมากว่า 3 ปี เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 และเพื่อติดตามความคืบหน้าและหารือประเด็นสำคัญต่าง ๆ ในระดับทวิภาคี
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยสาระสำคัญ ดังนี้ นายกรัฐมนตรียินดีต่อความสำเร็จในการปฏิบัติหน้าที่ประธานอาเซียนของกัมพูชาพร้อมขอบคุณที่ตอบรับคำเชิญเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ในฐานะแขกพิเศษ
โดยนายกรัฐมนตรียินดีกับทิศทางความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างไทย-กัมพูชาที่แน่นแฟ้น ราบรื่น ซึ่งต้องขอบคุณนายกรัฐมนตรีกัมพูชาที่ให้ความใส่ใจและสนับสนุนอย่างเต็มที่ด้วยตนเอง จนทำให้มีความร่วมมือที่ดีในทุด้านที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน และหวังว่า จะได้กระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นไปในทุกระดับ
ทั้งนี้ ไทยชื่นชมและสนับสนุนความพยายามของกัมพูชา ในฐานะประธานอาเซียน กับการรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 และการร่วมมือกันในการฟื้นฟูเศรษฐกิจสังคม รวมถึงการผลักดันให้อาเซียนมีบทบาทที่สร้างสรรค์ในการรักษาเสถียรภาพ สันติภาพ และความเจริญของภูมิภาค
ด้านนายกรัฐมนตรีกัมพูชากล่าวชื่นชมความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างทั้งสองประเทศ ยินดีที่กัมพูชาและไทยมีการแลกเปลี่ยนการเยือนและการหารือกันอย่างต่อเนื่องในทุกระดับ รวมทั้งได้ยืนยันความพร้อมที่จะทำงานร่วมกับไทยอย่างต่อเนื่องเพื่อสานต่อความร่วมมือทั้งในระดับทวิภาคี และพหุภาคีให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น
ทั้งสองฝ่ายยินดีที่เศรษฐกิจของไทยและกัมพูชาเติบโตอย่างต่อเนื่อง เชื่อมโยงกันอย่างแน่นแฟ้น โดยการค้าระหว่างกันมีการขยายตัวอย่างชัดเจน ซึ่งทั้งสองเห็นพ้องที่จะกระชับความร่วมมือและทำงานอย่างใกล้ชิดเพื่อส่งเสริมการค้าชายแดนและให้บรรลุเป้าหมายการค้าที่ 15 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี ค.ศ. 2025
ไทยและกัมพูชาชื่นชมความร่วมมือด้านการเงินและเศรษฐกิจดิจิทัลที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้น โดยนายกรัฐมนตรีได้เสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของทั้งสองประเทศหารือกัน เพื่อกระชับความร่วมมือด้านการเงินและเศรษฐกิจดิจิทัลในมิติต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น
ในด้านความเชื่อมโยง ไทยให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความเชื่อมโยงด้านการคมนาคมขนส่งกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งทั้งสองฝ่ายยินดีที่มีการเปิดใช้งานทางหลวงพิเศษระหว่างกรุงพนมเปญกับจังหวัดพระสีหนุ ซึ่งเป็นทางหลวงพิเศษสายแรกของกัมพูชาเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งไทยพร้อมร่วมมือกับกัมพูชาอย่างเต็มที่เพื่อส่งเสริมความเชื่อมโยงทางคมนาคมขนส่งระหว่างสองประเทศมากยิ่งขึ้น
ความสัมพันธ์ระดับประชาชน นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ขอให้หน่วยงานความร่วมมือด้านการฝึกอบรมและการแลกเปลี่ยนบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของทั้งสองฝ่ายสานต่อการหารือเพื่อให้เกิดความร่วมมือที่เป็นรูปธรรม โดยเฉพาะในด้านการแพทย์และการศึกษา ซึ่งเป็นด้านที่นายกรัฐมนตรีกัมพูชาให้ความสำคัญ
ด้านปัญหาขบวนการหลอกลวงทางโทรศัพท์ข้ามชาติ (แก๊งค์ call center) นายกรัฐมนตรีขอบคุณกัมพูชาที่ให้ความร่วมมืออย่างดียิ่งในการช่วยเหลือคนไทยที่ถูกชักชวนไปทำงานกับขบวนการหลอกลวงทางโทรศัพท์ข้ามชาติ (แก๊งค์ call center) ในกัมพูชา โดยไทยตระหนักดีว่าขบวนการ call center เป็นชาวต่างชาติที่เข้ามาใช้กัมพูชาเป็นฐานปฏิบัติการ และยินดีที่กัมพูชาให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจัง และพร้อมให้การสนับสนุนในการส่งเสริมความร่วมมือเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวทั้งในระดับทวิภาคีและระดับภูมิภาค
ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีได้ขอรับการสนับสนุนการสมัครเป็นเจ้าภาพจัดงาน Expo 2028-Phuket Thailand จากกัมพูชา โดยหวังที่จะให้เวทีนี้เป็นเวทีให้นานาประเทศนำเสนอแนวทางเพื่อเป็นทางออกร่วมกัน และแลกเปลี่ยนความร่วมมือสู่ความยั่งยืน