นายกนก วงษ์ตระหง่าน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีผลศึกษาพบว่า มหาวิทยาลัยไทยกำลังเผชิญปัญหารอบด้าน จนเป็นเหตุให้อยู่ไม่ได้ ปัจจุบันมีนับ 10 แห่ง ที่ขายกิจการให้ทุนจีนเข้ามาดำเนินการว่า
สาเหตุมาจากหลายปัจจัย คือ
)นักเรียนที่เข้ามหาวิทยาลัยลดลงทุกปี
2)หลักสูตรและคุณภาพการเรียนการสอนไม่สอดคล้องความต้องการของผู้เรียน การปรับตัวของมหาวิทยาลัยและอาจารย์ในเรื่องนี้ช้า
3)กระทรวงอุดมศึกษาฯไม่สามารถขับเคลื่อนการพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนได้ตามที่นักศึกษาและสังคมต้องการ
4)ประเทศจีนมีนักศึกษามากที่ไม่มีโอกาสเข้ามหาวิทยาลัยในประเทศ จึงต้องหาโอกาสที่จะเรียนในประเทศใกล้บ้าน
5)นักศึกษาจีนเห็นโอกาสการค้าขายในประเทศไทย: ส่งสินค้าไทยโดยเฉพาะอาหารและผลไม้ไปขายในจีน และส่งสินค้าจีนราคาถูกกว่ามาขายในไทย
6)ประสบการณ์และผลสำเร็จของนักศึกษาจีนที่เรียนจบในไทยและได้ธุรกิจไทย-จีนที่ทำรายได้ดี จึงมานักศึกษาจีนที่อยากมาเรียนในไทยเพิ่มมากขึ้นอย่าวรวดเร็ว
"ทั้งหมดนี้ทำให้นักธุรกิจจีนที่เห็นโอกาสและมีทุนสูงเข้ามาซื้อมหาวิทยาลัยไทย ด้วยการใช้ช่องว่างของกฏหมาย และความไม่มีประสิทธิภาพของกระทรวงอุดมศึกษาฯในการกำกับควบคุมมาตรฐาน คือจะเข้าไปตรวจสอบเมื่อเกิดการร้องเรียน หรือเกิดปัญหาแล้วในสื่อสาธารณะ
ปรากฎการณ์นี้จึงเกิดจากทั้งแรงจูงใจของนักธุรกิจจีนและนักศึกษาจีนที่จะเข้ามาในไทย และความอ่อนแอของการรักษากฎหมายของกระทรวงอุดมศึกษาไทย ดังนั้นการแก้ไขจะต้องแก้ทั้งสองด้าน ไม่ใช่การวิ่งไล่ตรวจสอบตามที่มีการร้องเรียนเช่นที่ผ่านมาเท่านั้น" นายกนก กล่าว