ประเด็นกำลังร้อนระอุ สำหรับตำแหน่งเก้าอี้ “ประธานสภา” ระหว่างพรรคเพื่อไทย และ พรรคก้าวไกล ยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้อย่างชัดเจน โดยทางฝั่งเพื่อไทย ยืนยันดีลเดิม 14+1 ขณะที่ก้าวไกล ก็ยืนยันหลักการพรรคอันดับหนึ่งต้องได้ตำแหน่งประธานสภาด้วย พร้อมวางตัว นายปดิพัทร์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก นั่งเก้าอี้ประธานสภา
แม้ว่า ก่อนหน้านี้ทั้งสองพรรคได้กำหนดว่าจะเจรจาหาข้อสรุปเรื่องตำแหน่งประธานสภา ให้จบในวันที่ 28 มิถุนายน 2566 นี้ แต่ท้ายที่สุด การประชุมดังกล่าวก็ต้องถูกแจ้งเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด
ล่าสุด พรรคก้าวไกล ได้มีการนำเสนอข้อมูลการแสดงวิสัยทัศน์ของ “ปดิพัทธ์ สันติภาดา” แคนดิเดตประธานสภา ของพรรคก้าวไกล โดยมีเนื้อหาว่า วิสัยทัศน์แคนดิเดตประธานสภาของพรรคก้าวไกล : สร้างรัฐสภาที่มีประสิทธิภาพ โปร่งใส และเป็นของประชาชน
โดยในการเลือกตั้ง 2566 ที่เพิ่งผ่านมา กระแสความต้องการการเปลี่ยนแปลง ปรากฏเข้มข้นและชัดเจนอย่างไม่เคยมีมาก่อน จนนำพาพรรคก้าวไกลสู่การเป็นพรรคการเมืองที่ได้เสียงมากที่สุดในสภาผู้แทนราษฎร พี่น้องประชาชนหวังถึงความเปลี่ยนแปลง ไม่ใช่แค่เปลี่ยนรัฐบาล เปลี่ยนนายกรัฐมนตรี แต่รวมถึงการเปลี่ยนรัฐสภาด้วย ในฐานะตัวแทนโดยตรงของประชาชน
ผมมีความตั้งใจที่จะผลักดันรัฐสภาไทยให้เป็นสภาที่ก้าวหน้าที่สุดในเอเชีย ทั้งในแง่การออกกฎหมายและวัฒนธรรมองค์กรรัฐสภาชุดนี้ จะเป็นรัฐสภาของประชาชน และเป็นรัฐสภาที่ไม่ถูกครอบงำโดยฝ่ายบริหาร มีเจตจำนงแน่วแน่ในการใช้อำนาจที่ได้รับมาจากประชาชน รับใช้ประชาชน โดยไม่เลือกปฏิบัติหรือโอนอ่อนตามพรรคการเมืองใด
สำหรับภารกิจของรัฐสภา จะประกอบไปด้วย 3ป. ได้แก่ ประสิทธิภาพ โปร่งใส ประชาชน แยกเป็น
ประสิทธิภาพ
ประสิทธิภาพในการใช้เวลาการประชุม พิจารณากฎหมาย ข้อร้องเรียน ความเดือดร้อนของประชาชนอย่างรวดเร็ว ไม่เกิดเหตุสภาล่มบ่อยครั้ง
ประสิทธิภาพในการออกกฎหมาย เป็นฝ่ายนิติบัญญัติที่เข้มแข็ง ส่งเสริมให้ ส.ส. เสนอร่างกฎหมายมากขึ้น เพื่อทำหน้าที่นิติบัญญัติอย่างแท้จริง ไม่ใช่เพียงรับรองกฎหมายของรัฐบาล
ประสิทธิภาพในการเชื่อมต่อกับประชาคมโลก แปลกฎหมายเป็นภาษาอังกฤษ เพื่อเอื้อต่อการศึกษา ดูงาน เพิ่มความร่วมมือกับสภาต่างประเทศในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการออกกฎหมายที่ก้าวหน้า
ประสิทธิภาพในการตรวจสอบการบริหารราชการแผ่นดิน เช่น การเรียกรัฐมนตรีเข้าตอบกระทู้ และใช้กลไกกรรมาธิการอย่างเข้มแข็ง โดยไม่เลือกปฏิบัติไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมืองใด
ประสิทธิภาพในการใช้งบประมาณ เช่น งบเลี้ยงรับรอง งบดูงานต่างประเทศ เพิ่มงบดูแลสวัสดิการของข้าราชการ ลูกจ้าง แม่บ้าน ตำรวจสภา ลดงบโครงสร้างพื้นฐานของสภา ไปเพิ่มงบพัฒนาการทำงานวิชาการของสภา ติดตามตรวจสอบการก่อสร้างสภาที่ล่าช้า
โปร่งใส
จัดทำระบบเปิดข้อมูลการอภิปราย การทำงาน การเข้าประชุม การลงมติ ของ ส.ส. ให้ประชาชนทั่วไปตรวจสอบได้ง่าย
จัดทำระบบติดตามสถานะของร่างกฎหมาย
การจัดซื้อจัดจ้าง ทำสัญญาจ้างพนักงานอย่างเป็นธรรมและโปร่งใส
จัดทำระบบแสดงตนที่โปร่งใส ไร้การเสียบบัตรแทนกัน
ประชาชน
ให้ประชาชนใช้บริการสภาได้โดยง่าย เข้าถึงทุกบริการอย่างสะดวก เช่นห้องสมุด พิพิธภัณฑ์ ห้องให้นม ห้องเลี้ยงเด็ก
สนามหญ้ารอบสภา จะเป็นที่แสดงออกของคนทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียมกัน
จัดทำสภาเยาวชน เพื่อสะท้อนเสียงและความต้องการของเยาวชนไปถึงผู้บริหารประเทศ
จัดสภาสัญจรไปยังกลุ่มประชาชนที่เข้าไม่ถึงบริการและทรัพยากรรัฐ
สร้างระบบให้ประชาชนเข้าถึง ติดต่อ สอบถามสมาชิกรัฐสภาทุกคนได้ผ่านเว็บไซต์
เขาระบุด้วยว่า รัฐสภาคือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เพราะสภาคือศูนย์กลางอำนาจที่สถาปนาโดยประชาชน เป็นตัวแทนของประชาชนเจ้าของประเทศ ประเทศไทยที่เราอยากเห็นจะเกิดขึ้นได้ ก็ต้องเริ่มสร้างจากในรัฐสภาเป็นแห่งแรก และรัฐสภายังเป็นหนึ่งในสามอำนาจอธิปไตยของประเทศ ความเป็นนิติรัฐ เป็นประชาธิปไตย ของประเทศ ย่อมขึ้นอยู่กับฝ่ายนิติบัญญัติเป็นสำคัญ
ผมมุ่งมั่นจะทำให้สภาเป็นเสาหลักของประชาธิปไตย ค้ำจุนประเทศให้ได้ ให้สมกับที่ผู้แทนราษฎรทุกคน ได้รับมอบหมายให้ใช้อำนาจแทนประชาชนผู้เป็นเจ้าของประเทศ